ผมมีเรื่องมาเล่าให้ฟัง
แจ๊คกับไมค์เป็นเพื่อนของผม
แจ๊คเป็นคนผอมหุ่นเพรียว ตัวเล็ก
ไมค์เป็นคนตัวอ้วนกลม ตัวสูง
ทุกครั้งที่สองคนนี้เดินไปด้วยกัน หากมองไกลๆคุณจะสัมผัสได้ถึงเลข 10
.
ทั้งสองคนมีดีคนละแบบครับและพวกเขารู้สึกเป็นคนพิเศษเมื่อได้มีโอกาสแสดงสิ่งดีๆในตัว😃
แจ๊คเป็นคนที่วิ่งไกลได้เก่งมาก ในขณะที่ไมค์ก็เล่นบาสได้เก่งมากเช่นกัน
แต่วันนั้น..ในตอนเย็น
ผมบอกให้ทั้งสองสลับสิ่งที่ถนัดกันครับ โดยบอกให้ไมค์ไปวิ่งไกล
ส่วนแจ๊คให้ไปเล่นบาส
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่ทั้งสองสลับสิ่งที่ถนัดกัน กลายเป็นว่าเพื่อนผมทั้งสองรู้สึกแย่กับตัวเองมากครับ มากกว่าตอนที่โดนครูให้ติด F ซะอีก🥺
.
เรื่องที่ผมจะชวนคุยในโพสต์นี้ไม่ได้เกี่ยวกับการวิ่งหรือบาสแต่อย่างใด
แต่มันเกี่ยวกับ “ชีวิต”👈
เราในยุคนี้เลือกที่จะให้ความรู้สึกพิเศษกับสิ่งที่ wanna be มากกว่า born to be ครับ
.
ซึ่งเมื่อหากมองโลกแล้วยอมรับมันจริงๆ
เราจะเข้าใจว่า ☀
บางสังคมอาจดีกับใครบางคนแต่มันไม่เวิร์คกับเรา
เช่น มันจะมีคนบางคนที่คุณพยายามดีกับเขาให้ตายเขาก็ไม่เห็นค่า
คุณพยายามเปิดใจเขา
พยายามเป็นเพื่อนที่ดีกับเขา
พยายามเถียงให้เหตุผลที่ดีกับเขาในบางครั้งเพื่อให้เขารักคุณ
แต่เขาก็ไม่เห็นว่าเราดี
สาเหตุมันไม่ใช่เพราะเราไม่มีคุณค่าพอนะ
แต่เป็นเพราะ ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นเพื่อนที่ดีกับเราได้
.
เราจะเข้าใจว่า ☀
ทุกคนมีจุดแข็ง จุดด้อย ที่ต่างกัน
เหมือนแจ๊คกับไมค์ครับ
แจ๊คตัวเล็กวิ่งไกลได้ดี ส่วนไมค์อ้วนสูงก็เล่นบาสได้ดี
มันไม่มีเหตุผลสนับสนุนให้แจ๊คเกิดแรงบันดาลใจให้อยากไปเล่นบาสเหมือนไมค์
มันไม่มีเหตุผลสนับสนุนให้ไมค์เกิดแรงบันดาลใจให้อยากไปวิ่งไกลเหมือนแจ๊ค
นี่เป็นเหตุผลที่เวลาไปตามสนามบาสจะเห็นแต่คนตัวสูง
และเราก็จะเห็นเฉพาะคนผอมหุ่นเพรียว ตัวเล็กตามสนามมาราธอน
.
และเราจะเข้าใจว่า....☀
มันไม่ใช่แค่อะไรแค่ 2 อย่างที่ผมยกตัวอย่างให้อ่านเท่านั้น
งานบางงานก็ไม่สามารถทำให้เราแฮปปี้ได้
บางเป้าหมายก็ไม่สามารถเติมเต็มเราได้
เพราะ เราต้อง wanna be เกินไป
.
.
.
มันบ่อยมากครับที่ผมเห็นผู้คนพยายามกดดันและปรับปรุงตัวเองอย่างหนัก
พวกเขารู้สึกแย่เพราะพวกเขาไม่สามารถทำอะไรบางอย่างเหมือนคนอื่น
แต่ในความจริงแล้ว
พวกเขาไม่ได้รักในสิ่งที่พยายามจริงๆเลย
.
ทีนี้ลองมามองในมุมตรงกันข้าม🙃
สมัยนี้มีคนดังและเซเลปหน้าใหม่มากมายที่กลายเป็นที่รู้จักวงกว้างจากการแสดงเอกลักษณ์ในแบบของเขาเอง
ผมว่าเราก็สามารถเป็นแบบนั้นได้เช่นกันนะ
เราแค่ต้องออกไปจากจุดเดิมๆหาเพื่อนที่ช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจในแบบที่คล้ายกับเรา
ให้พวกเขาเข้ามาผลักดัน เข้ามาเติมเต็ม
แล้วเราจะสามารถค้นพบตัวเองได้🙂
.
หลังจากจบโพสต์นี้ผมอยากให้เราทุกคนลองมาหันโฟกัสในสิ่งที่เรามีอยู่มากกว่าโฟกัสในสิ่งที่เรายังไม่มีครับ
ลองจับโน่นจับนี่มาชนกัน แล้วคุณจะได้พลังงานในแบบของคุณขึ้นมาเอง
สิ่งนั้นแหละคือ สิ่งที่คุณ born to beและมันจะนำมาซึ่งความสุข👍