“จอห์น เอฟ. เคนเนดี (John F. Kennedy) ประธานาธิบดีผู้ครองใจอเมริกันชน” ตอนที่ 3
วีรบุรุษสงครามและการเข้าสู่การเมือง
ทั้งแจ๊คและโจ จูเนียร์ต่างต้องการจะเข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่สอง
โจ จูเนียร์นั้นได้เข้าประจำการ เป็นนักบินทหารเรือ ส่วนแจ๊คนั้น ด้วยความที่สุขภาพของเขาไม่ค่อยดีนัก ทำให้เขาไม่ผ่านการตรวจสุขภาพ
แต่แจ๊คก็ไม่ยอมแพ้ เขาพยายามจนได้เข้าประจำการในกองทัพเรือ
ค.ศ.1943 (พ.ศ.2486) ร้อยโทจอห์น เอฟ เคนเนดี้ได้รับคำสั่งให้ควบคุมเรือ “PT-109” ซึ่งเป็นเรือลาดตระเวนในมหาสมุทรแปซิฟิก
PT-109
เรือ Pt-109 มีขนาดเล็กและสั้น และหลายคนก็คิดว่ามันเหมาะสำหรับทำภารกิจในเวลากลางคืน แต่หลายคนก็ไม่เห็นด้วย เนื่องจากมันดูไม่แข็งแรง
ภายหลังจากออกลาดตระเวนเป็นเวลากว่าห้าเดือน เรือลำนี้ก็ได้ถูกเรือรบญี่ปุ่นโจมตี ทำให้ทหารเสียชีวิตสองนาย ส่วนอีก 11 นายก็ต้องเกาะอยู่กับซากเรือ
เมื่อเวลาเช้ามาถึงและซากเรือเริ่มจะจม แจ๊คจึงสั่งให้ลูกเรือว่ายน้ำไปยังเกาะที่อยู่ใกล้ๆ
หนึ่งในทหารประจำเรือคือ “แพททริก แม็คมาฮอน (Patrick McMahon)” ได้รับบาดเจ็บ ถูกไฟคลอกหนัก
แจ๊คปฏิเสธที่จะทิ้งให้แม็คมาฮอนตายเพียงลำพัง เขาจับแม็คมาฮอนไพล่หลังของเขา จากนั้นก็ใช้ปากกัดสายเสื้อชูชีพของแม็คมาฮอนและว่ายน้ำไปยังเกาะใกล้เคียง
เมื่อมาถึงเกาะใกล้เคียง แจ๊คก็ได้ดื่มน้ำทะเลไปมากและเหนื่อยจนสลบไป
ต่อมา แจ๊คได้ขอความช่วยเหลือด้วยการแกะสลักข้อความขอความช่วยเหลือลงบนเปลือกมะพร้าว และขอให้ชาวเกาะช่วยนำไปส่งยังเกาะอื่น และแจ๊คก็ได้รับความช่วยเหลือในอีกหกวันต่อมา
แจ๊คถูกส่งกลับบ้าน การรบทำให้อาการบาดเจ็บที่หลังของเขานั้นแย่ลง อีกทั้งเขายังติดไข้มาลาเรียมาอีกด้วย
แต่ผลงานของแจ๊คก็ทำให้เขาได้รับยกย่องและได้เหรียญกล้าหาญในปีค.ศ.1944 (พ.ศ.2487)
แต่ในเดือนสิงหาคม ค.ศ.1944 (พ.ศ.2487) ภายหลังจากที่แจ๊คกลับมาไม่นาน ความสุขของครอบครัวเคนเนดี้ก็ต้องสลาย
โจ จูเนียร์ได้เสียชีวิตจากเครื่องบินตก ขณะที่กำลังปฏิบัติภารกิจ
ถึงแม้ว่าแจ๊คและโจ จูเนียร์จะเป็นคู่แข่งกัน แต่พวกเขาก็เป็นพี่น้องกันอีกด้วย
ทั้งแจ๊คและโจ จูเนียร์มีสายสัมพันธ์ที่ตัดกันไม่ขาด ทั้งคู่รู้ดีว่าการเป็นลูกของโจเซฟ เคนเนดี้นั้นเป็นยังไง
โจ จูเนียร์
ภายหลังจากโจ จูเนียร์เสียชีวิต โจเซฟจึงได้ทุ่มเทความหวังทั้งหมดมาลงที่แจ๊ค
โจเซฟต้องการให้ลูกชายคนโตเป็นประธานาธิบดี ประธานาธิบดีคนแรกที่เป็นคาทอลิก
และในเมื่อตอนนี้โจ จูเนียร์ไม่อยู่แล้ว คนที่ต้องมาแบกรับความคาดหวังนี้คือแจ๊ค
แจ๊คเองก็ทราบดีว่าพ่อของตนนั้นต้องการให้ตนลงเลือกตั้ง
ที่จริงแล้ว ที่ผ่านมานั้นแจ๊คคิดมาตลอดว่าจะทำงานเป็นศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยหรือไม่ก็เป็นนักเขียน
แต่ความกดดันจากพ่อ การตายของโจ จูเนียร์ และประสบการณ์จากช่วงสงครามโลกครั้งที่สองได้เปลี่ยนความคิดของแจ๊ค
ค.ศ.1946 (พ.ศ.2489) แจ๊คได้ตัดสินใจลงเลือกตั้งสมาชิกสภาในนามของพรรคเดโมแครต ซึ่งที่จริงแล้ว คำว่า “ตัดสินใจ” อาจจะไม่ถูกต้องนัก
แจ๊คกล่าวในภายหลังว่า
“ผมรู้สึกเหมือนถูกเกณฑ์ทหาร พ่อของผมต้องการให้ลูกชายคนโตลงการเมือง “ต้องการ” อาจจะไม่ใช่คำที่ถูกต้องนัก แต่เขา “บัญชา” “
แจ๊คหวังว่าจะชนะเลือกตั้ง ได้เป็นสมาชิกสภาของบอสตันเขต 11 ซึ่งเขาก็ชนะคู่แข่งคนอื่นๆ และได้เป็นสมาชิกสภา
แจ๊คได้ย้ายเข้าไปอยู่ในอพาร์ทเม้นท์เล็กๆ ในบอสตัน ซึ่งเขต 11 ที่แจ๊คชนะการเลือกตั้งนั้น ก็เป็นชุมชนคนงานหาเช้ากินค่ำ
ในตอนแรก ไม่มีใครคิดว่าแจ๊คจะชนะ เขาดูไม่เหมือนนักการเมืองเท่าไร เขาพูดสปีชไม่ค่อยดี เวลาพูดก็มักจะหยุดบ่อยๆ ไม่ค่อยมั่นใจ
แต่แจ๊คก็พยายามจะเอาชนะใจประชาชน เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปเยี่ยมประชาชนตามท่าเรือ ร้านตัดผม ร้านขายของชำ และหลายๆ ที่
แจ๊คนั้นรับฟังเรื่องราวและคำบ่นของประชาชน แต่บางคนก็คิดว่าแจ๊คนั้นรวยเกินกว่าที่จะมาเข้าใจพวกเขา มาเป็นตัวแทนของพวกเขาได้ แจ๊คนั้นมาจากครอบครัวเศรษฐี การศึกษาดี อยู่บ้านหลังใหญ่ แจ๊คจะมาเข้าใจพวกเขาได้ยังไงล่ะ?
แจ๊คได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า
“ผมมีหน้าที่ในฐานะของลูกคนรวย ที่จะต้องช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อน”
ครั้งหนึ่ง แจ๊คได้พูดกับกลุ่ม “Gold Star Mothers” ซึ่งเป็นกลุ่มของแม่ที่สูญเสียลูกในสงครามโลกครั้งที่สอง
แจ๊คกล่าวถึงความเสียสละของผู้กล้าหลายคนในสงคราม ความจำเป็นของสันติภาพ และความรับผิดชอบของผู้ที่รอดชีวิต
แจ๊คได้พูดปิดท้ายว่า
“ผมว่าผมเข้าใจดีว่าคุณแม่ทั้งหลายรู้สึกยังไง แม่ของผมเองก็เป็น Gold Star Mothers เหมือนกันนะ”
เหล่าสตรีที่มาฟังสปีชของแจ๊คต่างรู้สึกซาบซึ้ง และรู้สึกปลื้มแจ๊ค หลายคนบอกว่าแจ๊คทำให้พวกเธอคิดถึงลูกชาย
แจ๊คได้ลงเลือกตั้งเพื่อจะเข้าไปทำงานในรัฐสภา โดยเขาได้สัญญาว่าจะให้ทุกคนมีงานทำ มีที่อยู่อาศัย การรักษาพยาบาล และสวัสดิการต่างๆ
นโยบายของแจ๊คก็ไม่ได้แตกต่างจากคนอื่นๆ แต่แจ๊คมาจากตระกูลเคนเนดี้ซึ่งร่ำรวยและมีเส้นสาย อีกทั้งแจ๊คก็ยังเป็นวีรบุรุษสงคราม
ครอบครัวของแจ๊คได้ลงมาช่วยหาเสียงและในที่สุด แจ๊คก็ชนะการเลือกตั้ง
มกราคม ค.ศ.1947 (พ.ศ.2490) แจ๊คได้ย้ายไปยังวอชิงตันดีซีเพื่อเริ่มทำงานในรัฐสภาสหรัฐ
ชีวิตของแจ๊คเริ่มจะรุ่งโรจน์และเข้ามาในวงการเมืองระดับชาติแล้ว ชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป
ติดตามได้ในตอนหน้านะครับ
- 9
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
