ทีแรกคนขับและไกด์ A ไม่ยอมบอกว่าเกิดอะไรขึ้นและปล่อยให้พวกเรานั่งงงกันอยู่ซักพักจึงได้เฉลยว่าเครื่องยนต์ขัดข้อง ทุกคนจึงออกมารอนอกรถ ระหว่างรอก็เริ่มใจคอไม่ค่อยดีเพราะไม่รู้ว่ารถจะซ่อมเสร็จเมื่อไหร่ และไม่รู้ว่าไกด์ A จะแก้ไขสถานการณ์นี้อย่างไร
นักท่องเที่ยวชาวยุโรปเริ่มอารมณ์เสียและโวยวายให้ไกด์ A หาทางแก้ไข แต่อยู่ ๆ ไกด์ A ก็หายไปจากกลุ่ม และไม่มีใครรู้ว่าหายไปไหน 😂
เมื่อไกด์ A หายไปและคนขับก็พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ พวกเราจึงเริ่มคิดจะหาทางกลับฮานอยกันเอง แต่ไม่รู้ว่าดังนรกชังหรือสวรรค์แกล้ง อยู่ดี ๆ ก็มีรถบัสอีกคันซึ่งมาจากไหนก็ไม่รู้มาจอดเทียบข้างทาง และทันใดนั้นคู่ชาวจีนได้ตะโกนขึ้นมาว่ามีรถมารับพวกเราแล้วให้ทุกคนเก็บข้าวของเพื่อไปขึ้นรถคันใหม่ได้เลย (เอ้า...เฮ)
พวกเราจึงรีบขึ้นรถคันนั้นทันที เมื่อรถออกไปสักพักผมจึงเริ่มสังเกตว่าผู้โดยสารที่มากับรถรวมถึงคนขับน่าจะเป็นชาวเวียดนามทั้งหมด (คิดว่าเป็น local bus)
ป.ล.2 ผมลองมโนเล่น ๆ ว่าการที่รถคันนั้นทิ้งพวกเราไว้ข้างทาง อาจเป็นการให้ความช่วยเหลือกันระหว่างไกด์ A กับไกด์ B และคนขับรถคันนั้นก็ได้ เพราะตอนอยู่บนรถ ไกด์ A ได้ขอคุยกับไกด์ B ทางโทรศัพท์
แต่ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน?
เพราะถ้าพวกเรากลับกันเองโดยที่ไกด์ A ไม่ได้ไปส่งให้ถึงที่พัก เขาก็อาจจะถูกบริษัททำโทษก็เป็นได้ (หรือผมคิดมากไปครับเนี่ย 555)