11 ธ.ค. 2019 เวลา 22:43 • ปรัชญา
EP85: ผู้ ไ ม่ ถู ก ล่ า ม
เครื่อง ล่ า ม ท า ง ใ จ
ที่คนเราต้องตัดออกให้ได้
ทำตนให้เป็น…
คนเราตอนอยู่ มีทุกข์ มีสุข เป็นสิ่งที่หนีไม่พ้น
คนเราเกิดมาจากกรรม เป็นการรับผลของกรรมที่ตนทำมาอย่างนั้น
คนเรานั้นเกิดมาแล้วต้องมีตาย เป็นสิ่งหนีไม่พ้น
คนเราเมื่อตายจุติไปสู่ภพไหน ? ใครไม่ฝึกไม่เรียนรู้ตน เรียนรู้สัทธรรม ส่วนใหญ่จะไปสู่อบาย คือกามภพ ผืนนาเลว อันทรมานแสนยาวนาน นรก เดรัจฉาน เปรตวิสัย
คนเราเป็นผู้ถูก ล่ า ม ท า ง ใ จ ๕ ประการ
เครื่อง ล่ า ม ท า ง ใ จ เมื่อคนเราตัดมันออกได้ เป็นดังก้าวข้ามความเป็นปุถุชนคนทั่วไป คืนวันของเขานั้นจะผ่านไป และหวังได้แต่ความเจริญในกุศลธรรมอย่างเดียว ไม่มีทางเสื่อม เป็นดั่งดวงจันทร์ข้างขึ้น มีแต่ค่อยๆสว่าง สีแจ่มสว่าง วงกลดใหญ่ รัศมีเจริญขึ้น ขนาดขยายกว้างขึ้น
เครื่อง ล่ า ม ท า ง ใ จ ๕ ประการ ที่คนเราตัดมันให้ขาดออกไปแล้วเจริญขึ้น ไปทางเจริญอย่างเดียว ไม่ไปทางเสื่อม คือ อะไร ?
เมื่อคนเราตัดตัณหาละความเพลิน มีจิตตั้งใจเพียรพยายามละ
ความกำหนัดทาง…
กาม, กาย, รูป, อิ่มแล้วขี้เกียจ, ไม่ประพฤติพรหมจรรย์
เมื่อคนเราไม่มีความกำหนัด ไม่มีความพอใจ รัก กระหาย เร่าร้อน ทะยานอยาก จิตของคนนั้นกำลังมุ่งน้อมไปเพื่อความเพียรเผากิเลส เพื่อความเพียรทำเนืองๆ เพื่อความเพียรอันต่อเนื่องกัน และเพื่อความเพียรอันเป็นหลักมั่นคง ถ้าจิตคนเราน้อมไปแบบนี้ คือได้ตัดขาดจาก เครื่อง ล่ า ม ท า ง ใ จ
ผู้ไม่ถูกล่าม๑
ภิกษุ ท. ! บรรพชิตรูปใด จะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม ตัดเครื่องล่ามทางใจห้าอย่างให้ขาดออกด้วยดีแล้ว, คืนวันของบรรพชิตรูปนั้น ย่อมผ่านไป โดยหวังได้แต่ความเจริญในกุศลธรรมทั้งหลายอย่างเดียว หาความเสื่อมมิ ได้. เครื่องล่ามทางใจห้าอย่าง ที่บรรพชิตรูปนั้นตัดให้ขาดออกด้วยดีแล้ว เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท. ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ปราศจากความกำหนัด ในกามทั้งหลาย, ปราศจากความพอใจ ความรัก ความกระหาย ความเร่าร้อนและความทะยานอยากในกามทั้งหลาย. ภิกษุใด เป็นดังกล่าวนี้, จิตของภิกษุนั้น ย่อมน้อมไป เพื่อความเพียรเป็นเครื่องเผากิเลส เพื่อความเพียร ทำให้เนือง ๆ เพื่อความเพียรอันติดต่อเนื่องกัน และเพื่อความเพียรอันเป็นหลักมั่นคง. จิตของผู้ใด ย่อมน้อมไป ในความเพียรดังกล่าวนี้, นั่นแหละ เป็นเครื่องล่ามทางใจอย่างที่หนึ่ง ซึ่งเธอตัดให้ขาดออกด้วยดีแล้ว.
ภิกษุ ท. ! อีกอย่างหนึ่ง, ภิกษุ เป็นผู้ปราศจากความกำหนัด ในกาย, _ _ _ฯลฯ _ _ _ นั่นแหละ เป็นเครื่องล่ามทางใจอย่างที่สอง ซึ่งเธอตัดให้ขาด ออกด้วยดีแล้ว.
ภิกษุ ท. ! อีกอย่างหนึ่ง, ภิกษุ เป็นผู้ปราศจากความกำหนัด ในรูป, _ _ _ฯลฯ _ _ _ นั่นแหละ เป็นเครื่องล่ามทางใจอย่างที่สาม ซึ่งเธอตัดให้ขาด ออกด้วยดีแล้ว.
ภิกษุ ท. ! อีกอย่างหนึ่ง, ภิกษุได้ฉันอาหารเต็มท้องตามประสงค์แล้ว ก็ไม่มัวหาความสุขในการหลับ ไม่หาความสุขในการเอนกายเล่น ไม่หาความสุข
ในการนอนซบเซาไม่อยากลุก เป็นอยู่. _ _ _ฯลฯ _ _ _ นั่นแหละ เป็นเครื่อง ล่ามทางใจอย่างที่สี่ ซึ่งเธอตัดให้ขาดออกด้วยดีแล้ว.
ภิกษุ ท. ! อีกอย่างหนึ่ง, ภิกษุ ไม่ประพฤติพรหมจรรย์ โดย ตั้งความปรารถนาเพื่อเป็นเทวดาพวกใดพวกหนึ่ง ว่า “เราจักเป็นเทวดาผู้มีศักดาใหญ่หรือเป็นเทวดาผู้มีศักดาน้อยชนิดใดชนิดหนึ่งด้วยศีลนี้, ด้วยวัตรนี้, ด้วยตบะนี้, หรือด้วยพรหมจรรย์นี้ ” ดังนี้. ภิกษุใด เป็นดังกล่าวนี้, จิตของภิกษุนั้นย่อมน้อมไป เพื่อความเพียรเป็นเครื่องเผากิเลส เพื่อความเพียรทำให้เนือง ๆ เพื่อความเพียรอันติดต่อเนื่องกัน และเพื่อความเพียรอันเป็นหลักมั่นคง. จิตของผู้ใด ย่อมน้อมไป ในความเพียรดังกล่าวนี้, นั่นแหละ เป็นเครื่องล่ามทางใจอย่างที่ห้า ซึ่งเธอตัดให้ขาดออกด้วยดีแล้ว.
ภิกษุ ท. ! บรรพชิตรูปใด จะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม ตัดเครื่อง ล่ามทางใจห้าอย่างเหล่านี้ให้ขาดออกด้วยดีแล้ว ; คืนวันของบรรพชิตรูปนั้นย่อมผ่านไป โดยหวังได้แต่ความเจริญในกุศลธรรมทั้งหลายอย่างเดียว หาความเสื่อมมิได้ ; เช่นเดียวกับคืนวันแห่งดวงจันทร์เวลาข้างขึ้น, ดวงจันทร์นั้นโดยสีก็แจ่มกระจ่าง, โดยวงกลดก็ใหญ่กว้างออก, โดยรัศมีก็เจริญขึ้น, โดย ขนาดก็ขยายใหญ่ขึ้น ; ฉันใดก็ฉันนั้น แล.
๑. บาลี พระพุทธภาษิต ทสก. อํ. ๒๔/๒๑, ๒๒/๑๔

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา