[Review] Joker (2019) - เบื้องหลังใบหน้าของชายขี้แพ้
ปีทองของหนังซูเปอร์ฮีโร่จริง ๆ ขณะที่ฟาก Marvel จัดการส่งบทสรุปมหากาพย์อินฟินิตี้ด้วย Avengers: Endgame และกวาดรายได้ถล่มทลายทั่วโลกขึ้นแท่นที่หนึ่งตลอดกาล ณ ขณะนี้ อีกฟากหนึ่งด้วยความกล้าของผู้กำกับ ฯ สายคอเมดี้ที่ห้าวหาญหยิบเอาตัวละครวายร้ายจากคอมมิคฟาก DC อย่าง โจ๊กเกอร์ มาเล่าจุดกำเนิดใหม่โดยอ้างอิงจากหลักความเป็นจริง ผลก็คือมันกลายเป็นหนังทรงอิทธิพลมากสุดแห่งปี กวาดรายได้ร่วมพันล้านเหรียญ ทั้งที่หนังมาพร้อมเรทอาร์และสร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วโลก พร้อมส่งให้ตัวหนังชิงออสก้าร์มากที่สุดถึง 11 สาขา
Joker เล่าชีวิตของ อาเธอร์ เฟล็ค ชายหนุ่มที่มาพร้อมอาการประหลาดที่ไม่สามารถควบคุมอาการหัวเราะไม่ได้และอยากจะสร้างความสุขให้กับผู้คนรอบตัว แต่ด้วยเมืองก็อธแทมอันฟอนเฟะทำให้สิ่งแวดล้อมรอบตัวต่างไม่เป็นใจและกลั่นแกล้งเขา เขาจึงตกลงสู่ห้วงจิตใจอันดำมืดและกลายเป็น “ตัวตลก” ของสังคมโดยที่เขาไม่ได้หวัง
ไม่ใช่หนังแอ็คชั่นหรอกสำหรับ Joker แต่มันเป็นเหมือนหนัง Character Study เสียมากกว่า เพราะหนังจะเต็มไปด้วยบทสนทนาและสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมและทัศนคติรวมถึงนิสัยของตัวละคร หนังจึงเดินหน้าเป็นเส้นตรงภายใต้เหตุการณ์ย่ำแย่มากมายที่อาเธอร์ต้องพานพบ ขับกล่อมด้วยดนตรีประกอบที่บรรเลงด้วยเครื่องสายจากสกอร์ของ ฮิลเดอร์ กูธนาดอเทียร์ ที่ชวนให้ดำดิ่งกับเรื่องราว
ส่วนที่ดีมาก ๆ เลยคือ การแสดงของ วาคีน ฟีนิกซ์ ที่แทบจะแบกเรื่องราวและหนังทั้งเรื่องไว้ การตีความตัวละครวายร้ายตัวนี้ให้ออกมาดูมีความบกพร่องทางจิตและเป็นโจ๊กเกอร์ที่มีเอกลักษณ์ในแบบของตนเองให้ต่างจากโจ๊กเกอร์เวอร์ชั่นอื่น ๆ ได้น่าชื่นชมมาก อีกทั้งการนำเสนอของเรื่องราวที่ด้วยวิสัยทัศน์ของ ท็อดด์ ฟิลลิป เอง ที่ใช้ความโสมมของเมืองก็อธแทมสะท้อนไปยังความโสโครกและฟอนเฟะบนโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างน่าขบคิด อีกทั้ง งานด้านดนตรีที่ใช้เชลโล่บรรเลงเรื่องราวประกอบกับงานด้านภาพที่ถ่ายทอดความดิบได้อย่างสมจริงขึ้นไปอีก
แต่กระนั้นเราเห็นด้วยเหมือนกันว่า หนังอยู่ในระดับคุณภาพแต่ไม่ได้ยอดเยี่ยมสมบูรณ์แบบมากนัก เพราะหนังยังอยู่ในสถานะที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังในแนวเดียวกันอยู่เยอะ ทั้ง Taxi Driver หรือ The King of Comedy ทั้งเส้นเรื่องที่พอเดาได้จนถึงบทสรุปของเรื่อง การกำกับและวิสัยทัศน์ถึงจะน่าชื่นชม ในการบอกเล่าเรื่องจุดกำเนิดของวายร้ายคอมมิคระดับตำนานแต่มันก็นำเสนอมุมมองของความรุนแรงที่ดูเหมือนจะส่งเสริมมากกว่าชวนให้คนดูมาถกเถียง ก็เป็นสิ่งที่น่าคิดและสะอิดสะเอียนอยู่หน่อย ๆ จึงไม่แปลกที่หนังมันจะทรงอิทธิพลมากขนาดนี้
ชีวิตของอาเธอร์ที่เราได้รับรู้ไม่อาจจะหลงใหลหรือชวนให้สังเวชเลย นอกเหนือจากเห็นใจในสิ่งที่เขาพานพบ ตั้งแต่กำเนิดยันมีชีวิตและกลายเป็นตัวแทนแห่งความโกลาหลในเมืองก็อธแทม เราไม่อาจรับรู้ได้ว่า คน ๆ นึงสามารถทนรับแรงกดดันได้มากมายแค่ไหน ทั้งจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรื่อยไป ตั้งแต่ครอบครัวจนถึงสังคมที่เน่าเหม็น มันจะผลักให้คน ๆ นึงกลายเป็นอะไรบางอย่างที่ไม่อาจจะคาดคิดได้
น่าคิดเหมือนกันว่า หากชีวิตจริงเรามีผู้คนแบบอาเธอร์หรือ “โจ๊กเกอร์” มันจะเป็นยังไง ในช่วงเวลาที่ผู้คนต่างดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดในแต่ละวันและพวกเขาต่างต้องการสัญลักษณ์เพื่อยึดเหนี่ยวเพื่อสู้ต่อสิ่งอันชอบธรรม หากวันใดวันนึงสัญลักษณ์เหล่านั้นปรากฎขึ้น สังคมอาจจะไม่ต่างจากกลียุคอันแสนโกลาหลแบบที่โจ๊กเกอร์หวังไว้อย่างแน่แท้…
สรุปแล้ว Joker คือหนังดราม่าอาชญากรรมทรงอิทธิพลประจำปี มาพร้อมการแสดงของ วาคีน ฟีนิกซ์ ที่ยอดเยี่ยมระดับออสก้าร์ อีกทั้งงานสร้าง-งานภาพก็ดิบถ่ายทอดวิสัยทัศน์ในเรื่องราวของเมืองก็อธแทมอันแสนฟอนเฟะให้ออกมาอย่างสมจริง อีกทั้งเสียงเชลโล่จากดนตรีก็ยังเติมเต็มให้คนดูดำดิ่งไปกับเรื่องและชะตากรรมของอาเธอร์ได้อีก แม้ว่ามันจะมีแง่มุมที่ดูส่งเสริมความรุนแรงจนเกินควรไปก็ตาม
4 / 5
Joker (2019)
Directed by Todd Phillips
Written by Todd Phillips & Scott Silver
Based on Characters by DC Comics
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
