10 ธ.ค. 2019 เวลา 10:36 • ความคิดเห็น
วิทยาศาสตร์แห่งการแก้แค้น : การล้างแค้นแบบทำลาย โดย VlPFC หรือสร้างสรรค์โดย VmPFC
สิ่งที่แตกต่างระหว่าง พยาบาท (revenge) กับ ความยุติธรรม (justice) คือ "ความเกลียดชัง"..
สืบเนื่องจากละครเพลิงเสน่หา..ที่สะกิดใจว่าหาก "คุณเทียน" ละวางสิ่งที่โดนกระทำในอดีตได้ ก็คงมีชีวิตที่สงบสุข แต่..บางส่วนก็ค้านว่าคนแบบ ขุนสัก ไม่ควรได้รับผลกรรมชั่วหรือ?..คำตอบก็อยู่ในประโยคด้านบนแล้ว
VlPFC สมองนักวางแผนล้างแค้น ภาพจาก (1)
🍀 "การถูกปฎิเสธจากกลุ่ม" ความเจ็บปวดรุนแรงของมนุษย์
สมัยมนุษย์ยังอยู่ในป่า ความอ่อนแอทางร่างกาย ทำให้การอยู่ร่วมกันเพื่อป้องกันตัวและออกล่า มีความสำคัญมาก..ใครถูกขับจากกลุ่มหมายถึงตายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
2
นักประสาทวิทยาตั้งสมมติฐานว่า แรงผลักดันนี้ มนุษย์มีแนวโน้มมองหาการรวมตัวเป็นกลุ่มก้อนที่เหนียวแน่น และกาวที่เชื่อมกลุ่มได้เหนียวแน่นนั้น ไม่มีอะไรทรงพลังเท่ากับ "ความเกลียดชัง"ที่มีร่วมกัน
ความเกลียดชัง..มาจากความรู้สึกไม่ปลอดภัย กลัวจะสูญเสียอะไรที่สำคัญ..ในอดีตอาจเป็นชีวิต พื้นที่หาอาหาร ต่อมา เป็นค่านิยม ความเชื่อ ความศรัทธา..สิ่งที่ปลุกระดมมวลชนง่ายที่สุดตือ "พวกนั้นจะทำให้เราเสีย..."
1
🍀การศึกษา functional MRI (2) พบว่า ขณะรู้สึกเกลียดชัง สมองส่วน amygdala และ insula บริเวณเดียวกับเมื่อเกิดความกลัวทำงาน แต่สิ่งที่แตกต่างคือ สมองส่วนหน้า Ventrolateral (VlPFC) ทำงานเพิ่มขึ้นด้วย และพบว่ายิ่งส่วนนี้ทำงานมากเท่าไรยิ่งมีแนวโน้มเกิดการ "ล้างแค้น" (Revenge)
หากจำได้ข้าพเจ้าเคยเล่าเรื่องตุ๊กตาล้มลุก (3) มีสมองส่วนหน้าที่ช่วยให้ตัดสินใจแก้ปัญหาสร้างสรรค์ คือ Ventro'medial' (VmPFC)ค่ะ
สีเขียว =สมองส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแปรอารมณ์เป็นพฤติกรรม ภาพจาก (2)
ที่น่าสนใจคือ VlPFC คือสมอง "นักวางแผน" เป็นส่วนที่มีความสามารถคิดหากลยุทธ ซึ่งหากเอามาคิดแก้แค้นก็คิดวิธีได้แยบยล และคิดหาเหตุผลเพื่อกลบความรู้สึกผิดได้อย่างแนบเนียน..
ทั้งยังเชื่อมกับระบบโดปามีนที่ทำให้รู้สึกรับรางวัล (rewarding system) เวลาทำสำเร็จดังวางแผน..
จนมีผู้กล่าวว่า "คนเราสามารถเสพติดการล้างแค้นเหมือนติดความหวาน" (4)
🍀 Reflection เขียนเพื่อเตือนตน : ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ข้าพเจ้าละทิ้งพฤติกรรมดั้งเดิมและสร้างพฤติกรรมใหม่ ซึ่งอาจเป็นเพราะพลังจาก 'micro revenge' จากความรู้สึก 'โกรธ' ลึกๆ ต่อบางสิ่งในสังคม..
5 ลด ละ เลิก
1. ทานบะหมี่สำเร็จรูป อาหารกระป๋อง
2. ซื้อของจากร้านเชนสะดวกซื้อ
3. ทานอาหารเที่ยง (เพราะเวลาน้อย เป็นเหตุให้ต้องทำข้อ 2) นำมาสู่ intermittent fasting
4.ซื้อของในห้างสรรพสินค้าใหญ่ และดิวตี้ฟรีสนามบิน นำมาสู่ทานอาหารเมือง ใช้ของท้องถิ่น
5.Facebook, Youtube..น่าเสียดายสื่อดี ที่ถูกนำมาเป็นหน้าต่างแสดงความเกลียดชังอย่างเสรี
ความเกลียดที่มีรากฐานมาจากความรู้สึกแบ่งเขาแบ่งเรา..เปรียบเหมือนปืนที่บรรจุกระสุน..พกไว้มันทำให้เราห้าวหาญไม่กลัวอะไร..แต่ก็เป็นอาวุธที่ก่ออันตรายต่อทั้งผู้อื่นและตนเองได้อยู่ดี.. ขั้นต่อไปที่ข้าพเจ้าจะพยายามคือ ถอดกระสุนจากปืนนี้ วางมันลง ฝังดิน มอบให้ธรรมชาติจัดการ...แล้วเดินต่อไปข้างหน้า
ปล..สิ่งลดละเลิกด้านบน บัดนี้กลายเป็นพฤติกรรมถาวรที่ไม่ต้องการใช้ความเกลียดขับเคลื่อนอีกต่อไป..
ไม่มีความยึดติดในสิ่งใด.. ก็ไม่ต้องมีพวกเรา..ไม่มีพวกเราก็ไม่มีพวกเขา..แล้วจะเกิดความเกลียดและการแก้แค้นได้อย่างไร..
แต่การมีจิตใจเข้มแข็งก้าวข้ามเส้นแบ่งตัวเรากับสรรพสิ่งนี้ก็ไม่ง่ายเลย..
"Weak people..revenge
Strong people..forgive
Intellect people..ignore"

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา