“โศกนาฏกรรมเรือเหาะฮินเดนเบิร์ก (Hindenburg Disaster) โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ทางอากาศรายแรกๆ ในประวัติศาสตร์การบิน” ตอนที่ 2
ความรุ่งเรืองและก้าวหน้าของเซปเปลิน
เซปเปลินตัดสินใจตั้งบริษัทของตนเอง โดยได้มีการสร้างโรงเก็บเรือเหาะลอยน้ำอีกด้วย
เขาใช้เวลากว่าสองปีในการสร้างเรือเหาะขึ้นมา และตั้งชื่อเรือเหาะว่า “เรือเหาะเซปเปลิน (Airship Zeppelin)” โดยตั้งชื่อตามชื่อของเขาเอง
คนส่วนมากเรียกเรือเหาะเซปเปลินนี้ว่า “LZ-1” โดย “L” นั้นย่อมาจากคำว่า “Luftschiff” ที่แปลว่าเรือเหาะในภาษาเยอรมัน
2 กรกฏาคม ค.ศ.1900 (พ.ศ.2443) ฝูงชนกลุ่มใหญ่ก็ได้มารวมตัวกันเพื่อขึ้น LZ-1 โดย LZ-1 ลอยไปเป็นระยะทางกว่าสามไมล์ เป็นเวลากว่า 18 นาที
LZ-1
การเดินทางครั้งนี้ประสบความสำเร็จด้วยดี โดยเรือเหาะลำนี้มีความยาว 420 ฟุต และมีโครงร่างที่ทำมาจากอลูมิเนียม ซึ่งมีความแข็งแรงแต่มีน้ำหนักเบา
ก๊าซที่ใช้ใน LZ-1 นั้นจะแยกกันตามส่วนต่างๆ กว่า 17 ส่วน ทำให้เรือเหาะมีความปลอดภัย เนื่องจากหากมีส่วนใดได้รับความเสียหาย ส่วนอื่นๆ ก็จะยังคงปลอดภัยอยู่
LZ-1 ได้ออกบินอีกสองครั้ง แต่ปัญหาก็คือรัฐบาลเยอรมันไม่รู้สึกประทับใจกับเรือเหาะนี้ และไม่อยากจะจ่ายเงินสนับสนุนโครงการนี้อีกต่อไป
เมื่อไม่ได้รับเงินทุน เซปเปลินก็เริ่มจะเงินหมดจนต้องทำลาย LZ-1
แต่เซปเปลินยังไม่ยอมแพ้ รัฐบาลเยอรมันได้ให้โอกาส สนับสนุนเงินทุนอีกครั้ง
“LZ-2” เรือเหาะลำที่สองของเซปเปลินได้สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปีค.ศ.1906 (พ.ศ.2449)
LZ-2
แต่ในเที่ยวบินแรก เครื่องยนต์ของเรือเหาะได้เกิดขัดข้องจนต้องลงจอดฉุกเฉิน และเมื่อนำลงมาจอดแล้ว ก็ได้เกิดพายุเข้า ทำให้ LZ-2 พังไม่มีชิ้นดี
เซปเปลินได้สร้างเรือเหาะลำที่สาม นั่นคือ “LZ-3” โดยเรือเหาะลำนี้สามารถบรรทุกคนได้ 11 คน และก็ประสบความสำเร็จด้วยดีจนรัฐบาลเกิดสนใจ
LZ-3
รัฐบาลได้บอกกับเซปเปลินให้ลองพิสูจน์ว่าเรือเหาะของเขาจะสามารถบินได้ถึง 24 ชั่วโมงหรือไม่ หากทำได้ รัฐบาลจะตกลงซื้อ
เซปเปลินจึงได้สร้างเรือเหาะอีกลำ และทำให้ดีกว่าเดิม นั่นคือ “LZ-4”
LZ-4
เซปเปลินมั่นใจว่า LZ-4 จะต้องประสบความสำเร็จ และได้นำ LZ-4 ออกทดลองบินในเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1908 (พ.ศ.2451)
แต่ขณะทดลองนั้น เครื่องยนต์ได้เกิดขัดข้องและต้องนำเครื่องลงเพื่อซ่อมตัวเครื่อง แต่ขณะที่เครื่องลงแล้วนั้น ได้เกิดพายุเข้า ทำให้เชือกที่ผูกเรือเหาะลำนี้เกิดหลุดและเรือเหาะได้ลอยไปชนกับต้นไม้จนระเบิด
เซปเปลินนั้นผิดหวังหนักและคิดจะล้มเลิก
แต่ปรากฎว่าประชาชนชาวเยอรมันได้เริ่มจะชื่นชอบเรือเหาะของเซปเปลิน พวกเขาจึงส่งเงินมาให้เซปเปลิน เงินจากทั่วประเทศส่งเข้ามาหาเซปเปลินเพื่อสร้างเรือเหาะอีกลำ
และถึงแม้ LZ-4 จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่กองทัพก็ได้ตัดสินใจซื้อเรือเหาะเซปเปลินจำนวนสองลำ
ค.ศ.1909 (พ.ศ.2452) เซปเปลินได้สร้างสายการบินแรกของโลกชื่อ “Delag”
หนึ่งในหุ้นส่วนทางธุรกิจของเซปเปลินคือ “ฮิวโก้ เอคเนอร์ (Hugo Eckener)”
เอคเนอร์เป็นหนึ่งในคนที่ชมการสาธิตเรือเหาะของเซปเปลิน โดยในตอนแรกนั้นเขาไม่ได้สนใจเรื่องการบินมากนัก ที่มาก็เนื่องจากเขาเป็นนักข่าว มาทำข่าว
แต่ภายหลังจากได้ชมการบิน เขาก็ได้ตกหลุมรักเรือเหาะและเริ่มจะหัดบินด้วยตนเอง
ฮิวโก้ เอคเนอร์ (Hugo Eckener)
ต่อมา เซปเปลินได้ชักชวนให้เอคเนอร์มาเป็น Flight Director ให้บริษัทของเขา ซึ่งเอคเนอร์ก็ตกลงทันที
เซปเปลินวางแผนจะสร้างกองบินที่มีเรือเหาะหลายลำที่พาผู้โดยสารเดินทางไปยังที่ต่างๆ ทั่วเยอรมนี และเรือเหาะของเขาจะสามารถเดินทางได้เร็วกว่ารถไฟหลายเท่า
ในช่วงแรกของสายการบิน Delag นั้น ก็ได้เกิดอุบัติเหตุแต่ไม่ร้ายแรง ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และสายการบิน Delag นั้นก็ดำเนินการไปได้อย่างดี
ในไม่ช้า Delag ก็มีเรือเหาะที่บินไปมาระหว่างแปดเมือง
เรือเหาะนั้นเริ่มจะสะดวกสบายขึ้นเรื่อยๆ ห้องพักผู้โดยสารก็ใหญ่ขึ้น หรูขึ้น
ในระหว่างเที่ยวบินนั้น อาหารที่เอามาเสิร์ฟผู้โดยสารนั้นคืออาหารสุดหรูที่ประกอบด้วยคาเวียร์และยังมีการเสิร์ฟแชมเปญอีกด้วย
นอกจากนั้น เรือเหาะนี้ยังขยายธุรกิจไปยังการส่งไปรษณีย์และสินค้าอีกด้วย
ในระหว่างค.ศ.1910-1914 (พ.ศ.2453-2457) Delag ได้ดำเนินการไปแล้วเกือบ 1,600 เที่ยวบิน
เรือเหาะเซปเปลินกลายเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายในยุโรป และบริษัทก็กำลังรุ่งเรือง
แต่ในปีค.ศ.1914 (พ.ศ.2457) สงครามโลกครั้งที่ 1 ก็ได้เริ่มต้นขึ้น และประเทศที่เป็นศูนย์กลางของสงครามคือเยอรมนี
จะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามต่อในตอนหน้านะครับ
References: https://www.airships.net/zeppelins/
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
