1 ธ.ค. 2019 เวลา 12:19 • ความคิดเห็น
เภสัชกรพาเที่ยว “นรก”
คำเตือน : บทความนี้ยาวมาก ตอนแรกจะแบ่งเป็นตอน ๆ แต่ระหว่างที่เขียนเกิดความรู้สึกขึ้นว่า ถ้าหากพรุ่งนี้ไม่มีล่ะ วันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายที่ได้อ่านหรือได้เขียนบทความ จึงขอเขียนให้จบในบทความเดียวเลยละกัน
เรื่องราวที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ พระพุทธเจ้าตรัสว่า พระองค์ไม่ได้ฟังมาจากสมณะหรือพราหมณ์คนอื่น ๆ แล้วนำมาบอก พระองค์บอกเรื่องที่พระองค์รู้เอง เห็นเอง ปรากฎเองทั้งนั้น
คำใดที่ออกมาจากพระองค์ คำนั้นเป็นคำจริง ประกอบด้วยประโยชน์ พระพุทธเจ้าไม่พูดล้อเล่น หรือพูดโกหก เมื่อเราเชื่อในตัวพระองค์ เรามาฟังเรื่องราวของนรกกันครับ
ทำเหตุอันใดถึงได้ไปเกิดในนรก ?
ง่ายมากครับ เพียงแค่เราทำกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต (นั่นคือความไม่สะอาดทางกาย ทางวาจา ทางใจ มี 10 อย่าง ขอเพิ่มตอนท้าย บางท่านอาจจะรู้แล้ว)
เมื่อตายไปแล้วเราจะได้เข้าถึงนรกแน่นอน
ในนรกจะมี 2 บุคคลที่อยากให้พวกเรารู้จักเวลาไปจริง ๆ จะได้ไม่เก้อเขิน คนแรกคือผู้เป็นใหญ่ในนรกคือ “พระยายม” หัวหน้าผู้ปกครองนรก และมีลูกน้องคือ “นายนิรยบาล” ผู้คอยนำสัตว์นรกไปลงโทษ
พอเรามาถึงนรก เหล่านายนริยบาลจะมาจับแขนเราแล้วลากไปพบพระยายม
นายนิรยบาลก็จะแจ้งต่อพระยายมว่า บุรุษผู้นี้ไม่ทำดีกับมารดา ไม่ทำดีกับสมณะพราหมณ์ ไม่อ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ในสกุล ขอท่านพระยายมจงลงโทษบุรุษผู้นี้เถิด
เราไม่ต้องกลัวนะ ท่านพระยายมใจดีมาก ๆ ไม่ต้องกลัว
เมื่อได้ฟังดังนั้นพระยายมจะปลอบโยนเรา เอาอกเอาใจเรา และถามเราถึงเทวทูตทั้ง 5 ว่าเราเคยเห็นบ้างไหม ตอนยังมีชีวิตอยู่ (ใครไม่เคยเห็นจำไว้ให้ดี จะได้ตอบพระยายมถูก)
เทวทูตที่ 1
พระยายมจะเรียกเราว่า “พ่อมหาจำเริญ” นะ เห็นไหม ท่านใจดี บอกแล้ว
ท่านจะถามเราว่า “ท่านไม่ได้เห็นเทวทูตที่ 1 ปรากฎในหมู่มนุษย์หรือ ?” เราก็จะตอบว่า “ไม่เห็น” เทวทูตที่ 1 คืออะไรหว่าไม่รู้จัก
พระยายมถามใหม่ว่า “พ่อมหาจำเริญ ! ท่านไม่ได้เห็นเด็กแดง ๆ ยังอ่อน นอนหงาย เปื้อนอุจจาระปัสสาวะของตน อยู่ในหมู่มนุษย์หรือ ?” เราเคยเห็นไหมครับ เด็กแรกเกิด ถ้าเคยต้องตอบท่านพระยายมไปนะ ว่า “เคยเห็น เจ้าข้า”
พระยายมก็จะตอบกลับเลยว่า “พ่อมหาจำเริญ ! ท่านนั้นเมื่อรู้ความ มีสติ เป็นผู้ใหญ่แล้ว เคยคิดบ้างไหมว่าแม้ตัวท่านเองก็มีความเกิดเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเกิดไปได้ ท่านควรที่จะทำความดีทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ”
⭐️ ตอบว่าอย่างไรดีครับ “ไม่เคยคิด เพราะมัวประมาทอยู่” ตอบตรง ๆ แบบมั่นใจ
พระยายมก็จะกล่าวต่อว่า “พ่อมหาจำเริญ ! ท่านไม่ได้ทำความดีทั้งทางกาย ทางวาจาและทางใจไว้ เพราะมัวประมาทเสีย ดังนั้น เหล่านายนิรยบาลจะลงโทษท่าน เพราะเหตุที่ท่านประมาท
ก็บาปกรรมนี้ ไม่ใช่แม่ทำให้ท่าน ไม่ใช่พ่อทำให้ท่าน ไม่ใช่พี่น้องชายทำให้ท่าน ไม่ใช่พี่น้องหญิงทำให้ท่าน ไม่ใช่เพื่อนทำให้ท่าน ไม่ใช่ญาติทำให้ท่าน ไม่ใช่สมณะและพราหมณ์ทำให้ท่าน ไม่ใช่เทวดาที่ไหนทำให้ท่าน ตัวท่านเองนั่นแหละทำเอง ท่านเท่านั้นจะต้องรับผลของบาปกรรมนี้” ⭐️
เทวทูตที่ 2
พอจบเทวทูตที่ 1 พระยายมก็จะถามเราต่อว่า “ท่านไม่ได้เห็นเทวทูตที่ 2 ปรากฎในหมู่มนุษย์หรือ ?” เราก็จะตอบว่า “ไม่เห็น” อีกเช่นเคย
พระยายมถามใหม่ว่า “พ่อมหาจำเริญ ! ท่านไม่ได้เห็นหญิงหรือชาย มีอายุ 80 ปี 90 ปี หรือ 100 ปีนับแต่เกิดมาเป็นผู้ชรา ซี่โครงคด หลังงอ ถือไม้เท้างกเงิ่น เดินไป กระสับกระส่าย ล่วงวัยหนุ่มสาว ฟันหัก ผมหงอก หนังเหี่ยวย่น ศีรษะล้าน ผิวตกกระในหมู่มนุษย์หรือ ?”
เคยเห็นไหมครับ เทวทูตที่ 2 คือ “คนแก่” นั่นเอง ทุกคนเคยเห็น ตอบท่านพระยายมไปเลยครับว่า “เคยเห็น เจ้าข้า”
พระยายมก็จะตอบกลับเลยว่า “พ่อมหาจำเริญ ! ท่านนั้นเมื่อรู้ความ มีสติ เป็นผู้ใหญ่แล้ว เคยคิดบ้างไหมว่าแม้ตัวท่านเองก็มีความแก่เป็นธรรมดาไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้ ท่านควรที่จะทำความดีทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ”
เหตุการณ์หลังจากนี้จะเหมือนกับจุดที่ ⭐️ ในเทวทูตที่ 1 จนจบ
เทวทูตที่ 3
พอจบเทวทูตที่ 2 พระยายมก็จะถามเราต่อว่า “ท่านไม่ได้เห็นเทวทูตที่ 3 ปรากฎในหมู่มนุษย์หรือ ?” เราก็จะตอบว่า “ไม่เห็น” อีกเช่นเคย
พระยายมถามใหม่ว่า “พ่อมหาจำเริญ ! ท่านไม่ได้เห็นหญิงหรือชาย ผู้ป่วย ทนทุกข์ เป็นไข้หนัก นอนเปื้อนอุจจาระปัสสาวะของตน มีคนอื่นคอยพยุงลุกพยุงเดินในหมู่มนุษย์หรือ ?”
เคยเห็นไหมครับ เทวทูตที่ 3 คือ “คนป่วย” นั่นเอง ทุกคนเคยเห็น ตอบท่านพระยายมไปเลยครับว่า “เคยเห็น เจ้าข้า” ผมนี่เห็นเป็นประจำทุกวันเลย
พระยายมก็จะตอบกลับเลยว่า “พ่อมหาจำเริญ ! ท่านนั้นเมื่อรู้ความ มีสติ เป็นผู้ใหญ่แล้ว เคยคิดบ้างไหมว่าแม้ตัวท่านเองก็มีความเจ็บป่วยเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บป่วยไปได้ท่านควรที่จะทำความดีทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ”
ขณะที่เขียนบทความนี้ ความป่วยได้แวะมาเยี่ยมเยียนเข่นกัน
เหตุการณ์หลังจากนี้จะเหมือนกับจุดที่ ⭐️ ในเทวทูตที่ 1 จนจบ
เทวทูตที่ 4
พอจบเทวทูตที่ 3 พระยายมก็จะถามเราต่อว่า “ท่านไม่ได้เห็นเทวทูตที่ 4 ปรากฎในหมู่มนุษย์หรือ ?” เราก็จะตอบว่า “ไม่เห็น” อีกเช่นเคย
พระยายมถามใหม่ว่า “พ่อมหาจำเริญ ! ท่านไม่ได้เห็นพระราชาทั้งหลาย ในหมู่มนุษย์จับโจรผู้ประพฤติผิดมาแล้วสั่งลงโทษบ้างหรือ
สมัยนี้อาจจะเห็นได้ยาก อาจเปรียบเหมือนตำรวจจับนักโทษเข้าคุก แล้วมีการลงโทษ แต่ไม่รู้ว่าปัจจุบันลงโทษกันแบบไหนบ้าง แต่หากเป็นเมื่อก่อนบอกได้เลย โจรทำผิดพระราชาลงโทษโหดมาก จะเรียกว่าการลงโทษว่า “การลงกรรมกรณ์”
เช่น โบยด้วยแส้บ้าง โบยด้วยหวายบ้าง ตัดมือบ้าง ลงกรรมกรณ์วิธี หม้อเคี่ยวน้ำส้ม (คืออะไร ? ไว้ท่านใดสนใจสามารถนำมาเขียนเป็นบทความได้เลยครับ) เอาเป็นว่าแต่ละอย่างโหดมาก จนท้ายสุดคือตัดศีรษะด้วยดาบ
ถ้าเราเคยเห็นก็ตอบท่านพระยายมไปว่า “เคยเห็น เจ้าข้า”
พระยายมก็จะตอบกลับเลยว่า “พ่อมหาจำเริญ ! ท่านนั้นเมื่อรู้ความ มีสติ เป็นผู้ใหญ่แล้ว เคยคิดบ้างไหมว่า จำเริญละ สัตว์ที่ทำกรรมอันเป็นบาปไว้นั้นย่อมถูกลงโทษต่างชนิดเห็นปานนี้ในปัจจุบัน จะป่วยกล่าวไปไยถึงชาติหน้า ท่านควรที่จะทำความดีทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ”
เหตุการณ์หลังจากนี้จะเหมือนกับจุดที่ ⭐️ ในเทวทูตที่ 1 จนจบ
เทวทูตที่ 5
พอจบเทวทูตที่ 4 พระยายมก็จะถามเราต่อว่า “ท่านไม่ได้เห็นเทวทูตที่ 5 ปรากฎในหมู่มนุษย์หรือ ?” เราก็จะตอบว่า “ไม่เห็น” อีกเช่นเคย (ถ้าใครอ่านจบเทวทูตทั้ง 5 แล้ว จะตอบว่าไม่เคยเห็นไม่ได้ละนะ ถือว่าบอกแล้ว จะได้ตอบท่านพระยายมได้บ้าง)
พระยายมถามใหม่ว่า “พ่อมหาจำเริญ ! ท่านไม่ได้เห็นหญิงหรือชายที่ตายแล้ววันหนึ่งหรือสองวัน หรือสามวัน ขึ้นพอง เขียวชํ้า มีนํ้าเหลืองเยิ้มในหมู่มนุษย์หรือ ?”
ปัจจุบันอาจจะไม่เห็นศพขึ้นอึดโดยตรง เพราะใส่น้ำยากันศพเน่า เผาด้วยเตาไฟฟ้า บางที่อาจจะมีเผากลางแจ้ง อาจพอเห็นได้อยู่บ้าง เทวทูตที่ 5 คือ “คนตาย” นั่นเอง ถ้าเราเคยเห็นก็ตอบท่านพระยายมไปเลยครับว่า “เคยเห็น เจ้าข้า”
พระยายมก็จะตอบกลับเลยว่า “พ่อมหาจำเริญ ! ท่านนั้นเมื่อรู้ความ มีสติ เป็นผู้ใหญ่แล้ว เคยคิดบ้างไหมว่าแม้ตัวท่านเองก็มีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้ ท่านควรที่จะทำความดีทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ”
เหตุการณ์หลังจากนี้จะเหมือนกับจุดที่ ⭐️ ในเทวทูตที่ 1 จนจบ
ทุกคนที่มานรกนั้นมีเหตุมาจากความประมาททั้งสิ้น แม้จะเคยเห็นเทวทูตทั้ง 5 อยู่จริง แต่ไม่เคยน้อมนำมาพิจารณาว่าแม้เราเองก็เป็นเช่นนั้นแล
เหตุการณ์ต่อไปนี้จะพาทุกท่านไปดูว่านายนิรยบาลลงโทษสัตว์นรกอย่างไรบ้าง
หลังจากพระยายมปลอบโยน เอาอกเอาใจ ไต่ถามถึงเทวทูตที่ 5 แล้ว บุรุษนั้นก็นิ่งอยู่ แบบว่าจุก พูดอะไรไม่ออกจริง ๆ เมื่อไม่มีอะไรจะพูดแล้ว เตรียมรับบทลงโทษได้เลย
เหล่านายนริยบาล เริ่มลงโทษเบื้องต้น 6 ขั้นตอน
ขั้นที่ 1 เหล่านายนิรยบาลจะทำ “การจำ 5 ประการ” คือ ใช้ตะปูเหล็กแดงตรึงร่างสัตว์นรก 5 จุด ได้แก่ มือ 2 ข้าง เท้า 2 ข้าง และตรงกลางอกอีก 1 จุด
⭐️ สัตว์นั้น เมื่อเจอแบบนี้ จะเกิดความทุกข์กล้า เจ็บแสบอยู่ในนรกนั้นและยังไม่ตายตราบเท่าบาปกรรมยังไม่หมด (แอบบอกสัตว์นรกอายุยืนมาก ไว้มีโอกาสจะเล่าให้ฟัง)
ขั้นที่ 2 เหล่านายนิรยบาล จะจับสัตว์นั้นขึงพืดแล้วเอาผึ่งถาก
ขั้นที่ 3 เหล่านายนิรยบาล จะจับสัตว์นั้นเอาเท้าขึ้นข้างบน เอาหัวลงข้างล่างแล้วถากด้วยพร้า (ใช้มีดถาก)
ขั้นที่ 4 เหล่านายนิรยบาล จะเอาสัตว์นั้นผูกติดกับรถแล้วให้รถวิ่งกลับไปกลับมา บนแผ่นดินที่มีไฟติดทั่วลุกโพลง
ขั้นที่ 5 เหล่านายนิรยบาล จะให้สัตว์นั้นปีนขึ้นปีนลงภูเขาถ่านเพลิงลูกใหญ่ที่มีไฟติดทั่วลุกโพลง
ขั้นที่ 6 เหล่านายนิรยบาล จะจับสัตว์นั้นเอาเท้าขึ้นข้างบนเอาหัวลงข้างล่าง แล้วพุ่งลงไปในหม้อทองแดงที่มีไฟติดทั่ว ลุกโพลง
สัตว์นั้นจะเดือดพล่านเป็นฟองอยู่ในหม้อทองแดงนั้น เมื่อเดือดเป็นฟองอยู่ จะพล่านขึ้นข้างบนครั้งหนึ่งบ้าง พล่านลงข้างล่างครั้งหนึ่งบ้าง พล่านไปด้านขวางครั้งหนึ่งบ้าง (พล่านไปทั่วเลย)
ครบ 6 ขั้นตอนแล้ว หมดรึยังน้อ ตอบเลยว่ายัง นี่เพิ่งจะเริ่มต้นเองนะ เราไปชมกันต่อครับ
จากนั้น เหล่านายนิรยบาลจะโยนสัตว์นั้นเข้าไปในมหานรก
มาดูกันครับว่ามหานรกมีโครงสร้างอย่างไร มหานรกมี 4 มุม มี 4 ประตู แบ่งไว้โดยส่วนเท่ากัน มีกำแพงเหล็กล้อมรอบ ครอบไว้ด้วยแผ่นเหล็ก พื้นของมหานรกนั้นเต็มไปด้วยเหล็กลุกโพลง แผ่ไปตลอดร้อยโยชน์รอบด้าน (1 โยชน์ = 16 กิโลเมตร ดังนั้น 100 โยชน์ ก็ 1600 กิโลเมตร)
นึกถึงภาพกล่องเหล็ก 4 เหลี่ยม ที่มี 4 ประตู ไม่ใช่กล่องเหล็กธรรมดา แต่เป็นเหล็กที่มีไฟลุกอยู่ สัตว์นรกนั้นจะถูกนายนิรยบาลจับโยนลงมาในกล่องเหล็กนี้ (ขนาดกว้าง x ยาว x สูง ด้านละ 1600 กิโลเมตร)
สัตว์นรกเตรียมตัวเอาตัวรอดได้เลย
ยังไม่จบแค่นี้ ที่ฝาของมหานรกจะมีเปลวไฟพลุ่งจากฝาด้านหน้าจดฝาด้านหลัง พลุ่งจากฝาด้านหลังจดฝาด้านหน้า พลุ่งจากฝาด้านเหนือจดฝาด้านใต้ พลุ่งจากฝาด้านใต้จดฝาด้านเหนือ พลุ่งขึ้นจากข้างล่างจดข้างบน พลุ่งจากข้างบนจดข้างล่าง (ผนังของกล่องสี่เหลี่ยมมีไฟพลุ่งไปทั่วเลย ทุกทิศทุกทาง เอาไงดีสัตว์นรก)
⭐️ สัตว์นั้น เมื่อเจอแบบนี้ จะเกิดความทุกข์กล้า เจ็บแสบอยู่ในนรกนั้นและยังไม่ตายตราบเท่าบาปกรรมยังไม่หมด
ลูกเล่นของมหานรกยังไม่จบ
จะมีบางสมัย บางครั้งบางคราว ประตูทั้ง 4 จะเปิด (ความหวังมาแล้ว)
สัตว์นรกจะรีบวิ่งไปยังประตูนั้นโดยเร็วและย่อมถูกไฟไหม้ผิว ไหม้หนัง ไหม้เนื้อ ไหม้เอ็น แม้กระดูกทั้งหลายก็เป็นควันตลบ แต่อวัยวะที่สัตว์นั้นไหม้หมดแล้วจะกลับคืนรูปเดิมทันที (ไม่ตายแต่ทรมานสุด ๆ บอกเลย)
และในขณะที่สัตว์นรกใกล้จะถึงประตู ประตูนั้นจะปิด (อ่าว !!หลอกกันชัด ๆ)
จากนั้นจะมีบางสมัย บางครั้งบางคราว ประตูทั้ง 4 จะเปิดอีกครั้ง (ความหวังครั้งที่ 2 มาแล้ว)
สัตว์นรกจะรีบวิ่งไปยังประตูนั้นโดยเร็วและย่อมถูกไฟไหม้ผิว ไหม้หนัง ไหม้เนื้อ ไหม้เอ็น แม้กระดูกทั้งหลายก็เป็นควันตลบ แต่อวัยวะที่สัตว์นั้นไหม้หมดแล้วจะกลับคืนรูปเดิมทันที (ทำเหมือนเดิม)
แต่ !! ครั้งนี้ประตูเปิดจริง ๆ
สัตว์นรกจะออกทางประตูนั้นได้ แต่ออกไปแล้วจะเจอนรกที่เต็มด้วยคูถใหญ่ ประกอบอยู่รอบด้าน (คูถ = อุจจาระ)
สัตว์นรกก็จะตกลงในนรกคูถนั้น และในนรกคูถนั้น มีหมู่สัตว์ปากดังเข็ม ที่คอยเฉือดเฉือนผิว เฉือดเฉือนหนัง เฉือดเฉือนเนื้อ เฉือดเฉือนเอ็น และเฉือดเฉือนกระดูก แล้วกินเยื่อในกระดูก สัตว์นรกได้รับความทุกข์อย่างมาก แต่ไม่ตาย ตราบเท่าบาปกรรมยังไม่หมด
สัตว์นรกที่สามารถออกจากนรกคูถไปได้ จะไปเจอนรกที่เต็มไปด้วยเถ้ารึงใหญ่ (ขี้เถ้าร้อน) ซึ่งอยู่รอบ ๆ นรกคูถอีกทีสัตว์นรกก็จะตกลงไปในนรกเถ้ารึงนั้น ได้รับความทุกข์อย่างมาก แต่ไม่ตาย ตราบเท่าบาปกรรมยังไม่หมด
สัตว์นรกที่สามารถออกจากนรกเถ้ารึงไปได้ จะไปเจอป่างิ้วใหญ่ ต้นสูงชลูดขึ้นไปโยชน์หนึ่ง (ต้นงิ้วสูง 16 กิโลเมตร) มีหนามยาว 16 องคุลี มีไฟติดทั่วลุกโพลง
เหล่านายนิรยบาลจะบังคับให้สัตว์นั้นขึ้น ๆ ลง ๆ ที่ต้นงิ้วนั้น สัตว์นรกย่อมได้รับความทุกข์กล้า เจ็บแสบ อยู่ที่ต้นงิ้วนั้น และยังไม่ตายตราบเท่าบาปกรรมนั้นยังไม่สิ้นสุด
สัตว์นรกที่สามารถออกจากป่างิ้วไปได้ จะไปเจอป่าที่ต้นไม้มีใบเป็นดาบใหญ่ สัตว์นั้นจะเข้าไปในป่านั้น ครั้นเข้าไปแล้วจะถูกใบไม้ที่ลมพัด ตัดมือบ้าง ตัดเท้าบ้าง ตัดทั้งมือและเท้าบ้าง และตัดใบหูบ้าง ตัดจมูกบ้าง ตัดทั้งใบหูและจมูกบ้าง
สัตว์นั้นย่อมได้รับความทุกข์กล้า เจ็บแสบ อยู่ที่ป่าต้นไม้มีใบเป็นดาบนั้น และยังไม่ตายตราบเท่าบาปกรรมนั้นยังไม่สิ้นสุด
สัตว์นรกที่ออกจากป่าที่ต้นไม้มีใบเป็นดาบได้ จะไปเจอแม่น้ำใหญ่ น้ำเป็นด่าง สัตว์นั้นจะตกลงไปในแม่น้ำนั้น จะลอยอยู่ในแม่น้ำนั้น ตามกระแสบ้าง ทวนกระแสบ้าง ทั้งตามและทวนกระแสบ้าง
สัตว์นั้นย่อมได้รับความทุกกล้า เจ็บแสบ อยู่ในแม่น้ำนั้น และยังไม่ตายตราบเท่าบาปกรรมนั้นยังไม่สิ้นสุด
พอสัตว์นรกตกไปในน้ำ เหล่านายนิรยบาลจะพากันเอาเบ็ดเกี่ยวสัตว์นั้นขึ้นวางบนบก (ขอบคุณที่ช่วย 😭)
พอช่วยแล้วจึงถามว่า “พ่อมหาจำเริญ ! เจ้าต้องการอะไร”
สัตว์นรกบอกว่า “ข้าหิว” ได้เลยจัดให้ เหล่านายนิรยบาลจึงไปนำอาหารมาให้ ใช้ขอเหล็กร้อนมีไฟติดทั่ว ลุกโพลง เปิดปากออก แล้วใส่ก้อนโลหะร้อนมีไฟติดทั่ว ลุกโพลง เข้าในปาก
ก้อนโลหะนั้นจะไหม้ริมฝีปากบ้าง ไหม้ปากบ้าง ไหม้คอบ้าง ไหม้ท้องบ้าง ของสัตว์นั้น ลองนึกภาพตามครับ ทรมานสุด ๆ
จากนั้นจึงถามต่อว่า “พ่อมหาจำเริญ ! เจ้าต้องการอะไร” (อยากได้สิ่งใดเพิ่มอีกไหม)
สัตว์นรกบอกว่า “ข้าหิวน้ำ” ได้อีกเช่นกัน เดี๋ยวจัดให้ เหล่านายนิรยบาลจึงเอาขอเหล็กร้อนมีไฟติดทั่ว ลุกโพลง เปิดปากออกแล้วเอานํ้าทองแดงร้อนมีไฟติดทั่ว ลุกโพลง กรอกเข้าไปในปาก
น้ำทองแดงนั้นจะไหม้ริมฝีปากบ้าง ไหม้ปากบ้าง ไหม้คอบ้าง ไหม้ท้องบ้าง ของสัตว์นั้น และพาเอาไส้ใหญ่บ้าง ไส้น้อยบ้าง ออกมาทางส่วนเบื้องล่าง (ได้ข้าว ได้น้ำ แล้ว หวังว่าสัตว์นรกจะอิ่มนะ)
จากนั้นเหล่านายนิรยบาลจะโยนสัตว์นั้นเข้าไปในมหานรกอีก (จับโยนลงไปในกล่องสี่เหลี่ยมใหม่ วนเวียนเวียนอยู่อย่างนี้ จนกว่าบาปกรรมนั้นจะหมด)
ทราบไหมว่าท่านพระยายมเห็นอย่างนี้อยู่ตลอด เพราะสัตว์ที่มาเกิดในนรกมีมากเหลือเกิน จะมีความคิดว่าอย่างไร
พระยายมคิดอย่างนี้ “ขอเราพึงได้ความเป็นมนุษย์ ขอตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธะพึงเสด็จอุบัติขึ้นในโลก ขอเราพึงได้นั่งใกล้พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ขอพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นพึงทรงแสดงธรรมแก่เราและขอเราพึงรู้ทั่วถึงธรรมของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นเถิด”
พระยายมอยากเกิดเป็นมนุษย์ !!
ลองเทียบกับตัวเราดู เราได้ทุกอย่างที่พระยายมขอเลยนะ มนุษย์ก็ได้เป็นแล้ว โชคดีด้วยที่เกิดในยุคที่คำสอนของพระพุทธเจ้ายังหลงเหลืออยู่ (แม้จะเสื่อมไปบ้างแต่แก่นแท้ยังอยู่)
สิ่งที่เราขาดคือ เรารู้ทั่วถึงธรรมที่พระพุทธเจ้าแสดงแล้วหรือยัง ถ้ายังเตรียมตัวพบท่านพระยายมได้เลย อย่าลืมเตรียมตอบคำถามเรื่องเทวทูตทั้ง 5 ด้วยล่ะ
ทริปท่องเที่ยวนรกจบแล้ว ท่านใดที่อยากไป ดังที่เราได้กล่าวตอนต้นนั่นคือ ความไม่สะอาดทางกาย ทางวาจา ทางใจ 10 อย่าง ขอให้ท่านทำให้มาก ๆ ทำให้ติดเป็นนิสัย รับประกันท่านได้ไปนรกแน่นอน 10 อย่างเป็นเช่นไร
ความไม่สะอาดทางกาย 3 อย่างคือ ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม
ความไม่สะอาดทางวาจา 4 อย่างคือ พูดโกหก ส่อเสียด คำหยาบ เพ้อเจ้อ
ความไม่สะอาดทางใจ 3 อย่าง มีความโลภเพ่งเล็งอุปกรณ์แห่งทรัพย์ของผู้อื่น มีจิตพยาบาท และมีความเห็นผิด
สังเกตุดี ๆ จะมีถึง 4 ข้อที่อยู่ในศีล 5 เป็นเหตุผลว่าทำไมต้องรักษาศีลนั่นเอง
สุดท้ายแล้วจริง ๆ 10 ข้อที่ว่ามานี้อย่าทำเลย นรกนั้นพวกเราทั้งหลายเคยไปมาหมดแล้ว อย่าไปอีกเลย เพราะไม่มีการจองจำ ทรมานอันใด โหดร้ายเท่านรกอีกแล้ว จริง ๆ นะ เชื่อเถอะ
ที่มา อุปริ. ม. ๑๔/๓๓๔-๓๔๖/๕๐๔-๕๒๕.
และขอขอบคุณภาพทุกภาพจาก pixabay

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา