10 ก.พ. 2020 เวลา 04:07 • ประวัติศาสตร์
“จอห์น เอฟ. เคนเนดี (John F. Kennedy) ประธานาธิบดีผู้ครองใจอเมริกันชน” ตอนที่ 1
“แจ๊ก” เด็กขี้โรค
จอห์น เอฟ. เคนเนดี (John F. Kennedy) เป็นหนึ่งในประธานาธิบดีที่โดดเด่นที่สุดในสหรัฐอเมริกา และเป็นหนึ่งในประธานาธิบดีที่คนไทยรู้จักมากที่สุดคนหนึ่ง
เรื่องราวของเขามีหลายแง่มุมที่น่าสนใจและน่าศึกษา
ซีรีย์ชุดนี้จะเป็นเรื่องของเขาครับ
จอห์น เอฟ. เคนเนดี (John F. Kennedy) เกิดในวันที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ.1917 (พ.ศ.2460) ที่แมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา
เคนเนดี้ในวัยทารก
พ่อของเขาคือ “โจเซฟ พี. เคนเนดี ซีเนียร์ (Joseph P. Kennedy Sr.)” นักธุรกิจชาวอเมริกันเชื้อสายไอร์แลนด์ ส่วนแม่ของเขาคือ “โรส เคนเนดี้ (Rose Kennedy)” ลูกสาวนายกเทศมนตรีเมืองบอสตัน
โจเซฟ พี. เคนเนดี ซีเนียร์ (Joseph P. Kennedy Sr.)
โรส เคนเนดี้ (Rose Kennedy)
ครอบครัวของพ่อและแม่ของเขานั้นย้ายมาจากไอร์แลนด์มาเป็นเวลานานแล้ว และทั้งสองครอบครัวก็ประสบความสำเร็จ สามารถสร้างรากฐานที่มั่นคงในสหรัฐอเมริกา
จอห์นหรือที่คนในครอบครัวเรียกว่า “แจ๊ค (Jack)” เป็นลูกคนที่สองในบรรดาลูกๆ เก้าคนของโจเซฟและโรส โดยพวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านหรูในบรู๊คลิน ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ไม่ห่างจากบอสตัน
ขณะที่แจ๊คอายุได้สองขวบ เขาได้ป่วยเป็นไข้อีดำอีแดง ซึ่งร้ายแรงมาก และโรสก็ต้องแยกจากแจ๊ค ไม่สามารถดูแลได้เต็มที่ คอยดูอยู่ห่างๆ เนื่องจากอาจจะติดโรค
แจ๊คนั้นคิดถึงและอยากอยู่ใกล้โรส แต่ในเมื่อทำไม่ได้ พี่เลี้ยงของเขาจึงเล่านิทานให้เขาฟัง ซึ่งทำให้แจ๊คคลายเหงาได้บ้าง แต่ด้วยพิษไข้ ทำให้เขาฟังแทบไม่รู้เรื่อง
ก่อนที่พี่เลี้ยงจะเล่านิทานจบ แจ๊คมักจะกอดตุ๊กตาหมีและผลอยหลับไป
แต่อาการของแจ๊คก็ไม่ดีขึ้นเลย ทำให้พ่อและแม่ของเขาต้องพาเขาไปโรงพยาบาล ซึ่งแจ๊คก็ต้องใช้เวลาอยู่ในโรงพยาบาลหลายสัปดาห์
ถึงแม้แจ๊คจะรอดมาได้ แต่เขาก็กลายเป็นเด็กขี้โรค ป่วยง่าย เจ็บป่วยอยู่บ่อยๆ
แจ๊คมักจะล้มป่วยและต้องนอนพักรักษาตัวเป็นเวลานาน เขาจึงมักจะอ่านหนังสือเพื่อให้หายเบื่อ โดยเขาจะอ่านทีละเล่มไปเรื่อยๆ โดยเรื่องโปรดของเขาคือเรื่อง “กษัตริย์อาเธอร์กับอัศวินโต๊ะกลม (King Arthur and His Knights of the Round Table)” ซึ่งเป็นเรื่องของกษัตริย์และอัศวิน
กษัตริย์อาเธอร์กับอัศวินโต๊ะกลม (King Arthur and His Knights of the Round Table)
ช่วงเวลาที่เขาไม่ป่วยนั้น แจ๊คพยายามที่จะเป็นเหมือนพี่ชายของเขา
“โจเซฟ พี. เคนเนดี จูเนียร์ (Joseph P. Kennedy Jr.)” พี่ชายของแจ๊คนั้นเป็นเหมือนด้านตรงข้ามของแจ๊คทุกอย่าง
โจ จูเนียร์นั้นตัวสูงกว่าแจ๊ค หัวดีกว่า แข็งแรงกว่า เรียกได้ว่าดีกว่าแจ๊คทุกอย่าง
โจเซฟ พี. เคนเนดี จูเนียร์ (Joseph P. Kennedy Jr.)
แจ๊คต้องการจะเอาชนะโจ จูเนียร์ แต่จะทำยังไงล่ะ?
แจ๊ครู้ดีว่าพ่อของเขานั้นชอบและยกย่องผู้ชนะ ในตระกูลเคนเนดี้ไม่มีที่ว่างสำหรับผู้แพ้หรือลูกแหง่ ดังนั้นเพื่อทำให้พ่อพึงพอใจ แจ๊คจึงเอาจริงเอาจังในการที่จะชนะในทุกๆ เรื่อง ต่อให้อันตรายก็ไม่สน
ครั้งหนึ่ง โจ จูเนียร์ท้าแจ๊คแข่งจักรยาน แต่ไม่ใช่แข่งจักรยานแบบธรรมดาๆ
โจ จูเนียร์และแจ๊คจะขี่จักรยานไปคนละทาง เป็นวงกลม แต่จะวนกลับมาเจอกัน โดยทั้งจักรยานของโจ จูเนียร์และแจ๊คจะพุ่งเข้าหากัน หากใครกลัวและหลบก่อน คนนั้นจะเป็นผู้แพ้
โจ จูเนียร์มั่นใจว่าแจ๊คต้องกลัวและรีบหลบก่อนแน่ๆ แต่เขาคิดผิด
แจ๊คนั้นมุ่งมั่นจะเอาชนะ เมื่อปั่นมาเจอโจ จูเนียร์ แจ๊คไม่ยอมหลบ และจักรยานของสองพี่น้องก็ได้พุ่งชนกัน ซึ่งในการแข่งครั้งนี้ แจ๊คต้องเย็บถึง 28 เข็ม แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้เด็ดขาด
โจเซฟและแจ๊คกับโจ จูเนียร์
แต่ไม่ว่ายังไง ดูเหมือนว่าแจ๊คจะไม่สามารถทำให้พ่อแม่พอใจได้เลย
โรสนั้นไม่ค่อยอยู่ดูแลลูก เธอมักจะเดินทางไปยุโรปเพื่อติดตามแฟชั่นใหม่ๆ นอกจากนั้น โรสยังมักจะดุแจ๊ค เนื่องจากแจ๊คนั้นมักจะเนื้อตัวเลอะเทอะมอมแมม แต่งตัวก็ไม่เรียบร้อย เสื้อผ้าหลุดรุ่ยจากการเล่นซน และแจ๊คยังมักจะมากินข้าวช้ากว่าคนอื่นๆ
ขณะที่แจ๊คอายุได้ห้าขวบ โรสก็ได้ออกเดินทางไปแคลิฟอร์เนียกับน้องสาวเป็นเวลาถึงสามสัปดาห์
ต่อมา แจ๊คได้พูดถึงแม่ว่า
“แม่ของผมไม่เคยอยู่ข้างๆ ในเวลาที่พวกเราต้องการ แม่ไม่เคยอุ้มหรือกอดผมเลย”
แจ๊คและโรส
โจเซฟ พ่อของแจ๊คนั้นเป็นคนที่สนุกสนานกว่าโรส
ค.ศ.1929 (พ.ศ.2472) ขณะที่แจ๊คมีอายุได้ 12 ปี โจเซฟได้ซื้อบ้านพักตากอากาศสุดหรูในแมสซาชูเซตส์ โดยตัวบ้านนั้นอยู่ติดชายหาด และมีทั้งสนามเทนนิสส่วนตัวและสระว่ายน้ำ
โจเซฟจ้างผู้เชี่ยวชาญในการออกกำลังกายมาสอนเด็กๆ และจัดให้มีการแข่งขันว่ายน้ำ และยังมักจะเล่นกลางแจ้งกันแทบจะทั้งวัน
บ้านพักตากอากาศของครอบครัวเคนเนดี้
โจเซฟ พ่อของแจ๊คนั้นเป็นนักธุรกิจที่เก่งและทำให้ตระกูลเคนเนดี้มั่งคั่ง
โจเซฟเรียนจบจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในปีค.ศ.1912 (พ.ศ.2455) และก็เข้าสู่ธุรกิจการธนาคาร
ค.ศ.1914 (พ.ศ.2457) ขณะมีอายุได้เพียง 25 ปี โจเซฟก็ได้เป็นหนึ่งในประธานธนาคารที่อายุน้อยที่สุดในสหรัฐอเมริกา
โจเซฟในวัยหนุ่ม
นอกจากนั้น โจเซฟยังเริ่มลงทุนในตลาดหุ้น และก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก จากนั้น เขาก็เริ่มลงทุนซื้อขายที่ดิน ก่อนที่จะมุ่งเข้าสู่ธุรกิจบันเทิง ลงทุนในสตูดิโอภาพยนตร์ในฮอลลีวู้ด
นอกจากนั้น เขายังทำเงินได้มหาศาลจากการค้าเหล้า และก็มีข่าวลือว่าเขาค้าเหล้าเถื่อน โดยโจเซฟได้ทำการค้าเหล้าในเวลาที่สหรัฐอเมริกาห้ามค้าเหล้าในช่วงค.ศ.1920-1933 (พ.ศ.2463-2476)
แต่ถึงโจเซฟจะรวยแค่ไหนก็ตาม แต่เหล่าตระกูลเก่าแก่ในบอสตัน ผู้ดีต่างๆ ก็ยังคงดูถูกและไม่ให้ความนับถือโจเซฟมากนัก
ส่วนหนึ่งก็เพราะคนส่วนมากมองว่าโจเซฟเป็นแค่ผู้อพยพจากไอร์แลนด์ อีกทั้งหลายคนยังมองว่าโจเซฟนั้นมีบุคลิกที่หยาบ โผงผาง
ที่สำคัญ ตระกูลเก่าแก่ในบอสตันล้วนแต่เป็นโปรเตสแตนท์ แต่ชาวไอริชเป็นคาทอลิก
เมื่อเป็นอย่างนี้ โจเซฟจึงทำงานหนัก ไม่เพียงแค่เพราะต้องการจะร่ำรวย แต่ต้องการจะเอาชนะความคิดด้านลบที่คนส่วนใหญ่มีต่อเขาและครอบครัว
โจเซฟต้องการให้ลูกๆ ได้สิ่งที่ดีที่สุด และต้องเป็นผู้ชนะ
โจเซฟตั้งใจที่จะตอกหน้าเหล่าผู้ดีบอสตันว่าเขาทำได้ ชาวไอริชนั้นไม่ได้กระจอก และตระกูลเคนเนดี้จะต้องยิ่งใหญ่
ชีวิตของแจ๊คจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามได้ในตอนหน้าครับ
โฆษณา