26 ธ.ค. 2019 เวลา 16:46 • บันเทิง
MovieTalk มูฟวี่ชวนคุย
ภูมิใจเสนอ นิยายกำลังภายในเรื่องแรกของเพจ MovieTalk
“เงาวายุ” บทที่ 7
ความเดิม อี่ทงฮวงที่บาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้ ขณะเดียวกับที่ไช้ตื้อเซ้งมุ่งหน้ามาหาอี่ทงฮวง แต่ยังคลาดกันหนึ่งก้าว อี่ทงฮวงหลบเข้าไปในอุโมงค์ลับหลังป่าไผ่ พร้อมทั้งกลืนพหูโอสถที่ฮ่องเต้พระราชทาน จนอยู่ในภาวะแช่แข็งไม่รู้สึกตัว
ไช้ตื้อเซ้งพบว่าอี่ทงฮวงน่าจะใช้เส้นทางเรือในการหลบหนีไปขอความช่วยเหลือจากป้อมพิทักษ์แดนใต้ จึงใช้เสียงพันลี้สั่งการให้จ๋อคาทำลายเรือทุกลำให้หมดสิ้นป้องกันการหลบหนีของอี่ทงฮวง ส่วนตนเองกลับเข้าหอเจดีย์แปดชั้น พาอ๋องเอี๊ยะขึ้นไปที่ชั้นแปดของหอเจดีย์ และสั่งให้งั่งเจงใช้เนตรมนตราบังคับให้อ๋องเอี๊ยะบอกวิธีเปิดประตูคลังมังกร แต่ยังไม่เป็นผลสำเร็จ และยังสั่งการให้ฉุ่ยยี้ และซิงโท่ยไปเสาะหาอี่ทงฮวงเพื่อกำจัดทิ้ง
“เงาวายุ” บทที่ 7 พันธมิตร ไม่ได้ให้เสียงภาษาไทย
ภายในอุโมงค์หลังป่าไผ่
ร่างกายของอี่ทงฮวงยังนอนสงบนิ่งที่ตรงนั้น
ทั่วร่างมีมวลไอเย็นห่อหุ้มปกคลุมร่างของอี่ทงฮวงไว้
แต่ฉับพลัน มวลไอเย็นกลุ่มนั้นมีการเคลื่อนไหวแล้ว!
มวลไอเย็นคล้ายถูกดูดซึมเข้าไปในร่างอี่ทงฮวงจนหมดสิ้น
อี่ทงฮวงลืมตาแล้ว
และอี่ทงฮวงลุกขึ้นยืนหยัดอีกครั้ง
พหูโอสถสมานอาการบอบช้ำภายในอย่างเร่งด่วนให้แก่อี่ทงฮวงจนหายเป็นปกติ พร้อมทั้งฟื้นฟูกำลังภายในที่สูญเสียไปจากการต่อสู้กลับมาดังเดิม
เวลานี้อี่ทงฮวงพร้อมแล้ว...เป็นความพร้อมเผชิญความตายอีกครั้ง
อี่ทงฮวง
อี่ทงฮวงครุ่นคิด
“ในเวลานี้หากต้องการความช่วยเหลือ โอกาสเป็นไปได้คือตำหนักทักษิณ ใช้เรือล่องไปยังป้อมพิทักษ์แดนใต้ ขอกำลังทหารมาช่วยเหลือย่อมเป็นหนทางที่ใช้เวลาน้อยที่สุด”
คิดได้เช่นนั้นดีดทะยานร่าง จำแนกทิศทางในอุโมงค์ลับมุ่งไปยังตำหนักทักษิณ
ร่างอี่ทงฮวงปราดเปรียว โลดแล่นภายในอุโมงค์ด้วยความเร็วมิได้ด้อยไปกว่าไช้ตื้อเซ้ง สมกับฉายาเงาวายุอย่างแท้จริง
ชั่วอึดใจ อี่ทงฮวงมาหยุดยืนหน้าประตูกลทางเข้าตำหนักทักษิณแล้ว
อี่ทงฮวงไม่รู้สึกถึงพลังกดดัน ดังนั้นสูดลมหายใจหนึ่งครั้ง เปิดสลักกลไก ประตูกลถูกเปิดออก ที่แท้ประตูกลซ่อนอยู่หลังตู้หนังสือภายในห้องสมุดของตำหนักทักษิณ
ทันทีที่ก้าวพ้นออกมา กลิ่นไหม้ฉุนเจือกลิ่นดินประสิวและไอความร้อนก็สัมผัสได้ เมื่อมองออกไปเห็นแสงไฟลุกโชนมาจากโรงเก็บเรือ อี่ทงฮวงลอบอุทานผิดท่าในใจ
“หรือว่าไช้ตื้อเซ้งอ่านแผนการเราทะลุปรุโปร่ง สั่งทำลายเรือทั้งหมดแล้ว?”
แม้สมองครุ่นคิด แต่อี่ทงฮวงยังสาวเท้าออกมาด้วยระแวดระวัง ยังมิทันคิดอันใดต่อ ฉับพลันด้านหลังอี่ทงฮวงกลับมาพลังกดดันคุกคามอย่างรุนแรง
“อาคันตุกะเมื่อเดินทางมาถึงแล้ว สมควรให้การต้อนรับอย่างดีที่สุด”
เสียงนั้นจบลง เงาดำห้าสายพุ่งออกมาจากหลายแหล่งทิศทาง เงาดาบ เงากระบี่วาบวับสะท้อนกับแสงจากเปลวเพลิง พุ่งฉวัดเฉวียนเข้าใส่อี่ทงฮวงอย่างเร่งร้อน
อี่ทงฮวงกวาดตาแว่บหนึ่งหานำพาไม่ สะบัดมือออกหนึ่งครั้ง เข็มบินห้าเล่มพุ่งทะยานออกจากฝ่ามือเป็นประกายแปลปลาบชั่วแว่บหนึ่งแล้วสลายไป พร้อมกับเสียงร้องอุทาน เงาดำทั้งห้าสายร่วงหล่นพื้นดุจใบไม้ ที่แท้ถูกเข็มบินทะลวงจุดตายทั้งหมด
ตำแหน่งของเข็มบินทั้งห้าเล่มจมหายเข้าไปในอกของร่างทั้งห้า แท้จริงเข็มบินทะลวงเข้าไปฝังลึกในหัวใจของคนทั้งห้านั่นเอง
เบื้องหน้าอี่ทงฮวงเป็นบุรุษศรีษะโล้น ใบหน้าเหี้ยมเกรียม มีเค้าหน้าละม้ายคล้ายจ๋อชิ่วอยู่บางประการ
ระหว่างอี่ทงฮวงกับชายผู้นั้น กั้นกลางไว้ด้วยศพทั้งห้า
สายตาของชายผู้นั้นจับจ้องมองอี่ทงฮวงไม่วางตา และเป็นอี่ทงฮวงก็จับจ้องมองมันไม่วางตาเช่นกัน
ท่านมองเรา...เรามองดูท่าน
เป็นชายศรีษะโล้นเอ่ยปากถามทำลายความเงียบ
“เจ้าคงเป็นศัตรูที่ไช้เจี้ยงระบุเตือนไว้ เป้าหมายเจ้าคือคิดใช้เรือหลบหนีไปขอความช่วยเหลือที่ป้อมพิทักษ์แดนใต้กระมัง?”
อี่ทงฮวงไม่ตอบ บางครั้งไม่ตอบก็คือการตอบ อี่ทงฮวงมีนิสัยไม่ชมชอบตอบคำถามที่ผู้ถามล่วงรู้คำตอบอยู่แล้ว เป็นเช่นนี้เสมอมาและตลอดไปไม่เปลี่ยนแปลง
ชายศรีษะโล้นเห็นอี่ทงฮวงไม่ตอบ ก็เอ่ยต่อ
“น่าเสียดาย...เรือทุกลำที่โรงเก็บถูกเราทำลายจนหมดสิ้นแล้ว”
อี่ทงฮวงไม่ตื่นตระหนก เพราะเมื่อพบเห็นก็ล่วงรู้สภาพการณ์แล้ว จึงเป็นฝ่ายเอ่ยถามกลับ
“หากเดาไม่ผิด ท่านคงเป็นจ๋อคา (ขาซ้าย) กระมัง?”
“มิผิด เจ้าเมื่อทราบ เราเป็นจ๋อคา ย่อมสมควรทราบว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสังหารเกียอุ้ยนึ้ง เมื่อเจ้ารุดมาที่นี่ ย่อมแสดงว่าจ๋อชิ่วที่ส่งสัญญาณพลุถูกเจ้าสังหารไปแล้ว!”
จ๋อคา
จ๋อคาสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ กำมือแน่นด้วยความแค้นจนเส้นเลือดบนหลังมือปูดโปน
“เราเป็นตีตี๋ของจ๋อคา”
อี่ทงฮวงก็คาดเดาไม่ผิด เมื่อทราบเช่นนี้ย่อมคาดเดาจิตเจตนาฝ่ายตรงข้ามออกแล้ว หนี้มีเป้า แค้นมีชำระ จ๋อคาเวลานี้คงไม่นำพาความตาย ที่มันต้องทำคือ ชำระแค้นกับอี่ทงฮวง
“เราจะให้เจ้าตกตายไปตามกัน”
จบคำ เสียงกระดูกทั่วร่างจ๋อคาลั่นเปรี๊ยะ สิ้นเสียงจ๋อคาสะบัดฝ่ามือใส่อี่ทงฮวง กระแสลมปราณทะลักทะลายใส่
อี่ทงฮวงคาดเดากระบวนท่าแรกของจ๋อคาไว้แล้ว เมื่อเห็นมันใช้ออก ตนเองก็สะบัดฝ่ามือออกผลักต้านไว้
เสียงระเบิดดังครืนครั่น รอบบริเวณปรากฏลมปราณกระจายออก ศพทั้งห้าปลิวกระเด็นออกไปไร้ทิศทาง ควันฝุ่นคลุ้งกระจาย
อี่ทงฮวงอาศัยม่านฝุ่นทะยานร่างสู่หลังคาของตำหนัก มิคาดจ๋อคาทะยานร่างติดตามขึ้นมา พร้อมสะบัดฝ่ามือขวาออกอีกครั้ง ลมปราณอีกระลอกทะลายใส่
อี่ทงฮวงรีบสะบัดฝ่ามือขวาออกต้านประกบ
จ๋อคา
เสียงเปรี้ยงดังลั่น ฝ่ามือทั้งสองปะทะกันจนบังเกิดกระแสพลังหมุนวนรอบ ๆ ร่างทั้งสอง พริบตาเดียวอี่ทงฮวงกับจ๋อคาลอยละลิ่วแยกย้ายกันยืนหยัดอยู่บนหลังคาตำหนักคนละฝั่ง
อี่ทงฮวงครุ่นคิด
“พลังฝีมือของจ๋อคาถึงกับสูงส่งกว่าจ๋อชิ่วมากนัก จนเรียกว่าห่างชั้นกันจริง ๆ”
จ๋อชิ่วไม่รีรอ สะบัดฝ่ามือออกติดต่อกันแปดครั้งซ้อน ๆ กระแสพลังลมปราณแผ่กระจายดุจตะข่ายฟ้าครอบคลุมทั่วเบื้องหน้าของอี่ทงฮวง
เสียงระเบิดดังกึกก้องอีกครั้ง กระเบื้องมุงหลังคาตำหนักปลิวกระจัดกระจาย พื้นที่บริเวณที่อี่ทงฮวงยืนหยุดกลายเป็นหลุมใหญ่ แต่ร่างของอี่ทงฮวงเวลานี้ลอยหายขึ้นไปบนท้องฟ้าอันมืดมิด
อี่ทงฮวงในชุดดำรัดกุมร่างกลืนหายไปกับความมืด
อาศัยช่วงเวลานี้ อี่ทงฮวงโต้กลับ ซัดเข็มบินสิบสองนิ้วห้าเล่มติดต่อกัน ประกายเงินแปลปลาบขึ้นแว่บหนึ่ง
จ๋อคาเงยหน้าขึ้น พอดีเห็นเข็มบินห้าเล่มพุ่งใส่ตน ดังนั้นเกร็งฝ่ามือขึ้นยกปิดป้องใบหน้า ไว้ทันท่วงที
แต่มิคาดก่อนเข็มบินจะถึงฝ่ามือจ๋อคาที่ยกปิดบังหน้าไว้ เข็มบินคล้ายมีตาหักเหพุ่งลง เปลี่ยนตำแหน่งเป็นทะลวงใส่อกของจ๋อคาทันที ตำแหน่งเข็มบินพอเหมาะพอเจาะเข้าที่หัวใจของฝ่ายตรงข้าม
อี่ทงฮวงอดอุทานไม่ได้ เข็มบินของตนกระทบถูกร่างของจ๋อคา แต่เข็มบินห้าเล่มนั้นกระทบถูกบริเวณหน้าอกจ๋อคาชัด ๆ แต่กลับกระเด็นออกมาจนหมดสิ้น ไม่มีแม้กระทั่งร่องรอยบนผิวของจ๋อคา
จ๋อคาหัวร่อเสียงดังสนั่น
“เราขอบอกต่อเจ้า ร่างกายเราฝึกวิชาระฆังทองคุ้มครองกายสำเร็จ ไม่มีศาสตราวุธใดระคายผิวหนังของเรา!”
วิชาระฆังทองคุ้มครองกาย
ทั่วยุทธจักรทราบดีว่า ผู้ฝึกวิชาระฆังทองคุ้มครองกายต้องแลกสิ่งสำคัญที่สุด โดยเฉพาะสำหรับบุรุษ ราคาที่มันต้องแลกมาเพื่อสำเร็จวิชานี้คือการถือเพศพรมจรรย์ ไม่ข้องแวะอิสตรีตลอดชีวิต เมื่อฝึกฝนสำเร็จผิวหนังบนร่างกายคล้ายทองแดงเหล็กกล้า สามารถทนทานต่ออาวุธทุกชนิด
อี่ทงฮวงรู้สึกยกย่องความมานะเพียรพยายามในเส้นทางสายนี้ขอจ๋อคา สำหรับตนเอง รับประกันไม่มีความเพียรพยายามปานนั้น ร่างกายคงกระพันแล้วเป็นไร คนเมื่ออยู่ในยุทธจักรสุดท้ายซากสังขารยังต้องสูญสลาย ไม่ด้วยการต่อสู้ โรคภัย ก็ความแก่ชราเฉกเช่นเดียวกันทุกคน
จ๋อคาทะยานร่างออกกระแทกฝ่ามือใช้ออกด้วยไม้ตายของตน “ฝ่ามือทลายบรรพต” กระแสพลังสิบส่วนเต็มแผ่พุ่งออกมา
สำหรับจ๋อคาไม่มีความจำเป็นสำหรับการใช้อาวุธคู่กาย เพียงอาศัยกำลังภายในอันสูงส่ง บวกกับวิชาระฆังทองคุ้มครองกายเท่านี้นับว่ามากเกิน ในกลุ่มสังหารเกียอุ้ยนึ้งต่างรู้ดี หากจัดอันดับด้านกำลังภายในแล้ว จ๋อคาเป็นรองเพียงแค่ไช้ตื้อเซ้งเท่านั้น
อี่ทงฮวงสะบัดฝ่ามือออกต้านรับ กระแทกลมปราณทัดทานไว้เต็มกำลัง
แต่ลมปราณของอี่ทงฮวงไม่สามารถต้านทานลมปราณอันกล้าแข็งของจ๋อคาได้ ยามนี้ลมปราณของอี่ทงฮวงที่ต้านทานถูกผลักกลับ อี่ทงฮวงรีบพุ่งปราบหลบได้ทันท่วงที
เสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง
หลังคาตำหนักถูกกำลังภายในของจ๋อคาทำลายหายไปครึ่งแถบ
ระหว่างดีดกายหลบอี่ทงฮวงครุ่นคิด
“เมื่อมีวิชาระฆังทองคุ้มครองกาย เหตุไฉนเมื่อครู่มันยังยกฝ่ามือขึ้นปิดบังใบหน้า หรือว่า...”
ดังนั้นตัดสินใจเสี่ยงดูสักครา ซัดเข็มบินขนาดเล็กออกสิบเล่ม ตามติดด้วยเข็มบินแปดนิ้วอีกสี่เล่ม และเข็มบินสิบสองนิ้วอีกสองเล่ม
สภาวะเข็มบินดุจสายฝนพรั่งพรู จู่โจมใส่จ๋อคาดุจแหตะข่ายฟ้า
จ๋อคา
จ๋อคาตวัดมือทั้งสองขึ้น เกร็งลมปราณปกป้องใบหน้าของตนเอง เปิดช่องว่างร่างกายส่วนที่เหลือไว้ทั้งหมด
อี่ทงฮวงที่ซัดเข็มบินออกไป ก็พุ่งปราดตามติดเข็มบินทั้งหมด สะบัดฝ่ามือซ้ายขวาออกด้านข้าง ซัดเข็มลินเข้าใส่พื้นหลังคาสองด้านของตนเอง เช็มบินครานี้มีลักษณะบิดเบี้ยวโค้งงอ
จ๋อคาปัดป่ายพายุเข็มบินจดหมดสิ้น ก็เห็นเงาฝ่ามืออี่ทงฮวงกล้ำกรายถึงเบื้องหน้า ต้องรีบตวัดมือขึ้นต้านรับฝ่ามือของอี่ทงฮวงไว้ทันที
เสียงทึบฝ่ามือทั้งสองปะทะกัน
ร่างอีทงฮวงปลิวละลิ่วกลับที่เดิม ขณะเดียวกับที่เข็มบินโค้งงอพุ่งฉวัดเฉวียนเข้าโจมตีใส่ใบหน้าของจ๋อคา
จ๋อคาไม่ทันพบเห็น เข็มบินนี้พุ่งมาจากทิศทางใด ก็พอดีเข็มบินโค้งงอปักใส่ดวงตาทั้งสองข้างของมันแล้ว
โลหิตไหลรินออกมาจากดวงตาของจ๋อคา ย้อมหน้าจนแดงฉาน แม้บาดเจ็บถึงปานนี้ ก็ยังไม่มีเสียงโอดโอยดังจากปากของจ๋อคา แต่ปากกลับแผดด่าอี่ทงฮวง
“บัดซบ เราไม่คาดคิดเจ้าจะใช้อุบายเลวทรามเช่นนี้ทำร้ายเรา เจ้าไม่ละอายใจหรือไร?”
“ข้าพเจ้ายอมรับว่าเป็นกลอุบาลอันต่ำช้า” อี่ทงฮวงกล่าว “แต่เมื่อชั่งน้ำหนักสถานการณ์แล้ว ในการต่อสู้ไม่เราตาย ก็ท่านตาย ยังมีระหว่างความถูกต้องกับความปลอดภัยของส่วนรวม ข้าพเจ้ายังคงต้องกระทำเช่นนี้...”
ในน้ำเสียงของอี่ทงฮวงแฝงความลำบากใจห้าส่วน ละอายใจอีกห้าส่วน
“เจ้าพูดอันใดของเจ้า?” จ๋อคาข่มความเจ็บย้อนถาม
“หากข้าพเจ้าคำนวณไม่ผิด พวกท่านเกียอุ้ยนึ้งนำกำลังบุกยึดตำหนัก คร่ากุมตัวท่านอ๋อง มีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว...”
“ผลึกตะวัน!” เพียงคำนี้ที่อี่ทงฮวงเน้นคำ
“เจ้าทราบ?” จ๋อคารู้สึกเหนือความคาดหมาย
อี่ทงฮวง
“หากพวกท่านได้ผลึกตะวันไว้ในครอบครอง ไม่ทราบว่าแผ่นดินจะเกิดกลียุคเพียงใด จะมีผู้บริสุทธิ์อีกเท่าไรที่ต้องล้มตายเพราะพวกท่าน เมื่อผลึกตะวันบวกกับขุมกำลังเกียอุ้ยนึ้ง นับว่ามีอำนาจสะเทือนฟ้าสะท้านดินจริง ๆ แม้กองทัพฮ่องเต้ก็ไม่อาจต้านทานท่านได้” อี่ทงฮวงอธิบาย
“ชาญฉลาดนัก เจ้าอ่านแผนการเราทะลุปรุโปร่ง สมแล้วที่ไช้เจี้ยงให้ระแวดระวังเจ้า” จ๋อคาหยุดชั่วครู่จึงกล่าวต่อ
“นับว่าเจ้ายังมีคุณธรรมอยู่บ้าง ไม่ลงมือกับเราทันทีในช่วงเวลาที่เข็มบินแทงดวงตาเรา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เราเจ็บปวดที่สุด”
“ข้าพเจ้ายอมรับนับถือท่านในฐานะนักสู้เยี่ยมยุทธผู้หนึ่ง ถึงกับรู้สึกว่าท่านแตกต่างจากสมาชิกคนอื่น ๆ ของเกียอุ้ยนึ้ง ดังนั้นจะมากจะน้อยข้าพเจ้าย่อมต้องให้เกียรติท่าน”
“ประเสริฐ...เมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้ายินดีตัดสินความเป็นตายกับเราภายในฝ่ามือเดียวหรือไม?”
“ท่านคิดใช้ไม้ตายสุดยอดประจำตัวของท่านตัดสินผลระหว่างเรา?”
“มิผิด!” จ๋อคาตอบสั้น ๆ น้ำเสียงเด็ดเดี่ยว
อี่ทงฮวงถอนหายใจ “ท่านคิดต่อสู้ให้เราสองตายตกตามกัน ข้าพเจ้าไม่ยินยอมพร้อมใจ แต่ด้วยเห็นแก่น้ำใจนักสู้ของท่าน ข้าพเจ้ายินดีตอบสนอง เชิญ!”
สิ้นคำของอี่ทงฮวง จ๋อคาตวัดฝ่ามือผนึกลมปราณทั่วร่างโคจรมารวบรวมไว้ที่ฝ่ามือทั้งสองของมัน ถึงกับใช้กำลังภายในทั้งหมดที่ตนมีอยู่ตระเตรียมฟาดฝ่ามือออกในครั้งนี้
อี่ทงฮวง
อี่ทงฮวงตระหนักดี ค่ำคืนนี้ตนผ่านการต่อสู้สาหัสมาหลายครั้ง สูญเสียลมปราณไปมิใช่น้อย ยามนี้เผชิญหน้าสุดยอดฝีมือระดับสองของเกียอุ้ยนึ้ง ด้วยความนับถือในความเป็นนักสู้ของจ๋อคา อี่ทงฮวงจะอย่างไรต้องปะทะฝ่ามือนี้ จึงผนึกลมปราณโคจรมารวมไว้ที่ฝ่ามือทั้งสอง
การต่อสู้เพื่อตัดสินแพ้ชนะ ผลเป็นตายในฝ่ามือเดียว กระบวนท่าเดียวของสองยอดฝีมือ นับว่าน่าตื่นตาตื่นใจสะเทือนฟ้าสะท้านดินจริง ๆ
ยามนี้ทั้งสองล้วนทุ่มเทสมาธิในฝ่ามือสุดท้ายนี้ ร่างกายหยุดนิ่งลง รอคอยเวลาที่จะปลดปล่อยพลังทั้งมวลออกมาในครั้งเดียว
เป็นท่านสงบ เป็นเรานิ่ง ต่างฝ่ายต่างทุ่มเทสมาธิและลมปราณไว้ที่ฝ่ามือ
ร่างของทั้งสองนิ่งงันคล้ายรูปปั้น สภาวะแวดล้อมใด ๆ ล้วนไม่ใส่ใจอีกต่อไป
เมื่อถึงที่สุด เมื่อถึงเวลา ทุกอย่างจะยุติลง
และในที่สุดเวลานั้นก็มาถึง
จ๋อคาสะบัดฝ่ามือออก แผ่พุ่งกำลังภายในทั้งหมดออกไป!
อี่ทงฮวงสะบัดฝ่ามือออก แผ่พุ่งกำลังภายในทั้งหมดออกไป!
โปรดติดตามตอนต่อไป
ขอบคุณที่มาภาพประกอบ: IMDb, The Arbuturian, theiapolis.com, tumblr.com, alamy.com, nytimes.com, variety.com, thecoast.ca, chinesedrama.info

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา