16 ธ.ค. 2019 เวลา 08:27 • ธุรกิจ
เมื่อคนบางกลุ่มเริ่มไม่ต้องการซื้อรถยนต์อีกต่อไป
เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Toyota แนะนำบริการใหม่ คือ “ให้เช่ารถยนต์”​ ภายใต้ชื่อ “KINTO”
KINTO คืออะไร และทำไม TOYOTA ต้องออกบริการรถเช่ามาแข่งกับ “ลูกค้าตัวเอง” นั่นคือบริษัทรถเช่าทั้งหลาย เราจะชี้แจงแถลงไขให้เจ้าฟัง
TOYOTA และบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศไทยในปัจจุบัน มักจะให้บริการที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ดังต่อไปนี้
1. ขายรถยนต์ใหม่มือ 1 ผ่านผู้แทนแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (ดีลเลอร์)
2. บริการซ่อม บำรุง รถยนต์ผ่านศูนย์บริการของดีลเลอร์
3. ขายรถยนต์ใช้แล้วหรือรถยนต์มือ 2 ผ่านตัวแทนจำหน่าย เช่น Toyota Sure
4. บริการทางการเงิน (สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์) เช่น บริษัท Toyota Leasing Thailand
แต่เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน เริ่มมีความต้องการในการครอบครองสินทรัพย์ “ลดลง”​ โดยเฉพาะสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง เช่น ที่อยู่อาศัย ยานพาหนะ เนื่องจากเป็นภาระทางการเงินขนาดใหญ่ลำดับต้นๆของชีวิต ประกอบกับการมีบทบาทมากขึ้นของ Sharing Economy หรือ “เศรษฐกิจแบ่งปัน” ซึ่งถูกขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีเช่น mobile application, GPS, และอื่นๆ
จึงเป็นที่มาของ “ความไม่จำเป็นในการครอบครองสินทรัพย์” เพราะอยากได้อะไร ใช้อะไร ก็ขอ “เช่าระยะสั้น” มาใช้ได้ ไม่ต้อเก็บเงินซื้อยกเว้นว่าอยากได้จริงๆ
และคนยุคใหม่ สิ่งที่อยากได้จริงๆคือ “ประสบการณ์” ต่างหาก ซึ่งสามารถเก็บได้ในรูปแบบของ digital media เช่นการอัพคลิปลง Facebook, YouTube แถมไปไปมามา ได้ค่าตอบแทนเป็นเงินอีกต่างหาก
เพราะฉะนั้นการเดินทางจึงถูกตีค่าได้สองแบบ นั่นคือ
1. การเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง (mobility)
2. ประสบการณ์การขับขี่
Mobility หรือ การเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่งด้วยพาหนะใดก็ได้ / Credit: careserviceproject.eu
คนที่ยังจะซื้อรถยนต์ต่อไปในอนาคตเป็นหลักเลยคือกลุ่มที่ 2 ที่ยังชื่นชอบประสบการณ์ในการขับขี่รถยนต์ ในขณะที่กลุ่มแรกสามารถมีทางเลือกที่หลากหลายได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้า / ใช้ GrabTaxi หรือ GrabBike / เดิน / ปั่นจักรยาน / ติดรถไปด้วยแล้วหารค่าเดินทางกัน (Car Pool) หรือ แม้กระทั่งเช่ารถยนต์ระยะสั้น
และนั่นเป็นที่มาของ “KINTO” บริการรถเช่าจาก TOYOTA
ในเฟสแรกนี้ KINTO พยายามแก้ปัญหาของคนที่อยากใช้รถระยะยาวระดับ 3-4 ปี แต่ยังไม่มีความพร้อมในการไปซื้อรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นการซื้อด้วยเงินสด หรือการใช้สินเชื่อ เนื่องจากยังไม่มีเงินก้อนมากพอ
1
Credit: KINTO-TH.com
KINTO นำเสนอค่าเช่าที่ใกล้เคียงกับการผ่อนรถเอง คือแพงกว่าหน่อยแต่ในค่าเช่านี้รวมค่าบำรุงรักษา ประกันภัยรถยนต์ และค่าภาษีรถยนต์รายปี พร้อมบริการเสริมอื่นๆเช่น การให้ความช่วยเหลือ 24 ชม. และรถใช้แทนระหว่างซ่อม เป็นต้น
1
ค่าเช่าของ KINTO ก็ให้เลือกได้ว่าระยะทางในการขับขี่ของเรา ขับน้อย ขับกลาง หรือขับมาก
Credit: KINTO-TH.com
การใช้ KINTO ก็ทำผ่าน website หรือ application ของ KINTO และไปรับรถยนต์ที่ศูนย์บริการ TOYOTA ที่เข้าโปรแกรมกับ KINTO
Credit: KINTO-TH.com
สำหรับเราแล้วบริการของ KINTO ในปัจจุบันก็คล้ายๆกับการซื้อรถยนต์โดยใช้สินเชื่อ แค่ KINTO มารับหน้าทีแทนธนาคาร คือรับความเสี่ยงจากผู้เช่านั่นเอง
โดยกลุ่มเป้าหมายคือเด็กรุ่นใหม่ที่ยังไม่มีความพร้อมทางการเงินมากนัก ต้องการความสะดวกสบายในการใช้รถ (มีคนช่วยดูแลรถให้) จ่ายเงินรายเดือนแบบคงที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆ
แต่นี่ถือเป็นก้าวแรกที่น่าติดตามของ TOYOTA เพราะถ้าสามารถหาพันธมิตรมาขยายจุดให้บริการได้มากขึ้น โดยเฉพาะตามแนวขนส่งสาธารณะเช่น สนามบิน รถไฟฟ้า หรือจุดสำคัญๆที่มีคนเดินทางเยอะไป (traffic) จะทำให้ความสะดวกสบายในการเดินทางเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์เป็นเพียงแค่ “หนึ่งในทางเลือก”
เพราะจริงๆแล้ว รถยนต์ที่เราครอบครองกันนั้น กว่า 70% ตลอดอายุการใช้งานของตัวรถนั้น ใช้ไปกับการ “จอดสนิท” ทั้งสิ้น...
ไว้โอกาสหน้าจะเอาเรื่อง mobility technology ของต่างประเทศมาเล่าให้ฟังนะ ว่าเค้าไปถึงไหนกันแล้ว
#สุลต่านตกอับ
1
Source:

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา