Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
โลกลี้ลับ
•
ติดตาม
15 ธ.ค. 2019 เวลา 14:53 • ความคิดเห็น
1 เม.ย พ.ศ 2485
ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดช ย้ายไปเป็นรอง ผ.ก.ก.ตร.ภูธร จ.สุราษฎร์ธานี สิ่งแรกที่รองผ.ก.กท่านนี้จะทำคือ ล่าตัวเสือสายอาชญากรNo.1
ประวัติโดยย่อคือ เสือสาย&พรรคพวกเป็นคนจ.ปทุมธานี ทำผิดกม.หลายคดีในจ.ปทุมธานี&ใกล้เคียง เมื่อถูกปราบปรามอย่างหนัก จึงอพยพทั้ง30ครอบครัว ลงมาตั้งชุมโจรที่จ.สุราษฎร์ธานี
หลังจากทั้ง30ครอบครัวมาลงหลักปักฐาน สร้างบ้านเรือนที่บางคลองป่าเหล้า ก็ยึดการต้มเหล้าเถื่อนขายเป็นอาชีพ ออกปล้น&ลักวัว-ควายของชาวบ้านไปฆ่ากิน&ขายเป็นประจำ มีหัวหน้ากลุ่มอยู่2คนคือ เสือสาย&เสือโน้ม(พี่เขยเสือสาย) ว่ากันว่าทั้ง2คน คงกระพันชาตรี หนังเหนียวยิง ฟันไม่เข้า จึงปล้น-ฆ่าอย่างไม่เกรงกลัวกม.บ้านเมือง
โจรก๊กนี้เป็นที่หวาดกลัวของชาวบ้าน เพราะถ้าเจ้าทรัพย์คิดสู้ก็จะถูกฆ่าทิ้งทุกราย ถ้าใครเป็นพยานชี้ตัวแก่ตร.ก็จะถูกฆ่าทิ้งเช่นกัน เจ้าทรัพย์จึงไม่กล้าระบุตัวเสือสาย เพราะกลัวถูกฆ่ายกครัว
เป็นเวลา8ปีที่ก๊กเสือสายไม่มีใครปราบปรามลง เมื่อได้ข่าวว่า ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดช ย้ายมาเป็นรอง ผ.ก.กเพื่อปราบก๊กตนโดยเฉพาะจึงเกลียดตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า
ม.ค พ.ศ 2486
ศาลมีหมายเรียกตัว นางไห้เมียเสือสายไปให้การในฐานะพยานของคดีหนึ่ง โดยมีนายเคลือบ(เสมียนศาล) พล.ตร.สังวรณ์&พล.ตร.วัฒน์เป็นคนส่งหมายศาล
ในช่วงเช้าตรู่ ทั้ง3คนไปส่งหมายศาลแก่นางไห้ที่บ้าน เสือสายอยู่บ้านพอดี จึงลงไปหาพร้อมนั่งยองๆยกมือไหว้ตามวิสัยชาวบ้าน พร้อมแจ้งว่า นางไห้ไม่อยู่ไปหาญาติต่างตำบล&ค้างคืน โดยอ้างว่าตนเป็นลูกพี่ลูกน้องนางไห้
เสือสายเห็นพล.ตร.สังวรณ์มีรูปร่างสันทัด ผิวคล้ำจึงคิดว่าเป็นขุนพันธ์ จึงถามย้ำเพื่อความแน่ใจ พล.ตร.สังวรณ์นึกสนุกจึงรับสมอ้างไป เสือสายจึงให้ พล.ตร.สังวรณ์อ่านหมายศาลให้ฟังพออ่านจบ เสือสายลุกพรวดตวัดมีดเข้าอกนายเคลือบเป็นคนแรกแถมลูกถีบอีกดอก จนกระเด็นพร้อมแทงพล.ตร.สังวรณ์ แต่พล.ตร.สังวรณ์ถอยพร้อมดึงปืนพระราม6จากพลวัฒน์มายิงสวน เพราะตัวเองพกขวานมาเล่มเดียว
เสือสายพุ่งเข้ามาแทงซ้ำ พล.ตร.สังวรณ์ยิงซ้ำกระสุนเฉี่ยวโดนนิ้วก้อยเป็นแผลเหวอะ เสือสายเข้าแทงชายโครงพล.ตร.สังวรณ์จนมิดด้าม พล.ตร.สังวรณ์จึงหนีแต่เสือสายตามไปกระหน่ำแทงถึง9แผล พล.ตร.สังวรณ์ยิงสวนแต่พลาดพร้อมฟุบแน่นิ่งไป
เสือสายแย่งปืนจากพล.ตร.สังวรณ์ จึงย้อนกลับมาเพื่อยิง นายเคลือบ&พล.ตร.วัฒน์ทิ้งแต่ทั้ง2หนีไปซ่อนตัวในป่ารกเสียก่อน เสือสายวิ่งชูปืนไปทั่วบ้าน พร้อมตะโกนด้วยความดีใจที่คิดว่า ตนฆ่าขุนพันธ์สำเร็จ
เมื่อเสือสายไปแล้วพล.ตร.วัฒน์ได้พานายเคลือบ พล.ตร.สังวรณ์ไปขอความช่วยเหลือจากผู้เฒ่าที่ผิงไฟแถวนั้น ผู้เฒ่าจึงแจวเรือพาทั้ง3มาส่งที่ สน.ตร.สุราษฎร์ธานี แต่พล.ตร.สังวรณ์สิ้นใจเสียก่อน ส่วนนายเคลือบบาดเจ็บสาหัส
พ.ต.ท หลวงเสนีรณยุทธ ทราบเรื่องถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความสงสาร ลั่นวาจาว่าจะจับเสือสายให้จงได้ ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดชทราบเรื่องทั้งหมด จึงขออาสาออกจับเสือสายแทน
จากนั้น ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดชทำพิธีเซ่นดวงวิญญาณ พล.ตร.สังวรณ์ด้วยข้าว ปลา น้ำ ใส่กระทงเซ่นผี ขอให้ช่วยนำทางไปจับเสือสาย&พรรคพวกโดยเร็วที่สุดเถิด ต่อมาร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดช สืบรู้มาว่าเสือสายพาเสือโน้ม&ลูกน้องจำนวนหนึ่ง หลบไปกบดานที่ขุนทะเล
เสือสายรู้ว่าร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดชตัวจริงนั้นกำลังล่าตนอยู่&ยิง ฟันไม่เข้าจึงพกขวานกะไว้ทุบให้แหลกคามือ ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดช จึงนำกำลังล่องเรือไปยังขุนทะเลตอนย่ำค่ำ มี ส.ต.ตเกียรติ์ ส.ต.ทสันต์ พล.ตร.วัฒน์ ผู้ใหญ่หริบ นายเคว็จ
ล่องเรือไปยังขุนทะเลทั้งคืน ใกล้รุ่งจึงถึงจุดหมาย เมื่อยกพลขึ้นฝั่งเสือสายกับพวกหนีไปเสียก่อน ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดชใช้เวลา2เดือน จึงรู้ว่าเสือสาย&เสือโน้มหลบไปกบดานที่บ้านนาใน ต.ถ้ำสิงขร อ.คีรีรัฐนิคม ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดช จึงนำกำลังออกตามทันทีมี ส.ต.ทสันต์ พล.ตร.วัฒน์ กำนันเจิม ผู้ใหญ่หริบ นายย่อง&นายหนูตร.เก่า แต่ทั้งหมดกลัวข่าวจะรั่วไปถึงเสือสาย จึงไม่ยอมติดต่อจนท.ท้องถิ่น จึงหลงทางไปซุ่มที่วัดถ้ำแทนที่จะเป็นถ้ำสิงขร เมื่อเห็นชาวบ้านชาย2หญิง1 เข้ามาหาขี้ค้างคาวในถ้ำก็กักตัวไว้เพื่อไม่ให้ข่าวรั่วไปถึงเสือสาย
แต่ปล่อยญ.ไปเพราะเธออ้างว่าจะกลับไปหาลูกอ่อน แต่เธอกลับไปแจ้งความที่โรงพักท่าขนอน จ.ส.ตฟ่อนจึงนำกำลังตร.พร้อมอาวุธขึ้นเขามาจับกุม แต่ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้ใส่เครื่องแบบหลบไปหลังถ้ำ แจ้งกับจ.ส.ตฟ่อนว่ามาตรวจท้องที่&จับโจรเช่นกัน แล้วไปแก้มัดช.2คนในถ้ำ
เย็นวันนั้น ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดช&พรรคพวก ได้ไปกินข้าวบ้านกำนัน&อาศัยนอนที่นั่น วันต่อมาได้ข่าวว่า เสือสาย&เสือโน้มหนีเข้าป่าทับควาย คอยปล้นข้าวสาร-ข้าวห่อของพวกเก็บน้ำมันยางอยู่เสมอ
ณ เวลานั้น นายคล้อยหลบหนีคดีฆ่าคนตาย แต่หลักฐานฝ่ายโจทก์อ่อน&มีช่องสู้คดีได้ ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดช จึงยื่นข้อเสนอว่าจะช่วยเรื่องคดีแลกกับการเป็นสายให้ตร. และไปขอเข้าพวกกับเสือสาย&เสือโน้ม
ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดชจึงรู้ข่าวจากสายว่า คืนไหนฝนไม่ตกเสือสายจะกางมุ้งนอนตรงโคนต้นไม้ คืนไหนฝนตกจะขึ้นไปนอนบนห้างทับควาย และเสือสายยังอยู่ที่บ้านนาใน
14 มี.ค พ.ศ 2486
ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดชจึงขอความร่วมมือจากกำนันต.ถ้ำสิงขร บ่ายวันนั้นมีฝนตกใหญ่ ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดช จึงนำเดินทางกำลังเข้าล้อมจับเสือสายตอน17.00น.ถึงห้างทับควายตอน19.00น.
เห็นห้างทับควายปลูกบนเนิน3หลัง รอบห้างเป็นทุ่งหญ้า&ป่าละเมาะ ทางเข้ามีทางเดินตัดผ่านสวนยาง ทิศตะวันออกทางเดียว ถ้าซ่อนในป่ายางจะเห็นห้างทับควายทุกหลังชัดเจน ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดช จึงสั่งให้แบ่งกำลังเป็น2กลุ่ม
1.กำนันเจิม ผู้ใหญ่หริบ นายหนู พล.ตร.วัฒน์เดินลึกเข้าไปในป่ายาง
2.ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดช พล.ตร.สันต์ กำนันถ้ำสิงขร นายย่องอยู่ตรงปากทางออก
ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดชไม่รู้จักหน้าเสือสาย จึงเตี๊ยมกับกำนันเจิม ถ้าเสือสายนำหน้ากระตุกหวาย1ครั้ง ถ้าอยู่คนที่2ให้กระตุกหวาย2ครั้ง ถ้าอยู่คนที่3ให้กระตุกหวาย3ครั้ง
เวลา02.00น.
กลุ่มของ ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดชพบคน3คนเดินผ่านมา แต่เกิดการสื่อสารที่ผิดพลาด จึงต้องล้มเลิกแผนจู่โจมแล้วมาวางแผนกันใหม่ โดยคนร้ายทั้ง3ต่างขึ้นไปนอนบนห้างเรียบร้อยแล้ว
โดยล้อมห้างทับควายเอาไว้ ให้กำนันเจิม นายย่อง นายหนู กำนันต.ถ้ำสิงขรไปสกัดทิศเหนือ ตรงจอมปลวกใกล้ๆห้างทับควาย ส่วนร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดช พล.ตร.วัฒน์ พล.ตร.สันต์ ผู้ใหญ่หริบ จะไปสกัดทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตรงจอมปลวกใหญ่ และจะเป็นฝ่ายจู่โจม
เวลา04.00น.นิดๆ
จังหวะที่ทุกคนกำลังคลานฝ่าโคลน ตรงทางควายเดินเข้าไปซุ่มตรงจอมปลวกนั้น เป็นจังหวะที่เสือสาย&เสือโน้มตื่นพอดี จึงยิงปืนใส่จอมปลวก1นัด ฝ่ายร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดชทั้ง2กลุ่มต่างระดมยิง ขึ้นไปบนห้างทับควาย จนมีคนๆหนึ่งร่วงจากห้าง นายหนูวิ่งเข้าไปกดด้วยลูกปืนยาว แต่ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดชจำได้ว่าเป็นนายคล้อยจึงตบปากกระบอกปืนเบนออก นายคล้อยจึงรอดตายอย่างหวุดหวิดพร้อมวิ่งหนีอย่างขวัญกระเจิง
บนห้างเสือโน้มแหกฝาห้างหนีลงมาอีกคน พล.ตร.สันต์แย่งปืนพระราม6มาได้แต่จับตัวไม่ทัน บนห้างเสือสายกัดสะบ้าหัวเข่าพล.ตร.วัฒน์ไม่ยอมปล่อยจนดิ้นพราดๆ ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดชจึงงัดปากเสือสายด้วยดาบปลายปืนจึงยอมปล่อย
แล้วจับเสือสายมัดยึดปืนลูกซองยาวได้1กระบอก ขวานกลาง1เล่ม ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดชบอกกับเสือสายว่าไม่ต้องการจับตายใครทั้งสิ้น โดยเฉพาะเสือสาย ตั้งใจจะดวลขวาน&ไม้แต้วหนามด้วยซ้ำ เสือสายเมื่อรู้ความจริงก็นับถือน้ำใจ ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดชอย่างมากเอ่ยว่า ถ้ารู้ความจริงจะยอมมอบตัวแต่แรก
การจับกุมครั้งนี้ จนท.ปลอดภัยทุกคน เสือสายถูกกระสุนที่ท่อนขา หน้าแข้ง ตาตุ่ม หลังเท้า ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดชจึงสั่งให้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น มีคนร้ายหนีไปได้2คน คือเสือโน้ม นายคล้อย(ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดชปล่อยหนี&ช่วยคดีในภายหลัง)
คณะของร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดชหามเสือสายลงเรือตรงท่าน้ำวัดถ้ำสิงขร เพื่อล่องเรือไปยังจ.สุราษฎร์ธานีเพื่อพาเสือสายไปรักษาตัว ระหว่างทางเสือสายไข้ขึ้นสูง เนื่องจากบาดแผลอักเสบ ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดชจึงบันทึกปากคำโดยละเอียด และให้ลงลายมือชื่อเซ็นรับสารภาพ เนื่องจากกลัวว่าเสือสายจะสิ้นใจซะก่อน
ข่าวการจับเสือสายแพร่ไปอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านพากันโบกผ้าแดง โห่ร้องโบกมือแสดงความยินดี พวกล่องเรือต่างแล่นเรือมาเทียบ ช่วยกันลากจูงเรือเป็นขบวนยาวเหยียด จนถึงบ้านท่าผาก อ.ท่าผาก อ.พุนพินจึงพักกินข้าวกลางวัน
เสือสายอาการทรุดหนัก นายเริ่ม(นักโทษเก่าเรือนจำสุราษ.)จึงนำมะขามเปียกละลายน้ำอุ่นผสมสบู่ ใช้เป่าผ่านก้านมะละกอทางทวารหนัก จนเสือสายถ่ายอุจจาระออกมา ไข้ก็ลดลงมีสติกลับมา
ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดชโทรเลขแจ้งรองผบ.ล่วงหน้า จึงนำเสือสายลงเรือไปท่าขนอน ช่วงบ่ายมีชาวบ้านพายเรือมาส่งอย่างคับคั่ง
วันรุ่งขึ้นถึงสน.ตร.ท่าขนอน จึงนำเสือสายเข้าสอบสวน&ฝากขังไว้1คืน ระหว่างนั้นชาวบ้านแห่มายินดี มอบเงิน&อาหารให้แก่ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดช แต่ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดชมอบเงินให้แก่โรงพักไว้ซ่อมบันได เก็บไว้เป็นที่ระลึกแค่สลึงเดียว
วันรุ่งขึ้นคณะของร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดชล่องเรือถึงสุราษฎร์ มีชาวบ้านมาต้อนรับอย่างหนาแน่น มีหนังตะลุง มโนราห์ เพลงกระบอก เข้าเทียบเรือแสดงฉลองชัยไปตลอดทาง เรือคณะร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดชมาถึงท่าข้าม อ.พุนพินช่วงบ่าย ชาวบ้านต่างแห่มาแสดงความยินดีอย่างเนืองแน่น พร้อมค้างที่คลองพุนพิน1คืน มีมหรสพตลอดคืนจนเช้า ชาวพุนพินจึงโยงเรือมาส่งที่บ้านดอน
ที่สน.ตร.บ้านดอน ท่านรองผบ.มารอต้อนรับ พร้อมสอบปากคำเสือสายด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเสือสายขอถ่ายรูปกับ คณะร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดชเป็นที่ระลึก เสือสายถูกส่งตัวไปให้ขุนว่องรักษาแต่อยู่ได้ไม่กี่วันก็สิ้นใจตาย
ความใจหินของเสือสายนั้น ร.ต.อขุนพันธรักษ์ราชเดชต้องยอมรับ เพราะตั้งแต่โดนจับกุมเสือสายไม่เคยร้องครวญคราง แถมช่วงที่ชาวบ้านแห่เรือมารับพร้อมการละเล่น เสือสายยังร่วมร้องเพลงตามไปด้วย
บันทึก
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ตำนานขุนพันธรักษ์ราชเดช&กำเนิดจตุคามรามเทพ
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย