21 ม.ค. 2020 เวลา 05:00 • ประวัติศาสตร์
“บิลล์ เกตส์ (Bill Gates) เจ้าพ่อไมโครซอฟต์ อัครมหาเศรษฐีระดับโลก” ตอนที่ 6 (ตอนจบ)
การถูกกล่าวหาและบทบาทใหม่
1
ยุค 90 (พ.ศ.2533-2542) เป็นยุคของอินเตอร์เน็ต ผู้คนต่างเริ่มเห่ออินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นของแปลกใหม่ในเวลานั้น
ในช่วงแรก บิลล์ยังไม่เห็นความสำคัญของอินเตอร์เน็ตมากนัก แต่ความแรงของอินเตอร์เน็ตก็มีแต่เพิ่มขึ้น บริษัทที่ให้บริการอินเตอร์เน็ตต่างก็ผุดขึ้นมากมาย
หนึ่งในบริษัทเหล่านั้นคือ “Netscape” ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเบราเซอร์
1
ในที่สุด บิลล์ก็รู้ตัวว่าทำพลาดแล้ว และเขาก็พร้อมจะลุยในสนามอินเตอร์เน็ต
บิลล์ได้เขียนบันทึกส่งให้พนักงานของเขา ซึ่งในบันทึกนั้น บิลล์กล่าวว่าอินเตอร์เน็ตคือสิ่งที่สำคัญที่สุดตั้งแต่มีเครื่องพีซี และต่อไปนี้ ให้ดำเนินการเรื่องของอินเตอร์เน็ตเป็นอย่างแรก
ค.ศ.1995 (พ.ศ.2538) บิลล์ก็ได้ออกอินเตอร์เน็ตเบราเซอร์ตัวแรกของไมโครซอฟต์
1
นั่นคือ “Internet Explorer”
1
ในเวลานั้น Netscape มีส่วนแบ่งตลาดเบราเซอร์กว่า 90% ซึ่งหากไมโครซอฟต์จะเอาชนะ คงต้องเหนื่อยมากแน่ๆ
บิลล์เลยใช้วิธีการผูกเบราเซอร์ของไมโครซอฟต์กับระบบปฏิบัติการ ใครที่ซื้อวินโดวส์ก็จะได้ Internet Explorer ติดไปด้วย
ด้วยกลยุทธนี้ ทำให้ไมโครซอฟต์นำหน้า Netscape ในทันที
แต่การทำอย่างนี้ก็ทำให้บิลล์เองนั้นเดือดร้อน เนื่องจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ยื่นฟ้องไมโครซอฟต์ในข้อหาผูกขาด เนื่องจากในเวลานั้น พีซีกว่า 80% ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ ทำให้ผู้ใช้วินโดวส์ก็ต้องใช้ Internet Explorer อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และ Netscape ก็ไม่มีทางจะสู้ได้เลย
การโดนฟ้องนี้ทำให้บิลล์นั้นหัวเสียมาก แต่ในเวลานั้นก็ไม่มีคนสงสารเขามากนัก เนื่องจากเขาเองนั้นก็มีศัตรู หลายคนก็บอกว่าเขาทำทุกอย่างเพื่อให้ชนะและชอบรังแกบริษัทเล็กๆ
สุดท้ายแล้ว ค.ศ.2000 (พ.ศ.2543) ศาลก็ได้ตัดสินให้ไมโครซอฟต์แยกออกเป็นสองส่วน บริษัทหนึ่งทำระบบปฏิบัติการ ส่วนอีกบริษัททำหน้าที่พัฒนาซอฟต์แวร์
แต่ภายหลัง ค.ศ.2002 (พ.ศ.2545) ก็ได้มีการกลับคำพิพากษา บริษัทกลับมารวมกันเป็นหนึ่งอีกครั้ง แต่ไมโครซอฟต์ก็ต้องปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจบางส่วน
ภายหลังจากคร่ำหวอดอยู่ในวงการธุรกิจมาเป็นเวลานาน บิลล์เองก็เริ่มจะไม่ได้คิดถึงไมโครซอฟต์ทุกลมหายใจเข้าออกอีกต่อไปแล้ว สิ่งที่เขาเริ่มสนใจ นั่นคือปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก
1
แมรี่ แม่ของบิลล์นั้นเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของบิลล์ แมรี่มักจะทำงานอาสาและการกุศลมาตั้งแต่ยังสาว อีกทั้ง “วอร์เรน บัฟเฟต์ (Warren Buffet)” มหาเศรษฐีซึ่งเป็นเพื่อนกับบิลล์ ก็ได้ชักชวนบิลล์ให้บริจาคเงินช่วยเหลือสังคม
แต่ผู้ที่มีอิทธิพลมากที่สุดน่าจะเป็นเมลินดา ภรรยาของบิลล์
เมลินดานั้นเป็นคนติดดินและชอบช่วยเหลือผู้อื่น
บิลล์กับวอร์เรน บัฟเฟต์
บิลล์คุยกับเมลินดาเรื่องการช่วยเหลือสังคม โดยทั้งคู่ตัดสินใจจะบริจาคเงินกว่า 95% กลับคืนสังคม
บิลล์ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า
1
“ผมเชื่อว่าความมั่งคั่งร่ำรวยมหาศาลต้องตามมาด้วยความรับผิดชอบอันมหาศาล ความรับผิดชอบในการนำกลับคืนสู่สังคม”
2
ค.ศ.2000 (พ.ศ.2543) บิลล์และเมลินดาได้ก่อตั้งมูลนิธิบิลล์ & เมลินดา เกตส์ (Bill & Melinda Gates Foundation) โดยทั้งคู่ได้บริจาคเงินเข้ามูลนิธิเป็นพันๆ ล้านดอลลาร์
และในปีค.ศ.2000 (พ.ศ.2543) นี้เอง บิลล์ก็ได้ลงจากตำแหน่งซีอีโอ ก่อนที่ในปีค.ศ.2006 (พ.ศ.2549) บิลล์ก็ได้ประกาศว่าเขาพร้อมจะวางมือจากไมโครซอฟต์และทำงานในมูลนิธิอย่างเต็มตัว
27 มิถุนายน ค.ศ.2008 (พ.ศ.2551) บิลล์ทำงานที่ไมโครซอฟต์เป็นวันสุดท้ายภายหลังจากบริหารไมโครซอฟต์เป็นเวลานานกว่า 30 ปี
ค.ศ.2010 (พ.ศ.2553) บิลล์ได้ตกอันดับคนรวย กลายเป็นคนที่รวยอันดับสองของโลกเนื่องจากเขาได้บริจาคเงินเป็นจำนวนถึง 28,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 850,000 ล้านบาท)
บิลล์นั้นได้ทุ่มเทเวลาให้กับงานการกุศล เขาหาทางช่วยลดความยากจนของประชากรในพื้นที่ต่างๆ และช่วยเหลือด้านโรคระบาด อีกทั้งยังยกระดับการศึกษาของสหรัฐอเมริกา รวมทั้งเขายังเดินทางไปอีกหลายประเทศที่ยากจนเพื่อช่วยเหลือหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องการบริหารและเงินทุน
1
บิลล์ขณะช่วยเหลือการกุศล
ค.ศ.2007 (พ.ศ.2550) บิลล์ได้รับปริญญาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งบิลล์ก็ได้พูดติดตลกถึงพ่อของเขาที่อยู่ในฝูงชน
“พ่อครับ ผมบอกแล้วไงว่าในที่สุดผมก็จะกลับมาคว้าใบปริญญาจนได้”
ทุกวันนี้ บิลล์ก็ยังคงช่วยเหลือการกุศลอย่างสม่ำเสมอ
เชื่อว่าต่อไป ประวัติศาสตร์คงต้องจำบิลล์ เกตส์ในสองมุม
1
มุมหนึ่งนั้นคือในฐานะของผู้ก่อตั้งไมโครซอฟต์ บริษัทคอมพิวเตอร์ที่เปลี่ยนโลก และอีกมุมหนึ่ง เขาคือผู้ช่วยเหลือการกุศลรายใหญ่ที่สร้างสรรค์สิ่งดีงามให้แก่โลก
1
จบลงแล้วสำหรับซีรีย์ชุดนี้ ซีรีย์ชุดต่อไปที่จะมาต่อคือ
“เจ้าหญิงไดอาน่า (Diana, Princess of Wales) เจ้าหญิงผู้เป็นที่รักของปวงชน”
ตอนแรกจะมาในวันพรุ่งนี้ ฝากติดตามด้วยนะครับ
โฆษณา