ตอนทดลองใช้ Slack และ Trello ร่วมกับทีมในการควบคุมและติดตาม Project จากหลายแผนก ท่านก็เอามานำเสนอ โดน IT และ CEO สั่งห้ามใช้ Program ข้างนอกโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต บอกว่าเป็น app ที่เสียค่าบริการ (แต่เราเลือกใช้ฟรีได้นะท่าน)
แต่ CEO ท่านนั้นก็ไม่ให้ใช้อยู่ดี ต้องใช้สิ่งที่ IT หาให้เท่านั้น ก็ IT เค้าบอกว่าโปรแกรมตัวใหม่ดีกว่า Slack กับ Trello แน่นอน ฟรีด้วยนะ ผู้บริหารท่านนั้นต้องหยุดใช้เพราะเป็นคำสั่ง หลังจากนั้น IT เอา Service ที่ว่ามาให้ใช้ มันคือ "Alfresco"
มีการ Train สั้นๆ ลองใช้งานแล้วมันคือระบบการจัดการเอกสาร ไม่ใช่การบริหาร Project ก็ไม่ทราบว่า IT Director รู้จัก Slack กับ Trello หรือ App ฟรีที่ Start up เมืองไทยเมืองเทศใช้กันเป็นสิบแอพในการบริหาร Project บ้างหรือเปล่า
ปัจจุบันทราบว่าไม่มีพนักงานบริษัทนั้นเข้าไปเก็บเอกสารในระบบ "Alfressco" เลย ผู้บริหารที่ผมกล่าวถึงก็พยายามเข้าใช้ตามนโยบายแต่ไม่ตอบโจทย์ Google drive ยังดีกว่าท่านว่าอย่างนั้น
อีกเรื่อง.. ทราบมาว่าทุกวันนี้ IT ก็เปลี่ยนเอา ERP ที่บอกว่าดีนักดีหนามาให้ใช้ แต่ดันทำงานสู้โปรแกรมบัญชีตัวเดิมไม่ได้ในหลายมิติ บอกแค่ว่ายังพัฒนาไม่เสร็จ 555 ขำแพพ
ขยับจาก ERP มาตอนนี้เป็นเรื่อง Big data กับ Transformation อีกละ โดยรวมมันก็ดีครับ แต่เราพร้อมหรือยัง มีการเตรียมตัวอย่างไร มีเงินลงทุนเรื่องนี้หรือไม่ วางแผนการเปลี่ยนแปลงไว้อย่างไร และควรเริ่มเวลาไหนจึงจะเหมาะสม
จากเรื่องนี้บอกว่าตัวละครสำคัญตามเทคโนโลยีไม่ทันจริงๆครับ มันพัฒนาไปเร็วจนกระทั่งบุคลากรด้าน IT ก็ยังไม่เข้าใจ ว่าแต่ละ Service มันไม่ได้ตอบโจทย์ครอบจักรวาล เค้าทำ Slack มาเพื่อให้เป็นตัวเชื่อมโยงกับสารพัดแอพ และมันเร็ว
ว่าจะไปลองหามาอ่านดู ไม่ทราบว่ามีท่านใดเคยอ่านบ้างมั้ยครับ? มีการวิเคราะห์เรื่องที่ว่าทำไมผู้เขียนถึงใช้เลขนี้กันหลายทฤษฎี อ่านไปแรกๆก็เพลิน ต่อมาชักเยอะเลยอ่านไม่จบ 555 แปะ Link ไว้ให้อ่านต่อนะครับ
มีบุคคลจากหลายวงการได้รับอิทธิพลจากเลข "42" ที่มาจากหนังสือเล่มนี้ เช่น Cold play ก็นำมาใช้เป็นชื่อเพลงในอัลบั้ม Viva la Vida ที่เป็นสตูดิโออัลบั้มที่สี่ของพวกเค้า แต่คำตอบที่ได้จาก Chris martin ก็คือ ทั้งใช่และไม่ใช่
แต่ต้องยอมรับว่าเลข "42" มีอิทธิพลต่อผลงานของบุคคลผู้มีชื่อเสียงหลายคนจริงๆ แม้กระทั่งห้องของ Fox Mulder จาก The X-Files ยังใช้เบอร์ "42" แหม! ยิ่งอ่านยิ่งสนุก