1 ก.พ. 2020 เวลา 04:33 • ประวัติศาสตร์
“แอนน์ แฟรงค์ (Anne Frank) ดอกไม้งามแสนบริสุทธิ์ยามสงคราม” ตอนที่ 2
ชีวิตใหม่ในเมืองใหม่
อัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองที่สวยงาม มีคลองขนาดใหญ่ที่มีเรือพายผ่านตลอดทั้งวัน
เมื่อครอบครัวแฟรงค์ย้ายไปอัมสเตอร์ดัมนั้น แอนน์ยังอายุไม่ถึงห้าขวบ และอัมสเตอร์ดัมก็ได้กลายเป็นบ้านใหม่ของเธอ
อพาร์ทเม้นท์แห่งใหม่ของครอบครัวแฟรงค์เล็กกว่าที่แฟรงค์เฟิร์ต แต่ก็มีห้องสำหรับแขก ซึ่งต่อมา โอม่าก็ได้ย้ายมาอยู่กับพวกเขา
ได้มีครอบครัวชาวยิวหลายครอบครัวย้ายจากเยอรมนีมายังอัมสเตอร์ดัม และในไม่ช้า ครอบครัวแฟรงค์ก็มีกลุ่มเพื่อนชาวเยอรมันเชื้อสายยิว
ที่โรงเรียนใหม่ กว่าครึ่งของนักเรียนในชั้นเรียนก็เป็นชาวยิว
แอนน์นั้นเป็นเด็กช่างพูดช่างคุย และอาจารย์ก็มักจะดุที่เธอชอบคุยในห้องเรียน
แต่แอนน์นั้นก็ร่าเริง เธอชอบเล่นปิงปองและก่อตั้งชมรมปิงปอง
แอนน์นั้นชอบอ่านหนังสือประวัติศาสตร์และเทพนิยายกรีก และแอนน์ก็มักจะไปเล่นซนกับเพื่อนชื่อ “Hanne (ฮานน์)” โดยแอนน์มักจะไปว่ายน้ำที่ทะเลอยู่บ่อยๆ
ชีวิตในวัยเด็กของแอนน์ก็ไม่ได้ต่างจากเด็กคนอื่นๆ นัก แต่ในบางครั้งก็จะเกิดเรื่องน่ากลัวกับครอบครัวของแอนน์บ้าง
ลุงของแอนน์ถูกจับในเยอรมนีในปีค.ศ.1938 (พ.ศ.2481) ในข้อหาเป็นชาวยิว และถูกส่งตัวไปค่ายกักกัน
แต่นับเป็นโชคดีของลุงของแอนน์ ลุงของแอนน์ยอมตกลงที่จะไปจากเยอรมนีและไม่กลับมาอีก ซึ่งสุดท้าย ลุงของแอนน์ก็ย้ายไปยังสหรัฐอเมริกา
แต่เนเธอแลนด์ที่แอนน์อยู่ล่ะ? ปลอดภัยแค่ไหน
ค.ศ.1938 (พ.ศ.2481) ฮิตเลอร์ได้รวมออสเตรียกับเยอรมนีเข้าด้วยกัน
ออสเตรียเป็นประเทศที่อยู่ชายแดนทางใต้ของเยอรมนี และผู้คนก็ใช้ภาษาเยอรมัน อีกทั้งคนส่วนมากก็ยินดีที่จะเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับอาณาจักรที่ทรงอำนาจของฮิตเลอร์
แต่ชาวเนเธอแลนด์นั้นเกลียดฮิตเลอร์ และคนส่วนใหญ่ก็ไม่ยอมตกอยู่ใต้อำนาจของฮิตเลอร์
มีนาคม ค.ศ.1939 (พ.ศ.2482) เยอรมนีได้ทำการรุกรานเชโกสโลวาเกีย
หากว่าเป้าหมายต่อไปคือเนเธอแลนด์ล่ะ?
ในเวลานี้ อ็อตโต้และอีดิทต้องคิดหนัก
ครอบครัวแฟรงค์ควรจะอยู่ในอัมสเตอร์ดัมต่อไปหรือไม่? หรือจะย้ายอีกครั้ง?
หากจะย้าย จะไปที่ไหนดี? อเมริกาหรืออังกฤษ? ซึ่งแต่ละประเทศที่พวกเขาคิดออกก็ล้วนแต่เข้าประเทศได้ยาก
อีกอย่าง เด็กๆ ก็เริ่มจะคุ้นกับอัมสเตอร์ดัม และเมืองนี้ก็อยู่ใกล้กับพวกญาติๆ
ในปีค.ศ.1939 (พ.ศ.2482) อ็อตโต้มีอายุได้ 50 ปีแล้ว เขาคิดว่าหากจะย้ายไปที่อื่นและไปเริ่มต้นใหม่ เขาน่าจะแก่เกินแล้ว
1
สุดท้ายแล้วครอบครัวแฟรงค์ก็ตัดสินใจจะไม่ย้ายไปไหน
พวกเขาจะอยู่ในอัมสเตอร์ดัม
ภายหลังจากฮิตเลอร์บุกโปแลนด์ในเดือนกันยายน ค.ศ.1939 (พ.ศ.2482) อังกฤษและฝรั่งเศสก็ได้ประกาศสงคราม
อิตาลีได้เข้าร่วมกับเยอรมนี ส่วนสหรัฐอเมริกายังไม่เข้ากับฝ่ายไหน
เนเธอแลนด์เองก็ยังไม่เข้ากับฝ่ายไหน และชาวเนเธอแลนด์ต่างก็หวังว่ากองทัพนาซีจะไม่มารุกราน
ในยามค่ำคืน ครอบครัวแฟรงค์และครอบครัวชาวยิวอื่นๆ ที่อาศัยในอัมสเตอร์ดัมต่างร่วมกันดื่มกาแฟและกินเค้ก
และพวกเขายังพูดถึงเรื่องของสงคราม โดยพวกเขาหวังว่าฮิตเลอร์จะพ่ายแพ้ และพวกเขาก็จะได้กลับไปเยอรมนี
พวกเขาคอยติดตามข่าวสารทางวิทยุ
ครอบครัวแฟรงค์ยังคงทำตัวตามปกติ พวกเขาไปเที่ยวพักผ่อนยังต่างเมือง และไปอีกหลายๆ ที่
2
ครอบครัวแฟรงค์ต่างหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นและได้กลับเยอรมนี
แต่ความหวังของพวกเขาจะเป็นจริงหรือไม่ ติดตามได้ในตอนหน้านะครับ
โฆษณา