11 ม.ค. 2020 เวลา 09:30 • บันเทิง
[Review] Once Upon A Time in Hollywood (2019) – แด่ความสวยงามของวงการมายายุค 60
ปีที่แล้วเป็นปีที่น่าสนใจของวงการหนังจริง ๆ แม้ว่าหนังจะเต็มไปด้วยหนังแฟรนไชส์น่าสนใจมากมายที่พากันกวาดรายได้จนสร้างสถิติมากมาย ในเวลานั้นก็มีหนังรางวัลหลายเรื่องน่าจับตา ด้วยช่วงเวลาที่เข้าใกล้งานออสก้าร์เข้าไปเรื่อย ๆ หนึ่งในนั้นคือ งานจับเอาเหตุการณ์ในช่วงฮอลลีวู้ดยุค 60 อย่าง Once Upon A Time in Hollywood ผลงานลำดับที่ 9 ของผู้กำกับ ฯ ที่มีลายเซ็นเจนจัดชัดเจน เควนติน ทารันติโน่
Once Upon A Time in Hollywood เล่าเรื่องของวงการฮอลลีวู้ดยุค 1969 ที่เป็นเวลาอันเรืองรองของหนังคาวบอย นักแสดงทีวี ริค ดาลตัน กับ คลิฟท์ บูท สตันท์แมนคู่ใจที่อาสามาเป็นสารถีให้ ในช่วงที่ริคอยากไต่เต้าประสบความสำเร็จกับเขาบ้าง เขาจึงได้รับโอกาสจากโดย มาร์ติน ชวาร์ทซ ในการแสดงเป็นตัวร้ายในหนังคาวบอยสปาเกตตี้เรื่องใหม่ เป็นจังหวะเดียวกับที่ โรมัน โปลันสกี ที่โด่งดังจากการกำกับหนังสยองขวัญอย่าง Rosemary’s Baby กับ ชารอน เทท เพิ่งย้ายมาอยู่ข้างบ้านของ ดาลตัน
หนังเล่าเป็นเส้นตรงสองเส้นนั่นคือ เรื่องหลักอย่างเส้นทางอาชีพและความสัมพันธ์ของ ริค และ คลิฟท์ กับเรื่องรองนั่นคือ ชีวิตของชารอน เทท ในช่วงเวลานั้น ซึ่งมันใกล้เคียงก่อนเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญของลัทธิครอบครัวแมนสัน โดยที่หนังจะเล่าเรื่องในช่วงสององค์แรกอย่างค่อยเป็นค่อยไป แทรกด้วยฉากเล็ก ๆ ที่เควนติน ถวิลหาความบันเทิงในยุคนั้น ก่อนจะพาไปสู่องค์สามที่แทบจะพลิกโฉมของหนังไปเลย
ข้อดีของหนัง… ไม่รู้สามารถบอกเป็นคนดีได้หรือเปล่า เพราะเรารู้สึกถึง ความรักต่อภาพยนตร์ ในทุกช่วงเวลาที่หนังกำลังดำเนินไปมาก ๆ โดยเฉพาะในช่วงสององค์แรก หนังจะเต็มไปด้วยการตะลุยวงการบันเทิงฮอลลีวู้ดในทุกแง่มุม ทั้งการซ้อมบท การพูดคุยถึงโครงการหนัง หรือแม้กระทั่งการเล่นสตันท์อย่างปืนไฟ ที่มันดูเป็นแง่มุมเล็ก ๆ ที่คนทำหนังคงมีส่วนร่วมไม่น้อย และมันก็ดูมีเสน่ห์มาก ๆ ใครจะไปคิดว่า หนังจะมีฉากให้สองตัวละครดูรายการทีวีที่หนึ่งในนั้นกำลังแสดงแถมบรรยายอย่างออกรสแบบนี้ล่ะ
งานสร้างและงานด้านภาพก็เป็นอีกส่วนที่น่าชื่นชม เพราะมันสามารถยกกลิ่นอายฮอลลีวู้ดยุคนั้นออกมาได้ดีจริง ๆ ทั้งเซ็ตถ่ายทำ บรรยากาศเมืองลอสแองเจลิสยุค 60 คลอด้วยเพลงดัง ๆ ที่ทำให้เราโหยหาได้ถึงยุคนั้น เหล่านักแสดงก็ต่างทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม ซึ่งต้องชมทั้งฝ่ายคัดนักแสดงและการแสดงของชุดนักแสดงหลัก ทั้ง ลีโอนาร์โด ดีคาร์ปริโอ, มาร์โก้ ร็อบบี้ ก็บริหารเสน่หและแสดงออกมาได้อย่างดีเยี่ยม และ แบรด พิทท์… ที่โคตรจะเท่ชิบหายเลยครับ
ส่วนเสียของหนังก็คงจะหนีไม่พ้น ความเป็นหนังเควนติน ถ้าเป็นแฟน ๆ ของหนังพี่แกคงจะข้ามไปได้เลย เพราะ หนังจะใช้เวลาปูค่อนข้างนาน โดยเฉพาะในเรื่องนี้ที่หนังใช้เวลาปูยาวถึงสององค์ร่วม 2 ชั่วโมงเลย แถมการปูในเรื่องนี้ไม่ได้ทำอะไรกับตัวละครกับเรื่องราวเท่าไหร่ด้วย เพียงแต่เหมือนเป็นการบอกรักตามสไตล์ของเควนตินเสียมากกว่า
การบอกรักในแง่นี้คือ การใช้มนต์เสน่ห์ของภาพยนตร์ในการเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์จริงอันสะเทือนขวัญของวงการฮอลลีวู้ดในยุคนั้น แบบเดียวกับที่ เควนติน เคยทำไว้ใน Inglorious Basterds ซึ่งมันยอดเยี่ยมมาก เพราะมันสามารถสื่อถึงความเป็นวงการ “มายา” ของภาพยนตร์ได้อย่างดี มันคือความแฟนตาซีที่ผู้คนตีตั๋วเข้าไปดูสิ่งที่ถูกแต่งเติมขึ้นมา โดยหวังว่า เหตุการณ์ท้ายสุดจะกลายเป็นอย่างไร
และ เควนตินก็มอบรางวัลกับเราจนเมื่อหนังเดินเข้าสู่องค์สาม แถมมันเป็นตอนจบที่สวยงามทั้งในแง่เรื่องราวที่หนังปูมาตั้งแต่แรก เหตุการณ์จริงที่หนังใช้อ้างอิง และความเดือดตามสไตล์หนัง เควนติน ทารันติโน่ ที่ต่างพาให้คนดูปรบมือกับบทสรุปที่หนังมอบให้
สรุปแล้ว Once Upon A Time in Hollywood ไม่ใช่หนังสร้างจากเรื่องจริงแต่เป็นหนังสไตล์เควนติน ทารันติโน่ ที่แต่งเติมและเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์แบบ Inglorious Basterds และเป็นเหมือนจดหมายรักส่วนตัวที่ถวิลหาวงการหนังยุคทองปี 60 และหนังคาวบอย เปี่ยมไปด้วยงานสร้างที่ยกกลิ่นอายฮอลลีวู้ดยุคนั้นได้อย่างน่าเชื่อถือ แม้หนังจะใช้เวลาปูค่อนข้างนานเสียก่อน แต่ก็ตวัดเข้าสู่องค์สามที่โคตรจะเดือดสมเป็นหนังเควนติน
4.5 / 5
Once Upon A Time in Hollywood (2019)
Written & Directed by Quentin Tarantino

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา