21 ม.ค. 2020 เวลา 08:00 • ประวัติศาสตร์
“Seppuku” การคว้านท้องของเหล่าซามูไร
หลายคนอาจจะทราบว่าซามูไรนั้น เป็นผู้ที่รักในเกียรติศักดิ์ศรีของตนเองมาก และหากเสื่อมเสียเกียรติหรือทำผิดพลาด ก็ยินดีจะคว้านท้องฆ่าตัวตาย
พิธีการคว้านท้องหรือ “Seppuku” นี้เป็นกรรมวิธีการฆ่าตัวตายที่ทรมานและสยดสยอง และมักจะทำไม่สำเร็จ คือผู้คว้านท้องไม่ตายและไม่สามารถคว้านท้องต่อได้ จึงต้องมีคนอยู่ด้านหลัง ถือดาบ คอยตัดคอหากว่าผู้คว้านท้องทำไม่สำเร็จ
Seppuku นี้มีประวัติความเป็นมานานหลายร้อยปี จนถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ Seppuku ค่อยๆ จางหายไปพร้อมกับความเจริญจากตะวันตกที่เข้ามาในญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นในสมัยโบราณนั้น ไม่ได้มีการเปิดรับสิ่งต่างๆ จากตะวันตกมากนัก จนกระทั่งการเข้ามาของพ่อค้าชาวยุโรปและอเมริกัน พร้อมๆ กับการเปิดรับการค้าของรัฐบาลญี่ปุ่น
แต่การเปิดรับชาวตะวันตกนี้เองก็เป็นที่รังกียจและต่อต้านของกลุ่มซามูไร เกิดการฆ่าชาวตะวันตกเป็นจำนวนมาก
ค.ศ.1868 (พ.ศ.2411) ซามูไรได้ทำการฆ่าทหารฝรั่งเศส 11 นายที่มาทำการติดต่อค้าขายกับญี่ปุ่น ทำให้ทางการฝรั่งเศสไม่พอใจ และกงสุลฝรั่งเศสก็เรียกร้องให้ประหารซามูไรที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด
กงสุลฝรั่งเศสได้ส่งเจ้าหน้าที่ในกองทัพฝรั่งเศสมาเป็นพยานในการประหาร ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสนั้นก็เข้าใจว่าจะประหารโดยการตัดหัวหรือไม่ก็ยิงเป้า
แต่ปรากฎว่าเหล่าซามูไรที่ถูกประหารกว่า 20 คนนั้นได้ทำการคว้านท้อง สร้างความตกตะลึงและสยองให้กับเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศส
ภายหลังจากเหตุการณ์นี้ ได้มีประกาศจากราชสำนักห้ามฆ่าชาวต่างชาติ หากใครฝ่าฝืน จะถูกถอดยศและได้รับการลงโทษ
ต่อมา Seppuku นี้ก็ถูกนำมาใช้ในกองทัพญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายหลังจากที่ญี่ปุ่นพ่ายแพ้ แต่ทหารไม่ยอมแพ้ต่อกองทัพสัมพันธมิตร แต่เลือกที่จะทำการคว้านท้องฆ่าตัวตาย
ต่อมา Seppuku นี้ก็ค่อยๆ หายไปตามเวลาและความเจริญของบ้านเมือง
โฆษณา