2 ม.ค. 2020 เวลา 10:45 • ธุรกิจ
พื้นฐานของแนวความคิดด้านการตลาดยุคใหม่มาจากไหน?
ตอนที่ 2
Credit: Busy.org
หลายท่านคงได้วิธีคิดที่สามารถไปใช้ในการดำเนินชีวิตและการทำธุรกิจจากตอนที่ 1 แล้ว ที่กล่าวถึงเรื่องสิ่งคนที่ประสบความสำเร็จเขาทำกัน ที่ดูไม่ซับซ้อนอะไรเลย และทุกคนก็สามารถเป็นคนสำเร็จได้เหมือนกัน และในตอนนี้ก็จะเป็นเรื่องชองสิ่งที่คนประสบความสำเร็จลงมือทำในเรื่องที่ทำให้เขาเติบโต นั่นคือการ “การสร้างคุณค่าให้กับผู้อื่น”
Credit: Great People Inside
คนที่ประสบความสำเร็จกับผู้นำส่วนมากแล้วเขาจะเป็นคนๆเดียวกัน เพราะสิ่งที่ผู้นำทำคือการทำสิ่งต่างๆเพื่อผู้อื่นดีขึ้น ผู้นำยกระดับผู้อื่น ผู้นำคือคนที่ให้คุณค่าแก่ผู้อื่น แต่ผู้นำที่ไม่ดีหรือคนที่ไม่ประสบความสำเร็จคือคนที่ทำให้คนอื่นดูแย่ลง หากใครที่ต้องการเป็นผู้นำเพราะคิดว่าจะได้รับสิทธิพิเศษ ต้องการอำนาจ ต้องการเงิน นั่นไม่ใช่เหตุผลที่จะเป็นผู้นำ
คุณอยากเป็นผู้นำเพราะอยากช่วยเหลือผู้คนนั่นคือแรงจูงใจนั่นคือเหตุผล หลายๆครั้งเราจะเคยได้ยินคำว่า “ช่างเหงาเหลือเกินบนนี้ ยิ่งสูงยิ่งหนาว” แต่ทว่าผู้นำคนที่ประสบความสำเร็จจะไม่พูดว่าคำนั้น และนี่คือข้อคิด
“ถ้าเราอยู่ข้างบนเพียงคนเดียว ให้ลงมาจากเบื้องบนซะลงไปยังเบื้องล่างที่มีคน ติดต่อกับเขา ช่วยเขาดึงเขาขึ้นมา”
เพราะว่าผู้นำดึงคนขึ้นข้างบนกับเขานี่คือนิยามของผู้นำ ผู้นำต้องมีคนอยู่ด้วย แต่ถ้าเราเป็นผู้นำแล้วไม่มีใครอยู่ร่วมกับเราเราก็ไม่ได้นำแต่อย่างใด บุคคลที่คิดว่าตนกำลังนำแต่ไม่มีผู้ใดติดตาม บุคคลนั้นเพียงเดินทอดน่องเฉยๆ
เราจะเพิ่มคุณค่าให้กับผู้อื่นได้อย่างไร มี 3 ประการคือ
1.ให้คุณค่าแก่ผู้อื่น ซึ่งทำได้ง่ายมาก มีข้อแตกต่างระหว่างการสร้างแรงจูงใจให้คนกับการใช้คนเพื่อหวังผล มีข้อแตกต่างอยู่ระดับหนึ่ง คือผู้นำไม่ควรทำบางสิ่งเพื่อผลประโยชน์ของเขาถ้าสิ่งนั้นทำให้คนเจ็บปวด เป็นเหตุผลที่ผิดและไม่มีเหตุผลที่ดีในการกระทำเช่นนี้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือสังเกตจากการที่เมื่อเรากดผู้อื่นลง ตัวเราก็ลดลงเช่นเดียวกัน แต่เมื่อเราต้องการเพิ่มคุณค่าให้กับผู้อื่นนั้นเราก็เริ่มมีคุณค่าขึ้นมาด้วยเช่นกัน
2.เราต้องทำตัวเองให้มีคุณค่าด้วยการทำให้เราดีขึ้นด้วย เหตุผลคือคุณนำผู้อื่นได้ในขณะที่คุณกำลังเติบโต ถ้าหากคุณหยุดเติบโตคุณก็หยุดที่จะนำ เราไม่สามารถนำให้คนไปยังจุดที่เราไม่เคยไปมาก่อน ผู้นำที่ดีต้องเป็นผู้นำทัวร์ไม่ใช่ตัวแทนจัดทัวร์ ในฐานะเราเป็นผู้นำเราทำตัวเองให้มีคุณค่าแก่ผู้อื่น เราก็ส่งต่อสิ่งที่เราเรียนรู้มาให้กับผู้อื่น แต่ถ้าเราไม่เรียนรู้และเราไม่เติบโต ฉะนั้นการเพิ่มคุณค่าให้กับผู้อื่น ไม่เพียงแต่เราต้องให้คุณค่าแก่ผู้อื่น เราต้องทำตัวเองให้มีคุณค่าด้วย
Credit: Personaldevelopfit
3.ต้องสามารถรู้และเข้าถึงสิ่งที่เขาให้คุณค่าในชีวิตของเขาด้วย คือการที่จะนำผู้อื่นได้อย่างถูกต้องอย่างมีประสิทธิภาพ เราต้องรู้และเข้าถึงในสิ่งที่มีคุณค่าในชีวิตเขา วิธีเดียวที่จะติดต่อผู้อื่นได้ก็คือการไปอยู่ในที่ที่เขาอยู่กัน ซึ่งผู้นำต้องลงมาพบปะผู้คนที่อยู่เบื้องล่าง เราต้องตั้งคำถามเขา ติดต่อเชื่อมสัมพันธ์กับพวกเขาและเราต้องฟังเขา ผู้นำไม่ควรเป็นคนแรกที่เข้าสู่เส้นชัย เพราะว่าผู้นำมีความรับผิดชอบในการนำผู้อื่นให้ไปร่วมกับเขา
ถ้าหากเราเดินทางและกำลังนำคนเรากำลังมีอิทธิพลต่อพวกเขาด้วย การเข้าสู่เส้นชัยจึงเป็นไปอย่างช้าๆ และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้คนเดียว บุคคลที่ถึงเส้นชัยก่อนเป็นคนแรกก็คือบุคคลที่วิ่งโดยไม่มีผู้อื่นร่วมอยู่ด้วย
“เมื่อเดินทางมาคนเดียว คุณจะถึงที่หมายได้ไว แต่เมื่อเดินทางร่วมกับผู้อื่น คุณต้องรอพวกเขา ในขณะที่เดินไปอย่างช้าๆกับพวกเขา เมื่อเราเดินช้าๆผ่านฝูงชนและฟังคนของเราและเห็นคุณค่าของพวกเขาเห็นถึงหัวใจของพวกเขา นั่นแหล่ะคือวันที่คุณเริ่มนำผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
Ctedit: Slideshare
คนที่ประสบความสำเร็จจะเก่งในเรื่องของความสัมพันธ์ ผู้คนที่จะไม่ร่วมมือกับเราถ้าเขาเข้ากับเราไม่ได้ ความสัมพันธ์เป็นพื้นฐานของการเป็นผู้นำ เราจะมีอิทธิพลได้ก็ต่อเมื่อเราได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา
ตอนต่อไปจะเป็นเรื่อง เพิ่มคุณค่าให้กับผู้อื่นอย่างไร การปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไรและผู้นำ 5 ระดับ
ที่มา:
How to be a REAL success seminar, 14th July 2015 by John C Maxwell
ข้อมูลมุมมองการตลาดที่ทันสมัยจากประสบการณ์จริง อ่านได้ใน Blockdit ยุคใหม่การตลาดของไทย
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย) ตอนล่าสุด
โฆษณา