19 ธ.ค. 2019 เวลา 11:19 • ธุรกิจ
คนในเมืองหลวงฟินแลนด์สามารถ “เลือกที่จะเลิกซื้อรถ” ในปี 2025
เบื่อ “รถติด” กันบ้างมั้ย...? กทม.นี่รถติดอันดับ 8 ของโลกเลยนะ
Credit: escapingabroad.com
ถ้าไม่...เบื่อ PM 2.5 กันบ้างหรือเปล่า...?
Credit: Thairath.co.th
เราเริ่มสงสัยว่าจะมีวันไหนบ้างที่จะแก้ปัญหาการจราจรและควันพิษไปได้ หากทุกคนยังขับรถออกมาบนถนนกันแบบนี้ และจะยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ
กทม. มีประชากรประมาณ 8.28 ล้านคนจากข้อมูลเมื่อปี 2010 นี่จะผ่านมาอีก 10 ปีแล้วไม่รู้ตัวเลขไปถึง 10 ล้านคนแล้วยัง...
อย่างไรก็ดี เราไปอ่านเจอเรื่องของคนในประเทศฟินแลนด์ ที่เค้ากล้าหาญชาญชัยในการลดการใช้พาหนะส่วนตัว ถึงขั้นกล้าตั้งเป้าหมายว่า
“ภายในปี 2025 คนในเมือง Helsinki ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของพาหนะส่วนตัวอีกต่อไป”
ฟินแลนด์เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องเทคโนโลยีไม่แพ้ชาติใดในโลก โดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร เกมมือถือ หรืออุปกรณ์ฟิตเนสเช่น smartwatch
ตัวอย่างเทคโนโลยีจาก Finland / Credit: Suunto.com
ทำไมจู่ๆคนในเมืองหลวงของฟินแลนด์อย่าง Helsinki ถึงลุกมาปฏิวัติเรื่องการเดินทางละ?
ก็เพราะฟินแลนด์อยู่ในยุโรปทางตอนเหนือ มีอากาศหนาว การเดินทางโดยพาหนะส่วนตัวบนถนนที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ การหาที่จอดรถ หรือการดูแลบำรุงรักษา ก็ไม่ได้สะดวกสบายอะไรนัก ทำให้คนที่นั่นหลายๆครั้งต้องจอดพาหนะส่วนตัวของตัวเองไว้ ไม่ค่อยได้ใช้
ดังนั้นจึงมีผู้คิดแก้ปัญหาให้การเดินทางใน Helsinki สะดวกขึ้นด้วยการเชื่อมต่อวิธีการโดยสารทั้งหมดในเมือง ตั้งแต่รถบัส รถเช่า รถจักรยาน แท็กซี่ ระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งหมดมารวมอยู่ใน app เดียว พร้อมทั้งการจอง การชำระเงิน ทำได้เสร็จสรรพ
เทคโนโลยีที่สามารถรวมทุกวิธีการเดินทางทั้งหมดมาไว้ในที่เดียว เรียกว่า “Mobility as a Service” หรือ MaaS
ในปี 2016 จึงได้ถือกำเนิด application ที่ชื่อว่า whim ขึ้นมา...
Credit: whimapp.com
Whim ให้ผู้ใช้งานเลือกแพคเกจในการเดินทางได้แบบทั้งเหมาจ่ายรายเดือนแบบค่ามือถือบ้านเรา และแบบจ่ายเมื่อใช้งานเป็นครั้งๆไป
เลือกได้ทั้งแบบรายเดือนและแบบจ่ายเป็นครั้งที่ใช้ / Credit: Whimapp.com
whim มีผู้ใช้งาน 60,000 active users ต่อเดือนใน Helsinki และทำให้ Helsinki กลายเป็นเมืองที่ถูกจัดเป็นอันดับ 1 สำหรับเมืองที่มี Mobility as a Service หรือ MaaS หรือ ความก้าวหน้าในการเดินทางของคนในเมือง (อันดับ 2: Stockholm ของ สวีเดน, อันดับ 3: Vienna ของออสเตรีย)
ในช่วงแรกๆ whim ก็พบความยากลำบากในการเชื่อมต่อ platform ของตัวเองเข้ากับระบบขนส่งสาธารณะ จนกระทั่งรัฐบาลฟินแลนด์เข้ามาช่วยผลักดันและส่งเสริมให้เกิดการบูรณการในการให้บริการมากขึ้น
Partner ของ Whim / Credit: whimapp.com
มีงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า การใช้ MaaS ในเมืองจากผู้ให้บริการอย่าง whim จะทำให้การเดินทางใช้เวลาน้อยลงราว 90 ชั่วโมงต่อคนต่อปี
ถ้าเราทำงานวันละ 10 ชั่วโมงในออฟฟิศ นั่นแปลว่าจะเราสามารถทำงานได้มากขึ้นเทียบเท่ากับวันทำงาน 9 วันต่อปีเลยทีเดียว เนื่องจากเราใช้เวลาเดินทางลดลง
ที่สำคัญ ถ้าคนใช้ยานพาหนะส่วนตัวน้อยลง เราก็จะมีอากาศที่ดีขึ้นด้วย และอาจหมายถึงการที่เมืองของเราจะมีอุณหภูมที่ลดลงด้วยเช่นกัน
เพราะอย่างที่เคยเล่าให้ฟัง ว่า 70% ตลอดอายุการใช้งานของยานพาหนะของเรา หมดไปกับการ “จอดสนิท” ไม่ว่าจะที่บ้าน ที่ทำงาน หรือที่ห้างสรรพสินค้า
หวังว่าวันหนึ่ง เราจะเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นในบ้านเรานะ ขี้เกียจใส่หน้ากากกัน PM 2.5 เดินออกไปนอกวังแล้ว
#สุลต่านตกอับ
Source

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา