1 ก.พ. 2020 เวลา 04:54 • ประวัติศาสตร์
ปราสาทเอดินบะระ ปราสาทอันทรงคุณค่ากับเรื่องเล่าสยองขวัญ
ปราสาทเอดินบะระ (Edinburgh) ตั้งอยู่บนยอดเขาคาสเซิลร็อก (Castle Rock) ที่ความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 135 เมตร และตั้งอยู่ใจกลางเมืองเอดินบะระ ประเทศสกอตแลนด์
ปัจจุบัน ปราสาทแห่งนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวและจุดชมวิวสำคัญซึ่งเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือน
ปราสาทแห่งนี้ สร้างขึ้นในช่วงคริสตศตวรรษที่ 12 และด้วยอายุอันเก่าแก่ขนาดนี้ จึงทำให้เกิดเรื่องราวมากมายและทรงคุณค่าต่อประวัติศาสตร์ของสกอตแลนด์
ปราสาทเอดินบะระ เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์และราชินีองค์สำคัญ เคยเป็นป้อมปราการและฐานที่มั่นทางทหาร อีกทั้งยังเคยเป็นที่คุมขังนักโทษทางสงครามทำให้นอกจากการชมทิวทัศน์อันงดงาม ผู้มาเยือนยังจะได้สัมผัสกับกลิ่นของประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ไปด้วย
ปราสาทแห่งนี้ มีทั้งตัวอาคารและห้องที่น่าสนใจอยู่หลายส่วน อย่างเช่น ห้องโถงใหญ่ (Great Hall) เป็นห้องโถงสำหรับพระราชพิธีต่างๆ และยังเคนเป็นห้องประชุมของสมาชิกรัฐสภาสกอตแลนด์ จนถึงปี ค.ศ.1639 ห้องแห่งนี้มีความโดดเด่นอยู่ตรงหลังคาโครงขื่อเต้า (เป็นหลังคาทรงสูงโปร่งเปิดโล่งให้เห็นโครงสร้างที่ใช้ไม้เป็นตัวค้ำยัน เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบกอทิก) นอกจากนี้ยังมีการยิงปืนใหญ่ที่เรียกว่าปืนเที่ยง (one o'clock gun) ซึ่งผู้ที่มาชมปราสาทมักจะเฝ้ารอชมการยิงปืนใหญ่เสียงดังเพื่อบอกเวลาบ่ายโมงของทุกวัน
เท่าที่อ่านมาแล้วดูจะเป็นเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ใช่ไหม ยังไม่เห็นมีความสยองเลยสักนิด อ่านกันต่อเลย เพราะเรื่องสยองจะมาหลังจากนี้แหละทุกคน
เรื่องสยองของปราสาทเอดินบะระ
เพราะด้วยความเก่าแก่ของตัวปราสาทนี้เอง และยังเคยมีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นอยู่มากมาย จึงมีเสียงลือกันเกี่ยวกับผีสาง และวิญญาณที่ยังคงวนเวียนไม่ไปไหน เช่น วิญญาณหญิงสาวที่ตายโดยการถูกจับมัดกับเสาและเผาบนลานโล่งของปราสาทด้วยเพราะเหตุผลที่ว่าเธอเป็นแม่มด หรือวิญญาณของบรรดานักโทษผู้ถูกจองจำไว้ และที่กล่าวขวัญกันเป็นอย่างมากคือวิญญาณของเด็กชายมือกลองวัย 5 ขวบ เขาเป็นนักโทษอายุน้อยที่สุดของที่นี่และเป็นวิญาณไร้หัว หรือเรื่องเล่าจากนักท่องเที่ยวบางคนที่ไปเยือนปราสาทแห่งนี้บอกเล่าว่า ขณะที่เดินอยู่ในปราสาทนั้นรู้สึกเหมือนมีใครมาดึงเสื้อแต่ก็มองไม่เห็นว่าใคร
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา