Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Hobbies
•
ติดตาม
19 ธ.ค. 2019 เวลา 05:01 • ปรัชญา
จะเป็นผู้คอยรับไว้ไม่ให้ใครร่วงหล่น (the catcher in the rye) ตอนที่ 9
ผมรู้สึกได้ว่าเขายืนอยู่บนขอบห้องอาบนํ้า ข้างหลังเก้าอี้ของผม กำลังมองดูว่าสแตรดเลเทอร์อยู่หรือเปล่า
จะเป็นผู้คอยรับไว้ไม่ให้ใครร่วงหล่น (the catcher in the rye) ตอนที่ 9
เขาเกลียดสแตรดเลเทอร์เข้าไส้และ เขาไม่เคยเข้ามาในห้องถ้ามีแสตรดเลเทอร์อยู่ด้วย เขาเกลียดทุกคนเข้าไส้เกือบหมดนั่นแหละ
เขาลงมาจากขอบห้องนํ้าแล้วเข้ามาในห้อง
“หวัดดี” เขาพูด
เขามักจะพูดด้วยนํ้าเสียงเหมือนกับว่าเขาเบื่อหน่ายหรือเหน็ดเหนื่อยเอามากๆ เขาไม่ต้องการให้คุณคิดว่าเขามาหาคุณหรืออะไรทํานองนั้น เขาต้องการให้คุณคิดว่าเขาหลงเข้ามาในห้อง ให้ตายห่าเถอะ
"หวัดดี" ผมตอบ
แต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากหนังสือ
กับคนอย่าง แอ็กเลย์ ถ้าคุณเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือละก็คุณต้องชิบหายแน่ๆ
เขาเริ่มเดินไปรอบๆ ห้อง อย่างช้าๆ อย่างที่เขาทําตามปกติ พลางหยิบข้าวของส่วนตัวของผมขึ้นจากโต๊ะทํางานและโต๊ะแต่งตัว
เขาชอบหยิบของส่วนตัวของคนอื่นขึ้นดูเสมอ ให้ตายสิ น่ารำคาญชิบหาย
“ดวลดาบเป็นไงบ้างล่ะ” เขาพูด
เขาแค่ไม่อยากให้ผมมีความสุขกับการอ่านหนังสือเท่านั้น เขาไม่สนเรื่องดวลดาบหรอก
“เราชนะหรือ เปล่า” เขาพูด
“ไม่มีใครชนะ" ผมบอก
แต่ผมก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้น
“อะไรนะ” เขาพูด
เขามักบังคับให้คุณต้องพูดทุกอย่างซํ้าอีกครั้ง
“ไม่มีใครชนะ” ผมบอก
ผมแอบเหลือบมองว่าเขาหจุ่นจ้านอยู่กับอะไรที่โต๊ะแต่งตัวของผม
เขากําลังจ้องมองภาพถ่ายของผู้หญิงที่ผมเคย เป็นแฟนด้วยในนิวยอร์ก
ชื่อแซลลี่ เฮย์ส เขาเคยหยิบรูปนั้นขึ้นมา ดูอย่างน้อยห้าพันครั้งแล้วกระมังตั้งแต่ที่ผมได้มันมา
เมื่อเขาดูเสร็จเขาจะวางมันกลับผิดที่เสมอเสียด้วย ดูก็ออกว่าเขาตั้งใจที่จะทําแบบนั้น
“ไม่มีใครชนะเหรอ ทําไมล่ะ” เขาพูด
“ฉันลืมไอ้พวกดาบกับอุปกรณ์ไว้ในรถไฟใต้ดิน”
ผมยังไม่เงยหน้าขึ้นมามองเขา
“ห่ะ! ในรถไฟใต้ดินเลยเหรอ พระเจ้า! นายหมายความว่านายทํามัน หายใช่มั้ยเนี่ย”
“พวกเราขึ้นรถผิดขบวน ฉันต้องคอยลุกขึ้นดูแผนที่บนผนังรถ”
เขาเดินเข้ามาแล้วยืนบังแสงไฟ
“เฮ้ย” ผมพูด
“กูอ่านประโยค เดียวซํ้าไปซํ้ามาประมาณยี่สิบเที่ยวได้แล้ว ตั้งแต่มึงเข้ามาเนี่ย”
ถ้าเป็นใครคนอื่นนอกจากแอ็กเลย์คงเข้าใจความหมายของผม แต่มันไม่เข้าใจหรอก
“คิดว่าเขาจะให้นายจ่ายค่าเสียหายมั้ย” เขาพูด
“ไม่รู้สิ และฉันก็ไม่สนด้วย นั่งลงหรืออะไรสักอย่างได้มั้ยไอ้หนู แอ็กเลย์ นายยืนบังแสงไฟฉันอยู่นะ”
เขาไม่ชอบเวลาที่มีคนเรียกเขาว่า “ไอ้หนูแอ็กเลย์” เขามักจะบอกผมเสมอว่าผมเป็นไอ้หนู เพราะผมอายุสิบหกและเขาอายุสิบแปด มันทําให้เขาเป็นบ้าเวลาที่ผมเรียกเขาว่า “ไอ้หนู แอ็กเลย์”
เขาปักหลักยืนอยู่ตรงนั้น เขาเป็นคนประเภทที่ไม่ยอมหลีกหลบให้ใคร ถ้าคุณขอเขา สักพักหนึ่งเขาถึงจะยอม
“นายอ่านอะไรอยู่วะ” เขาถาม
“หนังสือน่ะสิวะ”
เขาผลักหนังสือของผมเข้ามาหาผมด้วยมือของเขา เพื่อที่เขาจะได้เห็นชื่อของมัน
“ดีมั้ย” เขาว่า
“ประโยคที่ฉันกําลังอ่านอยู่นี่สุดยอดเลยว่ะ”
ผมประชดประชันเก่งอยู่เหมือนกันถ้าผมมีอารมณ์
แต่เขาไม่รู้เรื่องหรอก เขาเริ่มเดินไปมาในห้องอีกครั้งพลางหยิบของส่วนตัวของผมขึ้นมาดู และของสแตรดเลเทอร์ด้วย ในที่สุดผมก็วางหนังสือลงบนพื้น คุณไม่สามารถอ่านอะไรได้ถ้ามีคนอย่างแอ็กเลย์อยู่ใกล้ๆ มันเป็นไปไม่ได้เลย
ผมนั่งจมลงไปในเก้าอี้และมองดูเจ้าแอ็กเลย์ทําตัวตามสบายเหมือนมันอยู่ในบ้านตัวเอง ผมค่อนข้างจะรู้สึกอ่อนเพลียจากการเดินทางกลับมาจากนิวยอร์ก ผมเริ่มหาวง่วง แล้วผมก็เริ่มหาอะไรเล่น บางครั้งผมก็หาอะไรเล่นเพียงเพื่อไม่ให้เกิดอาการเบื่อหน่าย สิ่งที่ผมทําก็คือ ผมดึงปีกหมวกล่าสัตว์ของผมมาอยู่ด้านหน้า แล้วดึงมันลงมาปิดดวงตา ทําให้ ผมไม่สามารถมองเห็นห่าเหวอะไรเลย
“ฉันว่าฉันกําลังจะตาบอด” ผมพูดด้วยน้ําเสียงแหลมๆ
“คุณแม่ที่รักจ๋า ทุกอย่างในนี้เริ่มดํามืดไปหมดแล้ว”
“มึงนี้มันบ้าจริงๆ” แอ็กเลย์ว่า
“คุณแม่ที่รักจ๋า ยื่นมือมาให้หนูสิ เหตุใดท่านแม่จึงไม่ยื่นมือมาให้หนูล่ะ”
“ให้ตายสิ เลิกเล่นเป็นเด็กได้แล้ว”
ผมเริ่มทําท่าตะเกียกตะกายเหมือนคนตาบอด แต่ไม่ได้ลุกขึ้นหรืออะไร ผมพูดซ้ําไปมาว่า “คุณแม่ที่รักจ๋า เหตุใดแม่จึงไม่ยื่นมือมา ให้หนูล่ะ” ผมก็แค่ล้อเล่นไปอย่างนั้นเอง บางทีการเล่นอะไรแบบนั้นก็ เพลินดี อีกอย่าง ผมรู้ว่ามันโคตรจะสร้างความรําคาญให้เจ้าแอ็กเลย์ เขามักจะกระตุ้นความซาดิสต์ในตัวผมออกมาเสมอ ผมทําอะไรซาดิสต์ๆกับเขาอยู่บ่อยๆ แต่ในที่สุดผมก็หยุด ผมดึงปีกหมวกไปข้างหลังอย่างเก่าแล้วสงบที่ท่าลง
“ไอ้นี่ของใคร” แอ็กเลย์พูด
เขากําลังถือสนับเข่าของรูมเมตผมขึ้น มาให้ผมดู เจ้าแอ็กเลย์นี่มันหยิบอะไรได้ทุกอย่าง เขาอาจจะหยิบกระจับ ของคุณขึ้นมาก็ยังได้ ผมบอกเขาว่ามันเป็นของสแตรดเลเทอร์ เขาจึงโยนมันลงบนเตียงของสแตรดเลเทอร์ เขาหยิบมันมาจากโต๊ะแต่งตัวของสแตรดเลเทอร์ แต่โยนมันลงไปที่เตียงของสแตรดเลเทอร์
เขาเดินมานั่งลงบนเท้าแขนเก้าอี้ของสแตรดเลเทอร์ เขาไม่นั่งลงบนเก้าอี้ ทุกครั้งจะต้องนั่งเฉพาะบนเท้าแขน
“นายไปเอาหมวกนั่นมาจากไหนวะ” เขาถาม
“นิวยอร์ก”
“เท่าไหร่”
“หนึ่งดอลลาร์”
“มึงถูกโกงแล้ว”
เขาเริ่มแคะเล็บมือของเขาด้วยปลายไม้ขีดไฟ เขามักทําความสะอาดเล็บอยู่เสมอ มันตลกดีอยู่เหมือนกัน ฟันของเขามักจะดูเขียวๆ และหูของเขาก็สกปรกฉิบหาย แต่เขาจะทําความสะอาดเล็บอยู่ตลอดเวลา ผมเดาว่าเขาคงคิดว่ามันทํา ให้เขาดูเป็นคนสะอาดสะอ้านเอามากๆ
เขามองหมวกของผมอีกครั้งขณะกําลังทําความสะอาดเล็บ
“แถวบ้านฉันเราจะใส่หมวกแบบนั้นกันตอนออกไปยิงกวาง นั่นมันเป็นหมวกล่ากวางนะไอ้บ้าเอ้ย” เขาบอก
“บ้าน่ะสิ” ผมพูด
ผมถอดหมวกออกแล้วมองดูมัน ผมหลับตาลงหนึ่งข้าง ทําเหมือนว่ากําลังเล็งมันอยู่
“นี่มันเป็นหมวกยิ่งมนุษย์” ผมบอก
“เรายิ่ง มนุษย์ตอนสวมหมวกนี้”
....
“พ่อแม่นายรู้หรือยังว่านายถูกไล่ออก”
“ยัง”
"แล้วไอ้สแตรดเลเทอร์มันอยู่ไหนล่ะวะเนี่ย”
“ที่การแข่งขัน มันมีเดท”
ผมหาว ผมหาวหวอดๆตลอดเวลา เหตุผลหนึ่งคือเพราะในห้องร้อนเกินไป ทําให้ง่วง ที่เพนเซย์อะนะถ้าคุณไม่หนาวจนแข็งตายคุณก็ต้องตายเพราะความร้อน
“เจ้าสแตรดเลเทอร์ผู้ยิ่งใหญ่เอ้ย…เออนี่ เอากรรไกรตัดเล็บของนาย มาให้ยืมแปปหนึ่งสิ มันอยู่แถวๆ นี้มั้ย” แอ็กเลย์ว่า
“ไม่มี ฉันเก็บมันใส่กระเป๋าไปแล้ว มันอยู่บนสุดของตู้เสื้อผ้านู้น”
“ไปเอามันมาให้หน่อยน่า ฉันอยากจะตัดจมูกเล็บนี่ออกหน่อย”
เขาไม่สนว่าคุณได้เก็บอะไรไปแล้วหรือไม่ ไม่สนว่ามันอยู่ชั้นบนสุดของตู้เสื้อผ้า
แต่ผมก็ไปเอามันออกมาให้เขา มันทําเอาผมเกือบตายเสียด้วย วินาทีที่ผมเปิดบานตู้เสื้อผ้าไม้เทนนิสของสแตรดเลเทอร์ ที่แขวนอยู่ด้านบนดันตกลงมาบนหัวผมพอดี ทําให้เกิดเสียงดัง ตุบ และมันเจ็บเป็นบ้า แต่ก็สร้างบันเทิงให้เจ้าแอ็กเลย์ได้ เขาเริ่มหัวเราะด้วยน้ําเสียงสูงกว่าปกติ เขาหัวเราะต่อเนื่องตลอดเวลาขณะที่ผมยกกระเป๋าลงเพื่อเอากรรไกรออกมาให้เขา ไอ้ เรื่องทํานอง คนโดนก้อนหินตกใส่หัวหรืออะไรสักอย่าง จะจี้เส้นหัวเราะของแอ็กเลย์ได้เลยทีเดียว เขาจะขำจนกางเกงแทบจะหลุดตูด
“นายนี่มีอารมณ์ขันมากเลยนะ ไอ้หนูแอ็กเลย์ รู้ตัวหรือป่าว” ผมบอกเขา
ผมยื่นกรรไกรตัดเล็บให้เขา
“ให้ฉันเป็น ผู้จัดการนายสิ ฉันจะจัดการให้นายได้ออกรายการวิทยุเลยทีเดียว”
ผมนั่งลงบนเก้าอี้ของผมอีกครั้ง และเขาเริ่มตัดแผ่นเล็บที่ยื่นยาวออกมา
“มึงไปตัดบนโต๊ะได้มั้ยวะ กูไม่อยากเดินไปเหยียบเศษเล็บของมึงหรอกนะคืนนี้” ผมบอก
แต่เขาก็ยังคงตัดมัน ลงบนพื้นอยู่ดี ช่างมารยาททรามอะไรอย่างนั้น
ผมพูดจริงๆนะ
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เป็นผู้คอยรับไว้ ไม่ให้ใครล่วงหล่น
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย