6 ม.ค. 2020 เวลา 11:05 • ไลฟ์สไตล์
เมื่อมนุษย์อินดี้มาเจอโครตอินดี้!!
จากตอนที่แล้วที่เล่าถึงบ้านบันเทิงของเราไปแล้ว การปรับตัวของ Gen X และ Gen Baby Boomers
มาตอนนี้จะเล่าความสัมพันธ์ของ Gen X และ Gen Y นั่นก็คือสัมพันธ์ภาพของพี่และน้องต่างวัย แถมยังต่างเพศด้วย
ความที่เราต่างกัน 7-8 ปี ช่วงอายุเราจึงห่างกันมาก กลายเป็นคนละ Gen ที่มีความคิดต่างกันสุดขั้ว
พอทุกคนเมื่อชีวิตเติบโตขึ้นจากบ้านนอก “กรุงเทพมหานคร” จึงเป็นเป้าหมายที่ทุกคนอยากเดินทางมาเรียนหนังสือ
เราในฐานะพี่มาก่อน น้องก็ตามมา เมื่อ X กับ Y มาอยู่ด้วยกัน บ๊ะเจ้าจอรด์มันยอดมาก!! Gen Y เวลาว่างของมันคือไม่ทำอะไรทั้งนั้น
เมื่อคนระเบียบเรียบร้อยกับคนที่ไร้ซึ่งความระเบียบมาอยู่ด้วยกัน บรรลัยสิคร้าบบ และความเป็นมนุษย์ที่ไม่มีการยอมใดๆ
ตึงเป๊ะจนแตกโป๊ะ เราทะเลาะกันบ่อยมาก แต่ก็ยังพึ่งพากันอยู่นะ ด้วยความวัยรุ่นทั้งคู่ พังสิจ๊ะ
นี่เป็นตัวอย่างไม่ดีไม่ควรทำตามนะ อันนี้เล่าเพราะอ้างอิงกันเฉยๆ พวกเราต้องใช้คำว่า “ทน” อยู่ด้วยกัน จนเราทั้งคู่เรียนจบมีงานทำ ชีวิตเราจึงแยกออกจากกัน
ความโชคดีอย่างหนึ่งก่อนที่เราจะแยกกัน เมื่อเรามีน้องคนสุดท้ายตามขึ้นมาอยู่ด้วย ด้วยความที่น้องคนเล็กเป็นสายประนีประนอม ห้ามทัพเวลาพี่ตีกันเสมอ เพราะถึงแม้จะเป็นคนเล็ก แต่ดันตัวใหญ่ที่สุดในบ้าน มันเลยมีความได้เปรียบเชิงกายภาพ
หลังจากที่แยกกันอยู่ พอต่างหาเงินกันได้เองก็ไม่ต้องพึ่งพาใคร เราสามคนก็แยกกันอยู่ต่างคนต่างทำงานของตัวเอง พอไม่อยู่ด้วยกัน ทำให้น้องได้เข้าใจชีวิตการอยู่ร่วมกันคนอื่นมากขึ้น
แล้วเรามารวมกันได้อย่างไร พอพ่อแม่ถึงวัยเกษียณต้องย้ายจากสุราษร์ธานีมาราชบุรี พ่อที่ไม่เคยวางแผนอันใด บ้านเดิมที่เคยอยู่ก็บ้านหลวง
เราต้องมีบ้านแล้วนะ!! เป็นภารกิจเร่งด่วน พ่อมากู้ทำบ้านตอนเกษียณ ธนาคารที่ไหนจะให้ล่ะคร้าบบ สุดท้ายเราก็เลยได้รับสิทธิ์นั้นแทน
ทุกอย่างถูกเนรมิตด้วยเวลาไม่นานนัก เราทุกคนต้องช่วยกันมาคุมงานก่อสร้างบ้านหลังนี้ ใช้เวลา 8 เดือนกว่าบ้านจะเสร็จ ทำให้เราเข้าใจคำว่า “บ้าน” มากขึ้น เพราะนี่คือบ้านหลังแรกที่เป็นของครอบครัวเราเอง
ที่มาของสิทธิ์แห่งความเกรงใจ เพราะบ้านหลังนี้เงิน 80% คือเงินเรา 20% คือเงินพ่อแม่ เราจึงกลายเป็น “เจ้าบ้าน” ตามกฏหมาย
เวลามีบ้านเป็นของตัวเองนี่มันเหมือนมีหลักฐานที่มั่นคง เราเลือกสร้างหนี้เรื่องบ้านก่อน จึงทำให้ในวัยก่อนหลักสี่สแควร์ของเราปลดหนี้บ้านไปเป็นที่เรียบร้อย
คุณเอ้ย .. บ้านหลังใหญ่ในบ้านนอกเนี่ยมันสบายกว่าคอนโดหลักหลายล้านในเมืองกรุงเสียอีก แค่สภาพแวดล้อมที่ต่างกันมันก็ดีกว่าเยอะมาก
เช้าๆ ได้ยินเสียงนกร้อง มืดๆ มีหิ่งห้อยบินหลังบ้าน มันบันเทิงเริงใจกว่าแสงสีในเมืองกรุงเป็นไหนๆ
กลับมาเรื่อง Gen X และ Y ของเรากันต่อ พอวันเวลาเปลี่ยน ทุกคนโตมากขึ้นจากที่ไม่ลงรอยกัน พอมีคนถอยทุกอย่างมันก็ดีขึ้น
ทำให้ได้เรียนรู้ชีวิตการอยู่ร่วมกัน “ผู้ให้สุขใจกว่าผู้รับเสมอ” เชื่อเราเถอะ แม้มันไม่ดีต่อใจใคร แต่มันดีต่อใจเรา
ถ้ารู้ว่ามีปัญหา เราก็เลี่ยงที่จะปะทะ เหตุมันก็ไม่เกิด ทุกอย่างอย่าใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ถ้าจะพังก็จงเลือกที่จะเงียบ มันจะเป็นผลดีกว่า ความโกรธมันอยู่กับเราไม่นาน แป็บเดียวก็หายถ้าเราไม่ใส่ใจมัน
การที่ Gen X และ Y อยู่ด้วยกัน ยังมีความยืดหยุ่นสูงกว่า Gen B มาก เลือกที่จะยอมสักคน ชีวิตก็จะผ่านพ้นเรื่องวุ่นวายไปได้แล้วล่ะ
ตอนหน้าจะมาเล่าเรื่อง Gen สุดท้ายที่เปลี่ยนโลกของทุกคนนะจ๊ะ
#วิถีเซลบ้านนอก
#iampatthanid

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา