4 ก.พ. 2020 เวลา 02:20
05 - การบินและประเภทห้วงอากาศ
Flight and Airspace Classification
การที่ ATC จะให้บริการอะไร/อย่างไร กับอากาศยานในห้วงอากาศควบคุมต่าง ๆ นั้น นอกจากจะขึ้นอยู่กับประเภทของห้วงอากาศควบคุม ตามที่กล่าวไว้ในบทที่ 04 แล้วนั้น อีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการให้บริการ คือ วิธีการทำการบิน
โดยหลักการบินเบื้องต้น นักบินจะทำการบินโดยอาศัยแผนที่และมองเทียบจุดสังเกตในธรรมชาติ หรือสิ่งปลูกสร้าง ที่หมายเด่นในภูมิประเทศระหว่างการเดินทาง ซึ่งการทำการบินในลักษณะนี้ เราเรียกว่า ‘การบินด้วยวีเอฟอาร์’ (Visual flight rule - VFR flight) ซึ่งหมายถึง การบินที่ดำเนินการตามกฏการบินด้วยทัศนวิสัย ซึ่งการบินในลักษณะนี้จะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศที่ต้องเหมาะสมในการทำการบินเท่านั้น นอกจากนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับประเภทหรือขนาดเครื่องบิน เพราะในบางกรณีนักบินพาณิชย์ก็สามารถทำการบินในลักษณะนี้ได้เช่นเดียวกัน
ในขณะที่หากการบินดำเนินไปด้วยอุปกรณ์นำทางหรือช่วยบินต่าง ๆ ที่ติดตั้งอยู่บนเครื่องบินแล้ว เราจะเรียกว่า ‘การบินด้วยไอเอฟอาร์’ (Instrument flight rule - IFR flight) ซึ่งหมายถึง การบินที่ดำเนินการตามกฏการบินด้วยเครื่องวัดประกอบการบิน การบินด้วยไอเอฟอาร์สามารถทำการบินได้ในทุกสภาพอากาศ
ตามที่กล่าวไว้ในเบื้องต้นว่า Controlled Airspace หมายถึง ห้วงอากาศนับจากบนพื้นและในอากาศ ที่มีการควบคุม โดยห้วงอากาศนี้จะมีการกำหนด เป็นความกว้าง (รัศมี) ของห้วงอากาศ ความสูงของห้วงอากาศ ในบางครั้งอาจจะมีการแบ่งออกเป็นชั้น ๆ โดยในแต่ละชั้น ก็จะมีความสูงและความกว้างที่แตกต่างกัน และจะซ้อนกันเป็นชั้น พื้นที่เหล่านี้จะถูกควบคุมโดย ATC ซึ่งจะคอยให้บริการและควบคุมเครื่องบินในพื้นที่ของตนที่ได้รับมอบหมาย ห้วงอากาศควบคุมนี้ จะมีการจัดแบ่งออกเป็น Class A, Class B, Class C, Class D, และ Class E นอกจากนี้ยังมีห้วงอากาศ ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มของ class ที่กล่าวมาแล้ว ก็คือ Class G เป็นห้วงอากาศที่ไม่มีการควบคุม
Class A เป็นห้วงอากาศ ตั้งแต่ 18,000 Feet. MSL (mean sea level - ระดับน้ำทะเลปานกลาง) ขึ้นไปจนกระทั่งถึง 60,000 Feet. MSL ห้วงอากาศที่อยู่ใน Class A เครื่องบินที่บินเข้าห้วงอากาศนี้จะต้องบินด้วย ‘การบินด้วยไอเอฟอาร์’ เท่านั้น จึงเป็นห้วงอากาศที่ใช้ในการเดินทางของเครื่องบินพาณิชย์ (en route phase of flight) โดย ATC จะให้บริการในการควบคุมระยะห่างระหว่างเครื่องบินที่การบินด้วยไอเอฟอาร์ด้วยกัน
Class B เป็นห้วงอากาศที่เรียกว่า terminal control airspace-TCA เป็นห้วงอากาศตั้งแต่ 10,000 feet MSL ของสนามบินขนาดใหญ่ ที่มีการจราจรคับคั่ง Class B จะมีลักษณะรูปร่างคล้ายเค้กแต่งงานคว่ำ มีหลายชั้น คือ มีตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไป ในแต่ละชั้นจะมีความกว้างและสูงไม่เท่ากัน โดยชั้นบนสุดจะมีความกว้างมากที่สุด เมื่อเราต้องการจะเข้าพื้นที่ ใน class B เราจะต้องทำตามข้อกำหนด ต่อไปนี้
เครื่องบินที่เข้าห้วงอากาศ Class B จะต้องมีอุปกรณ์ (ที่ใช้งานได้) ดังนี้ คือ เครื่องวิทยุสื่อสารสองทาง โดยตั้งความถี่ ของ ATC พื้นที่นั้น ๆ เครื่องรับ VOR และ Transponder นอกจากนั้นนักบินที่จะบินเข้าห้วงอากาศ รวมถึงบินผ่านห้วงอากาศ การวิ่งขึ้นและร่อนลง ที่สนามในห้วงอากาศ จะต้องมีใบอนุญาตนักบินพลเรือน (private pilot certificate) หรืออย่างน้อยก็ต้องมีใบอนุญาตนักเรียนฝึกหัดที่ได้รับอนุญาต
เมื่ออยู่ใน Class B เครื่องบินทุกลำจะได้รับขั้นตอนในการปฏิบัติจาก ATC ที่จะให้บริการในการควบคุมระยะห่างระหว่างเครื่องบินทุกลำ ทั้งที่การบินด้วยไอเอฟอาร์และวีเอฟอาร์ นักบินสายการบินจะปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เนื่องจากเป็นห้วงอากาศเหนือสนามบินที่มีการจราจรคับคั่ง
Class C เป็นห้วงอากาศที่มีการควบคุมเหนื่อสนามบินที่แออัดน้อยกว่า Class B อาจเป็นห้วงอากาศการใช้งานร่วมกันระหว่างพลเรือนกับทหาร ATC ที่จะให้บริการในการควบคุมระยะห่างระหว่างเครื่องบินที่การบินด้วยไอเอฟอาร์กับวีเอฟอาร์ รวมทั้งระยะห่างระหว่างเครื่องบินที่การบินด้วยวีเอฟอาร์กับวีเอฟอาร์ ดังนั้นเครื่องบินที่เข้าห้วงอากาศนี้จะต้องมีอุปกรณ์ (ที่ใช้งานได้) ดังนี้ คือ เครื่องวิทยุสื่อสารสองทางและ Transponder โดยนักบินสายการบินจะปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
Class D and Class E เป็นห้วงอากาศที่มีการควบคุมสำหรับสนามบินขนาดเล็กลงตามลำดับ ทั้งสนามบินที่มีและไม่มี air traffic control tower ใน Class E ซึ่งเป็นห้วงอากาศที่มักมีขนาดใหญ่ ATC ที่จะให้บริการในการควบคุม
ระยะห่างระหว่างเครื่องบินที่การบินด้วยไอเอฟอาร์กับไอเอฟอาร์เท่านั้น สำหรับเครื่องบินที่การบินด้วยวีเอฟอาร์จะได้รับคำแนะนำ/คำเตือนเฉพาะเมื่อมีเครื่องบินที่การบินด้วยไอเอฟอาร์เข้ามาใกล้ แต่เป็นภาระต้องรักษาระยะห่างระหว่างเครื่องบินของตนกับเครื่องอื่น ๆ เอง
สุดท้ายเป็นห้วงอากาศชนิดพิเศษ - Special use airspace เป็นพื้นที่ที่มีการใช้งาน ในภาระกิจพิเศษบางอย่าง ได้แก่ Prohibited areas, restricted areas, warning areas, military operations areas, national security areas, และ alert areas เป็นพื้นที่ที่ถูกแสดงอยู่ใน AIP
โฆษณา