8 ธ.ค. 2019 เวลา 02:52 • ประวัติศาสตร์
“นายกโจว 12”
เหตุการณ์ที่สำคัญหลังจากที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนภายใต้การนำของเหมาเจ๋อตงก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ.1949 ได้สำเร็จนั้น คือเหตุการณ์การปฎิรูปแบบก้าวกระโดด (Great Leap Forword) และ การปฎิวัติวัฒนธรรม (Culture Revolution) ที่สร้างความเสียหายให้กับสังคม เศรษฐกิจของประเทศจีนอย่างร้ายแรง
อย่างไรก็ตามโจวเอินไหลในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศจีน ก็ยังคงรักษาตำแหน่งทางการเมืองของเขาไว้ได้เพื่อทำหน้าที่บรรเทาแก้ไขนโยบายที่ผิดพลาดของเหมาเจ๋อตงตลอดมา
นายกโจวเอินไหล
ยกตัวอย่างในเหตุการณ์การปฎิวัติวัฒนธรรม ตามจุดประสงค์ของเหมาเจ๋อตงนั้นเป็นไปเพื่อขจัดศัตรูทางการเมืองของเขาโดยใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือจากการที่ประชาชนยกย่องเขาว่าเป็นวีรบุรุษในการปฏิวัติจนเกิดประเทศจีนใหม่ จึงง่ายต่อการชักจูงผู้คนให้หลงในความคิดขจัดฝ่ายขวาของเขา ได้แก่ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับทุนนิยม ผู้ที่ยังถือระบบศักดินาแบ่งชนชั้น และ รวมถึงตำราและสิ่งของทางวัฒนธรรมที่ทำให้ระลึกถึงการแบ่งชนชั้น ทั้งหมดนี้ถูกเหมาชักจูงให้กำจัดให้หมดสิ้น และแน่นอนว่าคู่แข่งทางการเมืองของเขาก็ถูกป้ายสีว่าเป็นพวกฝ่ายขวาและทำให้พวกเขาเหล่านั้นพ้นออกจากตำแหน่งทางการเมืองไป
ภาพวาดในเหตุการณ์ปฎิวัติวัฒนธรรม
ในระหว่างเหตุการณ์ปฏิวัติวัฒนธรรมโจวเอินไหลได้พยายามบรรเทาการดำเนินนโยบายที่รุนแรงของการปฎิวัติ อย่างเช่น การปกป้องกรุงปักกิ่งจากการเปลี่ยนชื่อเป็น เมืองแดงตะวันออก (East Is Red City) หรือแม้กระทั่งปกป้องการทำลายรูปปั้นสิงโตที่จตุรัสเทียนอันเหมินจากการถูกแทนที่โดยรูปปั้นเหมาเจ๋อตง, ปกป้องเมืองต้องห้าม (Forbidden City) และวัตถุโบราณต่างๆจากการทำลายโดยกลุ่มเรดการ์ด
1
รูปปั้นสิงโตที่จตุรัสเทียนอันเหมิน
และในช่วงปลายของการปฎิวัติวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1975 โจวเอินไหลได้ผลักดันนโยบายสี่ทันสมัย เพื่อฟื้นฟูความเสียหายของบ้านเมืองจากนโยบายที่ผ่านมาของเหมาเจ๋อตง นโยบายนี้ยังส่งต่อให้กับเติ้งเสี่ยวผิงผู้เป็นประธานาธิบดีหลังจากเหมาเจ๋อตงได้สิ้นอำนาจไป เพื่อฟื้นฟูประเทศให้กลับเป็นปกติสุขและพัฒนาต่อไป
เติ้งเสี่ยวผิง
นอกจากการเป็นนายกรัฐมนตรีเขายังรับหน้าที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ โจวเอินไหลมีบทบาทสำคัญในการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆโดยอาศัยการฑูต เช่น การฟื้นฟูความสัมพันธ์กับประเทศกลุ่มทุนนิยมแถบยุโรป ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส หรือแม้แต่กระทั่งสหรัฐอเมริกา จนกระทั่งปี ค.ศ.1976 เขาสามารถเปิดสัมพันธ์ทางการฑูตกับประเทศต่างๆได้สำเร็จถึง 107 ประเทศ และยังสามารถฟื้นฟูความเป็นสมาชิกภาพขององค์การสหประชาชาติได้สำเร็จอีกด้วย ทั้งหมดนี้เกิดจากความสามารถในการฑูตและความพยายามของโจวเอินไหล ทำให้เกิดรากฐานสำคัญที่ทำให้ประเทศจีนมีบทบาทในเวทีโลกจวบจนปัจจุบันนี้
2
โจวเอินไหลต้อนรับการมาเยือนประเทศจีนของประธานาธิปดี ริชาร์ด นิกสัน ปีค.ศ.1972
ริชาร์ด นิกสัน กับ โจวเอินไหล ขณะพูดคุยกับเด็กหญิงที่เมืองหางโจวประเทศจีน ปีค.ศ.1972
โจวเอินไหลยังได้วางรากฐานในการเจรจาคืนเกาะฮ่องกงซึ่งถูกปกครองโดยอังกฤษตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิงภายใต้สนธิสัญญานานกิงหลังจากประเทศจีนพ่ายแพ้สงครามฝิ่นกับอังกฤษอีกด้วย โดยพยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับฮ่องกงเช่น การช่วยเหลือฮ่องกงในปัญหาการขาดแคลนน้ำจืดบนเกาะ และในปี ค.ศ. 1971 ยังมีส่วนในการเจรจาในที่ประชุมองค์การสหประชาชาติเพื่อให้คัดค้านการปลดปล่อยเมืองอาณานิคม อย่างฮ่องกง โดยเรียกร้องว่าประเทศจีนมีอธิปไตยโดยชอบธรรมเหนือเกาะฮ่องกงซึ่งถูกยึดไปโดยสหราชอาณาจักร จากการหารือกันของคณะกรรมการจึงได้ถอนฮ่องกงออกจากรายชื่อเมืองขึ้น ทำให้เรื่องนี้ถือว่าเป็นปัญหาภายในประเทศและประเทศจีนมีสิทธิ์ในการเจรจากับเกาะเอง ซึ่งมาประสบความสำเร็จในการคืนเอกราชเหนือเกาะฮ่องกงอย่างสันติในสมัยเติ้งเสี่ยวผิงใน ปี ค.ศ.1997
5
โจวเอินไหลได้พยายามบรรเทาการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดของท่านประธานเหมามาโดยตลอด จนกระทั่งในเดือน พฤศจิกายน ค.ศ.1972 ทีมแพทย์ของโจวเอินไหลได้วินิจฉัยว่าเขาเป็นมะเร็งที่กระเพาะปัสสาวะและมีโอกาสรักษาให้หายได้ 80 – 90% แต่การรายงานนี้โชคร้ายที่ โจวเอินไหลและภรรยา ไม่ได้รับทราบเพราะเหมาสั่งห้ามเอาไว้
2
โจวเอินไหลยังคงทำงานเพื่อประชาชนไปจนกระทั่ง ปีค.ศ.1976 หลังจากที่เขาขึ้นรายงานการทำงานของรัฐบาลในสภาซึ่งนับว่าเป็นครั้งสุดท้ายในหน้าที่นายกรัฐมนตรีของเขา หลังจากนั้นเขาได้เข้ารับการรักษาตัวและได้เสียชีวิตลงจากโรคมะเร็งในวันที่ 8 มกราคม ค.ศ.1976 ขณะอายุได้ 77 ปี
ประชาชนต่างหลั่งไหลมาแสดงความไว้อาลัยแก่นายกโจวที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน
ประชาชนจำนวนมากร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของนายกโจวเอินไหล
นับเป็นการปิดฉากชีวิตนายกโจวเอินไหลที่เป็นตัวแทนแห่งความยุติธรรมและเป็นกลาง เขาเป็นที่จดจำในฐานะผู้เชี่ยวชาญในการเจรจาต่อรอง ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการดำเนินการนโยบาย และนักปฎิวัติผู้ซึ่งอุทิศตน จากผลงานของเขาทำให้โจวเอินกลายเป็นที่รักของประชาชนจีน และมีคำเรียกติดปากทั่วไปว่า “นายกโจว”
ขอบคุณที่ติดตามอ่านชุดซีรี่นายกโจวมาโดยตลอดนะครับ จะมีเรื่องราวอะไรให้รับอ่านอีก โปรดติดตามครับ
สำหรับวันนี้ขอบคุณอีกครั้งครับผม /\
References:
โฆษณา