19 ธ.ค. 2019 เวลา 03:19 • ความคิดเห็น
ทฤษฎีหนึ่ง ที่อธิบายได้ว่า ทำไมตลาดเงียบ..
ต่อให้เทวดา มาเป็นรัฐบาลก็แก้ปัญหาไม่ได้
ทำไมเศรษฐกิจไม่ดี ทำไมตลาดเงียบเหงา ลองดูหน่อยซิ ใช่เกิดจากสิ่งนี้ รึเปล่า
1. ปี 2547 หนุ่มสาวออฟฟิศและในภาคอุตสาหกรรมและบริการ ถือบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ไม่น้อยกว่าคนละ 5-6 ใบ ถูกฟ้องคดี มีหนี้สะสมมาตลอดกว่า 10 ปี
2. พ่อแม่ที่บ้านนอกกู้ กองทุนหมู่บ้าน ธนาคารหมู่บ้าน ออมสิน และ ธกส.
3. น้องๆ กู้เงิน กยส. มาจ่ายค่าหน่วยกิตเพื่อเรียนวิชาฮิต เช่น นิเทศน์ศาสตร์ เพราะรัฐเพิกเฉย ปล่อยให้เปิดสอนบานเบอะ จบแล้วส่วนใหญ่ไม่มีงานทำ ที่มี ก็ไม่พอค่ากินค่าอยู่
4. รถคันแรก มีกันเกือบทุกบ้าน ใครไม่มีเครดิต ก็ใช้ชื่อเพื่อน ชื่อญาติซื้อ
ทุกวันนี้ คนสี่กลุ่มนี้ถูกฟ้องคดีต่อศาล หลายล้านคดี ถูกอายัดเงินเดือน อายัดโบนัส เงินเดือนที่เหลือ ก็ไม่พอกิน ไม่พอใช้หนี้ที่กู้มาใช้ตลอด 10 ปีมานี้
นี่คือปัญหาแรกของเรื่องเศรษฐกิจ
ปัญหาเศรษฐกิจเรื่องที่สอง ที่กำลังทำลายตลาดทุกวันๆ ก็คือ
1. เงินอยู่ในเซเว่น
2.เงินอยู่ในโลตัส
3. เงินอยู่ในบิ๊กซี
มีอะไรบ้างล่ะ ที่ยักษ์ 3 รายนี้ไม่มีขาย
ปัญหาเรื่องที่สาม ที่มีส่วนทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่ (และจะต้องตายภายใน 2-3 ปีนี้) ก็คือ สถิติเมื่อปี 61 คนไทยซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊กมากกว่า 50 ล้านครั้ง มูลค่าซื้อขายมากกว่า 3 ล้านล้านบาท (ค่อยๆอ่านนะครับ จะได้ไม่ผิด) มีอะไรบ้างล่ะ ที่ออนไลน์ไม่มีขาย
แม้แต่ข้าวผัด ก็ยังสั่งออนไลน์เลยครับ
ทั้งๆที่ไตรมาสแรกปี 62 ส่งออกขยายตัว 2.6 %
3 เรื่องข้างต้น คือคำตอบว่า ทำไมตลาดเงียบ ทำไมค้าขายย่ำแย่ ทำไมสำเพ็งตาย
อย่างไรก็ตามในมุมทางธุรกิจหรือการตลาด ยักษ์ใหญ่เหล่านี้เขามีความรู้ความสามารถที่จะพัฒนาธุรกิจเขา ขยายกิ่งก้านสาขาออกมาขนาดนี้ มันเป็นแรงขับเคลื่อนเหมือนเครื่องยนต์รถที่กำลังวิ่งแรง มันมี Momentum ของมัน ยิ่งขายคนยิ่งซื้อ ยิ่งลดคนยิ่งซื้อ ยิ่งโตก็ยิ่งรวย ยิ่งรวยก็ยิ่งโต ยิ่งมีศักยภาพทำได้ทุกอย่าง
เราต้องหันกลับมาดูอีกทีว่าที่ประเทศเติบโตมาได้ขนาดนี้ เบื้องลึกแล้วมันเป็นระบบทุนนิยมที่ไม่มีความสมดุลในทางเศรษฐกิจและสังคมหรือไม่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา