ทำไมคนเยอรมันกำลังจะเลิกซื้อรถยนต์...?
พวกเราคงทราบกันดีใช่หรือไม่ ว่าประเทศเยอรมันนับได้ว่าเป็นศูนย์กลางแห่งเทคโนโลยีด้านยานยนต์ เบอร์ต้นๆของโลก
แบรนด์รถยนต์สัญชาติเยอรมันนั้น ถูกจัดอันดับว่าเป็นแบรนด์พรีเมียม ทั้งในเรื่องของสมรรถนะ การตกแต่งภายใน การออกแบบชั้นเลิศ และการใช้งานที่แสนจะทนทาน
และแน่นอน...มาพร้อมค่าตัวที่ “พรีเมียม”เช่นกัน
อย่างไรก็ดี พวกเจ้าจะเชื่อหรือไม่ ถ้าเรากำลังจะบอกว่า คนเยอรมันกำลังจะเลิกซื้อรถยนต์...?
ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะหันไปเดิน วิ่ง หรือขี่จักรยานแทนหรอกนะ แต่เรากำลังหมายถึง “เลิกซื้อแล้วกันไปเช่าระยะยาวแทน” ต่างหาก
ในปี 2019 ที่ผ่านมา มีสัญญาณบ่งบอกว่า ผู้บริโภคชาวเยอรมันเริ่มเปลี่ยนจากการซื้อรถยนต์มาเป็นเช่าระยะยาว หรือที่เรียกกันว่า Lease
ข้อมูลจากนักวิจัยของ Deutsche Automobil Treuhand (DAT) บ่งชี้ว่ามากกว่า 20% ของผู้บริโภคชาวเยอรมันเลือกการเช่าระยะยาวในปี 2019 โดยเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นใกล้เคียง 60% จากปี 2018
สาเหตุเนื่องมาจากผู้บริโภคขาวเยอรมันรอดูสถานการณ์ในโลกยานยนต์ ระหว่างรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน (พูดง่ายๆว่ารถใช้น้ำมัน) กับรถไฟฟ้า (Electric Vehicle - EV) ว่าในระยะ 4-5 ปีข้างหน้า “ใครจะมาวิน”
ส่วนหนึ่งมาจากว่า เยอรมันเองเป็นประเทศในสหภาพยุโรปซึ่งออกกฏเกณฑ์ควบคุมเรื่องการจำหน่ายรถยนต์ โดยมีการวัดค่าเฉลี่ยอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ของรถยนต์ใหม่ไม่เกิน 95 กรัมต่อกิโลเมตร (EU-fleet wide average emission target)
ประเทศใดทำไม่ได้ตามเป้า ก็จะโดนค่าปรับ 95 ยูโร (ประมาณ 3,200 บาท) ต่อกรัมที่เกินขึ้นมาคูณกับจำนวนรถยนต์ใหม่ที่ขายทั้งหมด
จริงจังดีเนอะ ไม่ใช่เอะอะก็ไล่ประชาชนไปปาดจมูก ใส่หน้ากาก...
ดังนั้นปี 2020 นี้แบรนด์รถยนต์สัญชาติเยอรมันและยุโรปจะต้องเข็นรถ EV ออกมาขายกันเต็มไปหมด โดยมีการคาดการณ์ว่าจะมีมากถึง 175 รุ่นให้เลือกซื้อในปี 2020 จากค่ายรถยนต์ต่างๆ
ปัญหาคือ ผู้บริโภคชาวเยอรมันเองก็ยังไม่มั่นใจในศักยภาพและการใช้งานจริงของรถ EV ทั้งในเรื่องสมรรถนะของแบตเตอรี่และจำนวนสถานีชาร์จไฟ
แต่ครั้นจะให้ซื้อรถใช้น้ำมันขับ ก็เกรงว่าราคาขายต่อจะตกฮวบหลังจากผ่านไป 4-5 ปีเพราะอนาคต ตลาดอาจจะเปลี่ยนเป็นรถ EV กันหมด
เลยเป็นที่มาของ option ใหม่ว่า “เช่าระยะยาว” ก่อนดีกว่า รอดูสถานการณ์ตลาดก่อน
และนั่นกลายเป็นโอกาสให้ Start-ups ใหม่ๆที่ให้บริการเช่ารถยนต์ระยะยาวถือกำเนิดขึ้นมาในยุโรป โดยให้ความ “ยืดหยุ่น” ในการเลือกรุ่นรถยนต์ได้ตามความต้องการของลูกค้า จะรถใช้น้ำมัน รถสปอร์ต รถไฮบริด รถ EV เลือกใช้ได้ตามใจชอบ
บริษัทอย่าง Cluno จากเมืองมิวนิค (Munich) เพิ่มทุนไปกว่า 5,700 ล้านบาทตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2017 เพื่อรองรับการขยายตัวของผู้บริโภคที่ต้องการใช้งาน
Cr. Cluno.com
ผู้ผลิตอย่าง Toyota ก็เพิ่งเปิดตัว Kinto ในประเทศไทยเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยให้บริการเช่ารถยนต์ระยะยาวในไทยเช่นกัน (ประเทศที่ 2 ที่เปิดตัวถัดจากญี่ปุ่น)
Cr. Kinto-TH.com
ใครสนใจไปอ่าน Post ของเราได้ เราเคยเขียนไว้
สำหรับเรา เรามองว่ายังไงซะโลกก็คงเหวี่ยงตัวออกจากรถยนต์ที่ใช้นำ้มันไปทางรถไฟฟ้า
Uber เพิ่งประกาศความร่วมมือกับ Nissan ในการใช้ Nissan Leaf 2,000 คันที่ผลิตใน UK เพื่อให้บริการใน UK
Cr: FT
อีกตัวอย่างคือ Tesla ล่าสุดมูลค่าตลาด (market capitalization) ของบริษัททะลุ 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐไปแล้ว แถมยังมากกว่าบริษัทรถยนต์อันดับ 2 ในสหรัฐอเมริกา นั้นคือ GM ประมาณ 2 เท่า !!! ($103.14 billion vs $49.84 billion ที่ราคาปิดวันที่ 23 มกราคม 2020)
Cr. FT
ส่วนราคาหุ้นนั้น ไม่ต้องพูดถึง ห่างกันดั่งฟ้ากับเหว ที่ราคาต่อหุ้น $572.20 vs $34.88 หรือต่างกันราว 16 เท่า !!! (ที่ราคาปิดวันที่ 23 มกราคม 2020)
เพราะราคาหุ้นนั้นแท้จริงแล้วสะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนมากกว่าผลกระกอบการที่แท้จริงของบริษัท โลกก็คงหวังไว้กับเทคโนโล่ EV ไว้มากมาย ซึ่งเราเองก็หวังว่าโลกกำลังจะไปถูกทางนะ
เพราะเหรียญมีสองด้าน เรามาดูกันต่อไปว่าโลกที่ขับเคลื่อนด้วยรถ EV นั้นจะเป็นอย่างไร
ติดตามได้ที่ #สุลต่านตกอับ
Source:
Financial Times: German start-ups boosted by record number of drivers leasing cars
Financial Times: Uber strikes deal with Nissan in electric vehicle push
- 16
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
