21 ธ.ค. 2019 เวลา 17:49 • ไลฟ์สไตล์
ทำทานน้อยได้บุญมาก ทำทานมากได้บุญมากยิ่งขึ้น
เย็นของวันเสาร์ที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ในที่พัก ผู้เขียน นั่งรวบขาขัดสมาธิ ตัวตั้งหลังพิงอากาศ กำหนดเวลาว่า จะนั่งสมาธิ 2 ชั่วโมง เพื่อให้ กาย วาจา ใจ บริสุทธิ์ที่สุด
ก่อนปิดเปลือกตา ก็นึกถึงภาพเมื่อตอนเช้าของวันนี้ ....
“แม่ จัดเตรียมอาหารอยู่ตั้ง ๓ วันครับ” คุณโจ้ เจ้าของบ้าน บอกกับคณะสงฆ์ทั้งหมด ๙ รูปที่มาฉันภัตตาหารเช้าที่บ้านวันนี้
“เป็นอาหารเจ...” คุณแม่ของคุณโจ้บอก แล้วบอกต่ออีกว่า
“แม่ทานเจมา ๒๐ กว่าปีแล้ว”
ก็คงเพราะเหตุนี้ จึงถวายอาหารเจให้พระ แต่เรื่องนี้ไม่มีปัญหาสำหรับผู้เขียน เพราะปกติก็ชอบอาหารเจอยู่แล้ว แต่สังเกตุอาหารที่หลากหลายเมนูบนโต๊ะ ดูผิวเผินไม่เหมือนอาหารเจเลย
มีอยู่เมนูหนึ่ง ที่คุณแม่อยากให้พระฉัน คือขนมจีนน้ำยา เพราะตั้งใจทำมาเป็นพิเศษ
เรื่องนี้ไม่มีปัญหา ฉันได้อยู่แล้ว เมื่อลงมือฉันขนมจีนฝึมือคุณแม่ ก็รู้ว่า คุณแม่ตั้งใจทำจริงๆ
หลังจากฉันกันเสร็จ คณะสงฆ์ก็สวดบทถวายพรพระ (อิติปิโส ... พาหุง...) จากนั้นก็ถวายไทยธรรม เตรียมกรวดน้ำให้พร ผู้เขียนก็บอกว่า
“เดี๋ยวก่อน ... ก่อนรับพร.. ฟังธรรมสัก ๕ นาที นะ”
“นั่นสิ แม่ก็คิดอยู่ๆ ว่าทำไมพระไม่เทศน์อะไรเลย” คุณแม่บอก
ผู้เขียนก็เลยบอกอานิสงส์ของการทำทานว่า
“ให้ของที่ชอบใจ ก็ย่อมได้ของที่ชอบใจ คุณแม่ชอบอาหารเจ และถวายอาหารเจให้กับพระ บุญนี้ก็จะทำให้ได้อาหารเจอย่างที่ชอบอีกหลายชาติเลยนะ เหมือนสามเณรรูปหนึ่งในสมัยพุทธกาล ชาติในอดีตท่านถวายข้าวคลุกปลาตะเพียนให้กับพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในอดีต และท่านก็ชอบข้าวคลุกปลาตะเพียนด้วย พอมาชาตินี้เมื่อท่านเข้าท้องแม่ แม่ของท่านก็เกิดอาการแพ้ทองคืออยากกินข้าวคลุกปลาตะเพียน เมื่อออกจากท้องแม่..ถ้าอยากกินข้าวคลุกปลาตะเพียนเมื่อไหร่ ก็จะได้กินเมื่อนั้น ด้วยอำนาจแห่งบุญที่เคยทำมาในอดีต และชาติต่อไปคุณแม่ก็คงเป็นแบบนี้แหละจ้ะ อยากกินอาหารเจเมื่อไหร่ก็จะได้กินโดยไม่ขาดแคลนเลย”
ผู้เขียนก็พูดต่อไปว่า
“ต่อไปคณะสงฆ์จะให้พร ถ้าท่านขึ้น “ยถา.. “ ก็ให้กรวดน้ำอุทิศบุญนี้ให้หมู่ญาติที่ล่วงลับไปแล้วนะ .. ถ้าท่านขึ้นสัพพี... ก็ให้อธิษฐาน ให้อธิษฐานเรื่องๆ ดีๆ แล้วจบลงด้วยขอให้บุญนี้ ทำให้เรา ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน นะจ๊ะ”
“ท่านให้พรช้าๆ หน่อยนะ เดี๋ยวแม่จะอธิษฐานไม่ทัน” .. คุณแม่บอก
แล้วคณะสงฆ์ก็ให้พรไป พอจบ ผู้เขียนก็ถาม
“แม่อธิษฐานทันไหม”
“น่าจะทันนะ” แม่บอก
จากนั้น คุณโจ้กับคุณแม่ ก็ร่วมกันถวายข้าวสาร ,ไข่ไก่ และอื่นๆ อีกหลายอย่าง แล้วต่อด้วยถ่ายรูป เพื่อเป็นที่ระลึกของการทำบุญส่งท้ายปี พ.ศ. ๒๕๖๒ จากนั้นคณะสงฆ์ก็เดินทางกลับ
ก่อนขึ้นรถ คุณโจ้ ขอเซลฟี่ ... OK ไม่มีปัญหา
ภาพที่ ญาติโยมตั้งใจถวายทานที่ประณีตในตอนเช้านั้น ยังติดตาติดใจอยู่ ก็เลยตั้งใจว่า อยากจะให้ญาติโยมทั้งหลายเหล่านั้นได้บุญเยอะๆ หน่อย ... แล้วจะทำอย่างไร ก็ทำตามหลักวิชาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าน่ะสิ
หลักวิชาของพระพุทธองค์คือ ทำทานน้อยได้บุญมาก ทำทานมากได้บุญมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีองค์ประกอบอยู่ ๓ ข้อคือ
๑ วัตถุบริสุทธิ์ คือ ทรัพย์หรืออาหารที่ถวายพระ มีสิ่งที่ได้มาด้วยความสุจริตชอบธรรม และเป็นของใหม่ ของดี ของประณีต
๒ เจตนาบริสุทธิ์ คือ มีเจตนาที่จะกำจัดความตระหนี่ กำจัดความโลภ และหวังบุญเป็นที่ตั้ง และปลื้ม ทั้งก่อนทำ ขณะทำ และ หลังจากทำไปแล้ว
๓ บุคคลบริสุทธิ์ ซึ่งแบ่งเป็นผู้ให้ กับ ผู้รับ ซึ่งผู้ให้ ก็บริสุทธิ์ตามกำลังของผู้ครองเรือน ส่วนผู้รับก็คือผู้เขียนที่สามารถเพิ่มความบริสุทธิ์ให้กับตัวเองได้ ด้วยการทำสมาธิภาวนา
ช่วงบ่าย มีธุระต้องเข้ากรุงเทพฯ ก็เลยตั้งใจไว้ว่า เมื่อกลับถึงวัดในตอนเย็นแล้ว ผู้เขียนจะนั่งสมาธิสัก 2 ชั่วโมง เพื่อให้ กาย วาจา ใจ บริสุทธิ์ที่สุด เพื่อให้ญาติโยมที่ได้ถวายภัตตาหารเช้านี้ ได้บุญมากที่สุด
เมื่อเวลานั้นมาถึง ก็นั่งรวบขาขัดสมาธิ อย่างที่กล่าวมาในตอนต้น นึกถึงภาพของเช้าวันนี้ แล้วก็หลับตาเบาๆ ทำสมาธิภาวนาไปจนครบ ๒ ชั่วโมง ตามที่ได้ตั้งใจไว้ เมื่อครบแล้ว ก็มาเขียนบันทึกฉบับนี้ ....​

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา