14 ธ.ค. 2019 เวลา 00:24 • สุขภาพ
“ยาคุมกำเนิด” ใช้เลื่อนประจำเดือนได้
ในปกติเวลาที่เราต้องการเลื่อนประจำเดือน สิ่งแรกที่นึกถึงก็คือ ยาเลื่อนประจำเดือน โดยปกติยาเลื่อนประจำเดือนจะมีตัวยาคือ Norethisterone 5 mg ให้รับประทานก่อนประจำเดือนมา 2-3 วันและรับประทานต่อเนื่อง เมื่อหยุดยาหลังจากนั้น 2-3 วันประจำเดือนก็จะมาตามปกติ แต่การรับประทานยาเลื่อนประจำเดือนไม่แนะนำให้กินติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์เนื่องจากอาจทำให้รอบเดือนผิดปกติและเสี่ยงต่อภาวะโลหิตจางได้
อีกวิธีหนึ่งที่มีการใช้เลื่อนประจำเดือนคือ การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด
💎 กรณีที่โดยปกติรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดอยู่แล้ว
- แบบ 21 วัน ให้รับประทานจนครบเม็ดที่ 21 แล้วต่อแผงใหม่เลยโดยไม่ต้องเว้น 7 วัน
- แบบ 28 เม็ด ให้รับประทานจนถึงเม็ดฮอร์โมนเม็ดสุดท้าย ทิ้งเม็ดแป้งและเริ่มรับประทานแผงใหม่ได้เลย
💎 กรณีที่ไม่ได้รับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดอยู่ แต่ต้องการเลื่อนประจำเดือนมากกว่า 2 สัปดาห์
- ให้ใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมรับประทานวันละ 1 เม็ดก่อนที่รอบเดือนจะมาขั้นต่ำ 7 วัน และเมื่อหยุดใช้ยา ก็จะมีเลือดรอบเดือนมาหลังหยุดยา 2 -3 วัน
- ในการเริ่มยาคุมกำเนิดแผงแรกควรระมัดระวังผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิด เช่น คลื่นไส้ อาเจียน คัดตึงเต้านม เป็นต้น
แม้ว่าการใช้ยาคุมกำเนิดแบบปกติจะสามารถใช้เลื่อนประจำเดือนได้ แต่ก็ควรปรึกษาเภสัชกรก่อนใช้ยาเนื่องจากในบางคนมีข้อห้ามใช้สำหรับยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ได้แก่
✖️ ผู้ที่มีโรค/เคยเป็นโรค/ประวัติเสี่ยง (รวมถึงประวัติญาติพี่น้องสายตรง) ของภาวะหลอดเลือดดำอักเสบ
โรคลิ่มเลือดอุดตัน โรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดหัวใจ
✖️ การทำงานของตับผิดปกติ (ต้องรักษาให้ normal liver function ก่อน จึงจะใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมได้)
✖️ มะเร็ง (หรือสงสัย) มะเร็งเต้านม
✖️ เลือดออกจากทางช่องคลอดที่ยังไม่ทราบสาเหตุ
✖️ ตั้งครรภ์หรือสงสัยว่าจะตั้งครรภ์
✖️ ผู้ที่สูบบุหรี่และมีอายุตั้งแต่ 35 ปี ขึ้นไป
✖️ ไขมันในเลือดสูงมาก ยังควบคุมไม่ได้ (Severe hypercholesterolemia or hypertriglyceridemia > 750 mg/dL)
✖️ ความดันโลหิตสูงที่ยังควบคุมไม่ได้
โฆษณา