ผู้ไม่ถูกล่าม๑
ภิกษุ ท. ! บรรพชิตรูปใด จะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม ตัดเครื่องล่ามทางใจห้าอย่างให้ขาดออกด้วยดีแล้ว, คืนวันของบรรพชิตรูปนั้น ย่อมผ่านไป โดยหวังได้แต่ความเจริญในกุศลธรรมทั้งหลายอย่างเดียว หาความเสื่อมมิ ได้. เครื่องล่ามทางใจห้าอย่าง ที่บรรพชิตรูปนั้นตัดให้ขาดออกด้วยดีแล้ว เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท. ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ปราศจากความกำหนัด ในกามทั้งหลาย, ปราศจากความพอใจ ความรัก ความกระหาย ความเร่าร้อนและความทะยานอยากในกามทั้งหลาย. ภิกษุใด เป็นดังกล่าวนี้, จิตของภิกษุนั้น ย่อมน้อมไป เพื่อความเพียรเป็นเครื่องเผากิเลส เพื่อความเพียร ทำให้เนือง ๆ เพื่อความเพียรอันติดต่อเนื่องกัน และเพื่อความเพียรอันเป็นหลักมั่นคง. จิตของผู้ใด ย่อมน้อมไป ในความเพียรดังกล่าวนี้, นั่นแหละ เป็นเครื่องล่ามทางใจอย่างที่หนึ่ง ซึ่งเธอตัดให้ขาดออกด้วยดีแล้ว.
ภิกษุ ท. ! อีกอย่างหนึ่ง, ภิกษุ เป็นผู้ปราศจากความกำหนัด ในกาย, _ _ _ฯลฯ _ _ _ นั่นแหละ เป็นเครื่องล่ามทางใจอย่างที่สอง ซึ่งเธอตัดให้ขาด ออกด้วยดีแล้ว.
ภิกษุ ท. ! อีกอย่างหนึ่ง, ภิกษุ เป็นผู้ปราศจากความกำหนัด ในรูป, _ _ _ฯลฯ _ _ _ นั่นแหละ เป็นเครื่องล่ามทางใจอย่างที่สาม ซึ่งเธอตัดให้ขาด ออกด้วยดีแล้ว.
ภิกษุ ท. ! อีกอย่างหนึ่ง, ภิกษุได้ฉันอาหารเต็มท้องตามประสงค์แล้ว ก็ไม่มัวหาความสุขในการหลับ ไม่หาความสุขในการเอนกายเล่น ไม่หาความสุข
ในการนอนซบเซาไม่อยากลุก เป็นอยู่. _ _ _ฯลฯ _ _ _ นั่นแหละ เป็นเครื่อง ล่ามทางใจอย่างที่สี่ ซึ่งเธอตัดให้ขาดออกด้วยดีแล้ว.
ภิกษุ ท. ! อีกอย่างหนึ่ง, ภิกษุ ไม่ประพฤติพรหมจรรย์ โดย ตั้งความปรารถนาเพื่อเป็นเทวดาพวกใดพวกหนึ่ง ว่า “เราจักเป็นเทวดาผู้มีศักดาใหญ่หรือเป็นเทวดาผู้มีศักดาน้อยชนิดใดชนิดหนึ่งด้วยศีลนี้, ด้วยวัตรนี้, ด้วยตบะนี้, หรือด้วยพรหมจรรย์นี้ ” ดังนี้. ภิกษุใด เป็นดังกล่าวนี้, จิตของภิกษุนั้นย่อมน้อมไป เพื่อความเพียรเป็นเครื่องเผากิเลส เพื่อความเพียรทำให้เนือง ๆ เพื่อความเพียรอันติดต่อเนื่องกัน และเพื่อความเพียรอันเป็นหลักมั่นคง. จิตของผู้ใด ย่อมน้อมไป ในความเพียรดังกล่าวนี้, นั่นแหละ เป็นเครื่องล่ามทางใจอย่างที่ห้า ซึ่งเธอตัดให้ขาดออกด้วยดีแล้ว.
ภิกษุ ท. ! บรรพชิตรูปใด จะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม ตัดเครื่อง ล่ามทางใจห้าอย่างเหล่านี้ให้ขาดออกด้วยดีแล้ว ; คืนวันของบรรพชิตรูปนั้นย่อมผ่านไป โดยหวังได้แต่ความเจริญในกุศลธรรมทั้งหลายอย่างเดียว หาความเสื่อมมิได้ ; เช่นเดียวกับคืนวันแห่งดวงจันทร์เวลาข้างขึ้น, ดวงจันทร์นั้นโดยสีก็แจ่มกระจ่าง, โดยวงกลดก็ใหญ่กว้างออก, โดยรัศมีก็เจริญขึ้น, โดย ขนาดก็ขยายใหญ่ขึ้น ; ฉันใดก็ฉันนั้น แล.
๑. บาลี พระพุทธภาษิต ทสก. อํ. ๒๔/๒๑, ๒๒/๑๔