"กินขมิ้นอย่างไรให้ได้สาร curcumin สูงสุด"
ขมิ้นชันเป็นสมุนไพรที่ดี ยอดเยี่ยมครับ แต่ว่ามันดูดซึมเอาไปใช้ยากสุดๆแต่ มีวิธี
แค่รู้เทคนิคเล็กๆน้อย ก็นำไปประยุกต์ใช้ครับ
ในที่นี้ กล่าวถึง การทานอาหารให้เป็นยาตามแนวทางของ หมอยาท่าBD ครับ
ขมิ้นชันในที่นี้ไม่ใช่ สารสกัด curcumin นะครับแต่หมายถึงเครื่องเทศ ขมิ้นชัน (Termeric)ครับ
จะรูปแบบไหนก็แล้วแต่ สด แห้ง ผง ถือว่าดีที่สุดครับ และเพียงแค่ วันละ1/4ช้อนชาก็เพียงพอ(ตามคำแนะนำของ ดรไมเคิล เกรเกอร์)
เพื่อสรรพคุณที่ยอดเยี่ยม
สมัยโบราณ เราก็ใช้เครื่องเทศเช่น ขมิ้นชัน ในครัว ต้มยำทำแกง สารพัดที่จะนำมาใช้ทำอาหาร
ขมิ้นชัน สามารถที่จะ เข้าโจมตีเซลลมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่ทำร้ายเซลล์ที่ดีในร่างกาย
เซลล์มะเร็งร้าย
นั่นเป็นเหตุผลว่าขมิ้น จะอยู่ในเครื่องแกง ที่อยู่ในเมนูที่ปรุงจากเนื้อสัตว์ เช่นแกงมัสมั่น แกงกะหรี่ ต้มยำต่างๆ โดยเฉพาะ เครื่องต้มยำทางภาคเหนือจะจัดชุด ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และ ขมิ้นตลอด
ขมิ้นดูดซึมดีขึ้นเมื่อมีพริกไทยเสริมคู่กัน
curcumin piperin
คู่หู เพชรฆาตฟาดเซลล์มะเร็ง
ในพริกไทยมี ไปเปอรีน สามารถยับยั้งการเผาผลาญยา(drug metabolism)ได้
ซึ่งเป็นวิธีที่ตับทำเป็นปกติ เมื่อทานยา ซึ่งเป็นโปรตีนที่แปลกปลอม
แต่เมื่อทานพริกไทยไป ขบวนการนี้ถูกยับยั้ง จึงทำให้ยาในเลือดสามารถนำไปใช้ได้มากขึ้น
หลักการเดียวกัน กับ ขมิ้นชัน
ปกติ ภายหลังจากที่เรารับประทานขมิ้นชันเข้าไปแล้ว สารเคอร์คูมิน curcumin ก็จะอยู่ในกระแสเลือดแค่ปริมาณเล็กน้อยเอง และถือว่าน้อยมากๆ
ข้อสันนิษฐานคือตับของเราทำงานได้ ดีเยี่ยมจนขจัดสารเคอร์คูมินทิ้งไปนั่นเอง
วงจรนี้จะหยุดไป เมื่อเรากินขมิ้นชันในปริมาณเท่าเดิมและเราเพิ่มพริกไทยลงไปแค่ 1 ส่วน 4 ช้อนชา
ก็จะทำให้ระดับของ curcumin มีในเลือดสูงขึ้นถึง 2000 เปอร์เซ็นต์
หรือแม้แต่เราเพียงแค่เพิ่มพริกไทยไปนิดหน่อย แค่ 1/20 ช้อนชา ก็ยังสามารถเพิ่มระดับ curcumin ในเลือดได้อย่างมีนัยสำคัญ
ขมิ้นชันละลายในไขมัน
ในมื้ออาหารเราก็ต้องมีไขมันมาเกี่ยวข้อง เมื่อจะทานขมิ้นให้ได้ประโยชน์
แกงมัสมั่น แกงกะกรี่ หรือแกงต่างๆที่มีขมิ้นชัน ส่วนมากจะมีน้ำมันผสมอยู่เสมอ
เราสามารถทานขมิ้นชันได้ทั้ง แห้งและดิบ ซึ่งแบบผงแห้ง จะสามารถป้องกัน ดีเอ็นเอ ได้ดีกว่า แต่แบบสดจะ ต้านทานการอักเสบดีกว่า
ผมเลยว่าแนะนำให้ทานทั้ง 2แบบเลยครับ
แบบแห้ง 1/4 ช้อนชาต่อวัน
แบบสดแค่ 1 ข้อนิ้วต่อวัน
และห้ามทานเกิน 1ช้อนชาต่อวัน
เนื่องจาก ขมิ้นชันมีออกซาเลตสูงซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดนิ่วในไตได้
ส่วนผู้ที่เป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีก็ไม่แนะนำให้รับประทานเนื่องจากขมิ้นชันจะทำให้ท่านเจ็บปวด
เพราะขมิ้นชันกระตุ้นการบีบตัวของถุงน้ำดีมาให้น้ำดีได้อยู่นิ่ง
ส่วนคนที่ไม่ได้เป็นโรคนี้ขมิ้นชันก็จะช่วยลดความเสี่ยงที่นิ่วในถุงน้ำดีจะก่อตัวขึ้นและลดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งในถุงน้ำดีได้อีกด้วย
และหมอยาท่าBDขอเสริมอีกครั้งหนึ่งว่า ควรทานให้เป็นอาหารคือยา
การใช้อาหารเป็นยา เป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมานานแต่สมัยโบราณ เพียงแต่เป็นการสั่งสมประสบการ์ณ ที่อธิบายยากเท่านั้น
ว่าแล้วก็อยากกินมัสมั่น ไก่สักถ้วยครับ
เขียนรับใช้แต่เพียงเท่านี้ ขอบพระคุณสำหรับการติดตาม
อยู่ดีมีสุขทุกท่าน
สวัสดีครับ
- 53
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
