Blockdit Logo (Mobile)
World Maker
•
31 ม.ค. 2020 เวลา 06:33 • ความคิดเห็น
เจาะลึกทองคำ EP4 : Gold Outlook 2020 - ทองคำปี 2020 จะไปในแนวทางไหน
ขอบคุณภาพจาก https://capital.com
ปี 2020 เศรษฐกิจโลกจะเผชิญความเสี่ยงและความไม่แน่นอนสูง
ความเสี่ยงของตลาดโลกและความกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก จะเป็นแรงผลักดันอุปสงค์ทองคำอย่างดีในปี 2020 โดย 3 ประเด็นสำคัญที่เราจะโฟกัสก็คือ
- ความไม่แน่นอนทางการเงินและอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง
- การชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก
- ความผันผวนของราคาทองคำ
ย้อนรอยมาดูปี 2019 กันก่อนครับ
สรุปทองคำปี 2019
- ความต้องการทองคำลดลง 1% ในปี 2562 อยู่ที่ 4355.7 ตัน เนื่องจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากใน ETF และผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกัน
- สงครามการค้าสหรัฐฯ และจีน หนุนราคา ทองคำ ปี 2562 สูงขึ้น 15%
- กระแสเงินสดไหลเข้าสู่กองทุนรวม ETF ทองคำและผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกัน เพิ่มขึ้นถึง 14% เป็นระดับสูงสุดตลอดกาล ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากทั่วโลก ยอดการถือครองรวมเมื่อสิ้นปี ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2885.5 ตัน
- ธนาคารกลางเป็นผู้ซื้อทองคำสุทธิติดต่อกันเป็นปีที่ 10 มีการถือทองคำเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศมากขึ้น 650.3 ตัน ซึ่งสูงที่สุดเป็นอันดับสองในรอบ 50 ปี
- ปริมาณการผลิตทองคำโดยรวมต่อปีเพิ่มขึ้น 2% เป็น 4,776.1 ตัน
- ความต้องการในไตรมาสสี่รวมลดลง 19% จากปีก่อนเป็น 1,045.2 ตัน เป็นระดับต่ำสุดในประวัติการณ์
- จีนและอินเดียมีอิทธิพลเหนือความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก สองยักษ์ใหญ่นี้ มีสัดส่วนในการบริโภคทองคำถึง 80% ความต้องการที่ลดลงหรือเพิ่มขึ้น จะส่งผลต่อราคาทองคำโลกโดยตรง
ในปี 2562 การไหลเข้า ETF ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เกือบเท่ากับความต้องการของผู้บริโภคที่ลดลงอย่างมากเช่นกัน
การถือครองกองทุน ETF ทองคำ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
การถือครองกองทุน ETF ทองคำ ได้รับแรงสนับสนุนจากทั่วโลก ทำสถิติสูงสุดตลอดกาลในไตรมาสที่ 4 ปี 2562
อัตราผลตอบแทนประจำปีของสินทรัพย์สำคัญทั่วโลก
- ทองคำ ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดตั้งแต่ปี 2553 โดยเพิ่มขึ้น 18.4% ในเทอมของดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังให้ผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตรและหุ้นหลาย ๆ ตัว ที่สำคัญทั่วโลก
- นอกจากนี้ราคาทองคำสูงเป็นประวัติการณ์ในสกุลเงินหลัก ๆ ส่วนใหญ่ยกเว้นดอลลาร์และฟรังก์สวิส ดังตารางข้างล่าง
ความเสี่ยงสูงและอัตราดอกเบี้ยต่ำ
- คาดว่าการเปลี่ยนแปลงจำนวนมากเหล่านี้ในโลก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจะเป็นตัวผลักดันราคาทองคำในปี 2563
- นักลงทุนและธนาคารกลาง จะเผชิญกับความกังวลทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น
- ความไม่แน่นอนทางการเงินและภูมิรัฐศาสตร์รวมกับอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำจะช่วยหนุนความต้องการลงทุนทองคำ
- การซื้อตุนทองคำสุทธิของธนาคารกลางจะยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แม้จะลดลงต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในไตรมาสที่ผ่านมา
- การเก็งกำไรอาจทำให้ความผันผวนของราคาทองคำสูงขึ้น
- ขณะที่ความผันผวนของราคาทองคำและความคาดหวังของการเติบโตทางเศรษฐกิจอ่อนแอ อาจส่งผลให้ความต้องการผู้บริโภคลดลงในระยะสั้น
- การปฏิรูปเศรษฐกิจเชิงโครงสร้างในอินเดียและจีนจะสนับสนุนความต้องการในระยะยาว
- ล่าสุดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันราคาทองคำให้สูงขึ้นไปอีก
ทองคำปี 2020
- ทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% ในเดือนธันวาคม 2562 เพิ่มขึ้นอีก 6% ทำระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปี ภายในวันที่ 7 มกราคม 2563 ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่ามีหลายสิ่งเชื่อมโยงกับความตึงเครียดในตะวันออกกลาง เป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างสหรัฐและอิหร่าน
- หลังจากนั้นเมื่อประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ ออกมาแถลงการณ์ว่ายังไม่มีมาตราฐานในการใช้กำลังทหารตอบโต้อิหร่าน ทำให้ความตึงเครียดเริ่มลดลง ราคาลงสู่ระดับ 1,540 $/oz ในวันที่ 10 มกราคม 2563 อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังคงสูงขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2562
- หลังจากข่าวไวรัสโคโรน่าระบาดทองคำเริ่มปรับตัวขึ้นอีกครั้ง จากระดับ 1,540 $/oz โดยขึ้นไปเกือบ 1,590 $/oz และลงมาคงตัวอยู่แถวระดับ 1570 $/oz
- หนี้สาธารณะกำลังล้นโลก ซึ่งอาจจะตามมาด้วยภาวะเศรษฐกิจถอดถอย
- ความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ฉุกเฉินพวกนี้ อาจจะมีผลกระทบกับราคาทองคำในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ในระยะกลางและระยะยาวความไม่แน่นอนทางการเงินและภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นและการเปลี่ยนแปลงโยบายการเงินจะมีบทบาทสำคัญกับราคาทองคำมากกว่า
เงินเฟ้อและราคาในตลาดหุ้นต่าง ๆ เริ่มสูงเกินไป
ความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างปริมาณหนี้และราคาทองคำ
บทสรุป
1. แนวโน้มทองคำปี 2020 ยังคงเป็นขาขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยโดยตรงและทางอ้อมอย่างมาก
2. สิ่งที่ควรใส่ใจสำหรับการวิเคราะห์แนวโน้มในปี 2020 ได้แก่
- การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก (สงครามรูปแบบต่าง ๆ และปัจจัยที่นอกเหนือการควบคุมเช่น ภัยธรรมชาติ)
- ภาวะถดถอยขั้นรุนแรงในสหรัฐฯ (วิกฤตเงินดอลลาร์ เงินเฟ้อ ตลาดหุ้น)
- การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่ชัดเจนยิ่งขึ้น (จากไวรัสโคโรน่า)
- การปรับปรุงทางเศรษฐกิจในประเทศตลาดเกิดใหม่
3. เมื่อวิเคราะห์แล้วตลาดทองคำมีโอกาสสูงที่จะปรับตัวสูงขึ้นตลอดปีนี้ เพียงแต่ในบางสถานการณ์ เช่น ภาวะเศรษฐกิจขาขึ้นในประเทศตลาดเกิดใหม่ อาจส่งผลให้ความต้องการบริโภคทองคำลดลง
4. ภาวะสินเชื่อที่ทรุดโทรมและอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง จะยิ่งส่งผลดีต่อราคาทองคำ
5. อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมากทั่วโลก จะทำให้ราคาหุ้นสูงและการประเมินมูลค่าอยู่ในระดับที่สูงมาก
คำทำนาย
หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ กล่าวคือ
1. สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ยืดเยื้อ
2. สงครามสหรัฐฯ อิหร่าน ยืดเยื้อ
3. หนี้สาธารณะโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
4. ปัจจัยนอกเหนือการควบคุมเกิดขึ้นบ่อย
5. ธนาคารกลางต่าง ๆ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย
เราอาจจะเห็นราคาทองคำพุ่งแตะระดับ 1800 ได้ภายในสิ้นปีนี้เลยทีเดียว
By Money Maker 31/01/2563 13.33

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา