ดังนั้นแล้วการปฏิวัติรัสเซียไม่ได้เกิดจากที่อยู่ดีๆ มีคน 180 ล้านลุกฮือขึ้นมาได้ แต่เป็นเพราะมีกลุ่ม คนที่เชื่อในลัทธิ communist จำนวนหนึ่ง ที่มาอยู่ถูกที่ถูกเวลา [place themselves at the right place and the right time (เพียงแค่ 23,000 คน)] พวกเขาทำให้เหล่า 180 ล้านคนลุกฮือ จนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้
อีกตัวอย่างที่ Harrari เสนอ คือกรณีของผู้นำเผด็จการชาวโรมาเนีย ชื่อ Nicolae Ceaușescu (นิโคไล เชาเชสกู)
Harari อธิบายว่า Nicolae Ceaușescu และลูกน้องของเขา ปกครองโรมาเนีย ได้ถึงสี่สิบปี ด้วยองค์ประกอบสำคัญสามอย่าง
1. เขาใส่คนที่ศรัทธาและจงรักภักดีในระบบคอมมิวนิส อยู่ในทุกเครือข่ายที่สำคัญต่อการร่วมมือกัน( in control of all networks of cooperation) เช่น กองทัพ สหภาพ หรือแม้แต่สโมสรกีฬา
มันแค่ผ่านไปสู่เผด็จการคนอื่นต่อไป เพราะคนนั้นแม้จะมีมาก แต่ไม่รู้วิธีทีจะดูแลอำนาจที่เขาได้มาต่อยังไง (Effective Organization to look after their own interest)
แน่นอน คำว่า Intersubjective reality นี้ดู make sense ดีเมื่อใช้กับเงิน กฏหมาย เทพเจ้าโบราณ
แต่ดราม่าจะบังเกิด หากเราบอกว่า พระเจ้า ประเทศ และขนบธรรมเนียมของเรา ก็อยู่ในหมวดหมู่นี้เช่นกัน คือเป็นแค่ Fiction ทีให้ความหมายกับชีวิตเรา เราอยากเชื่อว่าชีวิตเรามีความหมายเพื่ออะไรบางอย่าง แต่แท้จริงแล้ว'ความจริง' ที่ว่านั้นก็มีนิยามอย่างจำกัด มันมีความหมาย (Meaning) อยู่แค่ในหมู่คนที่เชื่อในเรื่องเดียวกันกับเราเท่านั้น (Have meaning only within the network of stories, we tell one another)
Meaning สร้างขึ้นมาเมื่อทุกๆคนร่วมกัน ถักทอ เรื่องราวต่างๆให้เป็นnetwork ซับซ้อน
อย่างไรก็ตามประวัติศาสตร์ก็ได้บอกเราว่า ในช่วงเวลาหลายสิบหลายร้อยปีที่ผ่านมากนี้ Web of meaning ไม่ได้หยุดนิ่งตายตัว มันมีการคลายออก ขมวดปมใหม่ ทำให้เกิดเป็น new meaning มาแทนที่ เป็นระยะๆ
พอเรื่องราวยุคกลาง (Medieval) นี้ก็ผ่านพ้นไป Web of meaning เดิมนี้ก็คลายออกมา
จากยุคที่ Pope มีอำนาจล้นฟ้า ไปสู่ยุค Renaisance ที่ Pope กลายเป็น Devil In the rome .... จากยุคที่นักรบเพื่อพระเจ้า ก็กลายเป็น นักรบพลีชีพเพื่อกษัตริย์
จากสมัยก่อนที่ชีวิตคนไม่เท่ากัน แบ่งชนชั้นวรรณะกันโจ่งแจ้ง ตอนนี้ก็ทุกคนก็ต้องเชื่อใน Human right เชื่อว่าคนมีสิทธิ์พื้นฐานเท่าเทียมกัน
Dreamtime
Sapiens ปกครองโลกนี้ได้ ก็เพราะมันสามารถถักทอโครงข่ายของ Intersubjective reality นี้ให้ซับซ้อนและขยายมากขึ้นเรื่อยๆ กลายมาเป็น Web of Meaning อันมหาศาล