5 มี.ค. 2020 เวลา 07:00
NBA 103 - ทำความรู้จักกับคำศัพท์ในวงการ NBA (ตอนที่ 8) - Clutch Time
สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านครับ
บทความนี้จะเป็นตอนที่ 8 ใน Series NBA 103 นะครับ
สำหรับคำศัพท์ในบทความนี้ จะเป็นคำศัพท์ที่เรียกว่า "Clutch Time" ครับ
คำศัพท์ในวงการ NBA ตอนที่ 8
จริงๆ แล้ว คำนี้เคยอธิบายแบบคร่าวๆ ไปแล้ว ใน "Series NBA 102 - ทำความรู้จักกับระบบสถิติของ NBA (ตอนที่ 6)" นะครับ
แต่บทความนี้จะเอามาขยายความให้มากขึ้นนั่นเอง
ช่วงเวลา Clutch Time นั้น จะเกิดขึ้นในหลายๆ ชนิดกีฬาที่มีการแข่งขันกันแล้วต้องเปรียบเทียบแต้มหรือ Score กันเกิดขึ้น โดยมีเวลาที่จำกัดมาเป็นหนึ่งในกติกาด้วย (แต่คำนี้มักจะนิยมเรียกใช้กันใน American Games)
เมื่อเวลาดำเนินมาจนถึงช่วงท้ายเกมแล้ว หากเกมในขณะนั้นทั้งสองฝ่ายที่ทำการแข่งขันกันอยู่ยังมีแต้มที่สูสี อาจจะเท่ากัน หรือห่างกันไม่มาก และพร้อมจะพลิกผันผลการแข่งกันได้ตลอดเวลา ช่วงเวลาดังกล่าวจะถูกเรียกว่าการเข้าสู่ช่วง Clutch Time
สำหรับใน NBA นั้น เมื่อเข้าสู่ 5 นาทีสุดท้ายของเกมแล้ว แต้มยังห่างกันไม่เกิน 5 แต้ม จะถือว่าเข้าสู่ช่วงเวลา Clutch Time นั่นเอง
มีบทวิจัยที่บ่งบอกว่า เม่ื่อเข้าสู่ภาวะที่มีความกดดันหรือมีความวิตกกังวล การทำงานของสมองและร่างกายของแต่ละคนจะมีการตอบสนองที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งรวมไปถึงการทำกิจกรรมที่ใช้ความจำน้อย (หรือมีความเสี่ยงที่จะผิดพลาดน้อย) และกิจกรรมที่ใช้ความจำมาก (หรือมีความเสี่ยงที่จะผิดพลาดมาก) ก็จะมีผลต่อการตอบสนองเช่นกัน
โดยบทวิจัยดังกล่าว เรียกกันว่า Yerkes-Dodson Law
โดยมีอีกหลายบทความที่เป็นการวิจัยต่อยอดจากชิ้นงานดังกล่าว โดยในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกีฬา ผลงานวิจัยที่ถูกนำมาต่อยอดที่สำคัญจะเรียกว่า State-Trait Anxiety Inventory (STAI)
รายละเอียดของทั้ง 2 บทความวิจัยสามารถดูได้จาก Link เลยนะครับ
จากผลงานวิจัยต่างๆ จะได้ข้อสรุปว่า ภายใต้การทำกิจกรรมที่มีความกดดันและความวิตกกังวลที่สูง จะส่งผลให้ร่างกายและสมองนั้นมีการตอบสนองที่เปลี่ยนแปลงไปจากภาวะปกติ ซึ่งส่วนใหญ่จะทำการตอบสนองได้ช้าลง
ในด้านของกีฬานั้น แต่ละคนจึงต้องมีการฝึกสมาธิเพื่อให้สามารถคงสภาวะตอบสนองตามปกติของร่างกายและสมองให้ได้ต่อเนื่องที่สุด โดยเฉพาะช่วงท้ายเกมที่นอกจากสภาพร่างกายจะเหนื่อยล้าทำให้ส่งผลต่อสมาธิแล้ว แรงกดดันที่มาจากสิ่งต่างๆ ในขณะนั้นก็จะมีผลเป็นอย่างมากในการเล่นด้วย
ทำให้ในบางครั้งเราจะเห็นผู้เล่นที่พอเข้าสู่ช่วง Clutch Time บางคนก็จะเล่นได้ไม่ดีเอาเสียเลย เนื่องจากรับแรงกดดันไม่ไหวนั่นเอง แต่ในขณะเดียวกันก็มีบางคนที่เล่นได้นิ่งมากเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเช่นกัน
ซึ่งจะมีหลายปัจจัยทีเดียวที่ส่งผลต่อการเล่นดังกล่าว แต่ในท้ายที่สุดแล้ว คนดูมักจะเห็นได้ว่า เมื่อเข้าช่วงเวลา Clutch Time การเล่นนั้นมักจะจบลงที่การมอบหมายให้ผู้เล่นที่ทีมไว้ใจที่สุดเป็นคนปิด Play นั้นเสมอ ไม่ว่าจะมีการหลอกล่อก่อนหน้านั้นอย่างไรก็ตาม
แต่ในบางครั้งสถานการณ์ก็ไม่เอื้ออำนวยเสมอไป การต้องเตรียมแผนสำรองเพื่อเป็นทางเลือกก็สำคัญไม่แพ้กัน
ทำให้สุดท้ายแล้ว จังหวะ Clutch Play สวยๆ ของแต่ละทีม ก็จะออกมาไม่เหมือนกันซะทีเดียวไปด้วย ขึ้นกับสถานการณ์ในขณะนั้นว่าเป็นอย่างไรบ้าง โดยสามารถดูตัวอย่างได้จากคลิปด้านล่างนี้ (เป็นของฤดูกาล 2018/19)
และยิ่งถ้าเป็นช่วง Clutch ใน Playoffs ความกดดันก็จะมากขึ้นเป็นทวีคูณเช่นกัน เพราะการพลิกกลับมาได้รับชัยชนะหรือพ่ายแพ้นั้น อาจส่งผลให้ทีมต้องตกรอบไปอย่างเจ็บปวดได้เลยทีเดียว
ดังนั้นแต่ละทีมจึงต้องมีการวางแผนเผื่อไว้ในส่วนของการเล่นในช่วง Clutch ด้วย เพราะอย่างไรเสียแต่ละทีมก็หลีกหนีช่วงเวลานี้ไม่พ้นอยู่แล้วนั่นเอง
ทาง NBA ได้รวบรวม Clutch Moments ของทุกทีมในฤดูกาล 2018/19 ทั้งช่วงเวลาฤดูกาลปกติและ Playoffs มาไว้ด้วยกันแล้ว สามารถเข้าไปดูได้เลยครับ
ส่วนบุคคลที่ยกย่องกันว่าเป็นผู้เล่นที่เล่นในช่วง Clutch Time ได้ดีที่สุด ก็หนีไม่พ้นตำนานในวงการ NBA อย่าง Michael Jordan นั่นเอง
ถึงแม้ว่าเขาจะเลิกเล่นไปนานหลายปีแล้วก็ตาม แต่หลายสำนักก็ยังยกย่องเขาอยู่ ไม่มีใครมาแทนที่เขาได้เลยในหลายๆ ด้าน รวมไปถึงการเล่นในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ด้วย
ส่วนในอนาคตจะมีผู้เล่นที่ทำได้ใกล้เคียงหรือไม่ คงต้องรอติดตามกันต่อไปครับ
ถ้าชอบบทความ รบกวนกด Share และกดติดตามด้วยนะครับ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ
BombWalkerz
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก
โฆษณา