Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
From Fat to Fit
•
ติดตาม
15 ก.พ. 2020 เวลา 05:57 • สุขภาพ
วันที่ผมต้องผ่าตัดบายพาสหัวใจ…ยังจำได้แม่นยำเหมือนมันพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้
วันที่ 6 มิถุนายน 2561 มันเป็นเวลาช่วงสายๆของวันทำงานที่ผมก็ออกเดินตรวจสายการผลิตกับทีมงาน อากาศก็ร้อนๆประสาประเทศเมืองการร้อนอย่างประเทศไทย
แต่การเดินครั้งนี้ต่างจากการเดินตรวจงานที่ผ่านๆมาเพราะผมรู้สึกเหนื่อยกว่าปกติ ตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจจาก Smart watch คู่กายก็พบว่าการเต็นของหัวใจอยู่ที่ 120-130 ครั้งต่อนาที ซึ่งคิดในใจว่าคล้ายๆคนวิ่งเยาะๆแล้วน่ะเนี่ย เหมือนระฆังหมดยกมาช่วยไว้…สัญญาณบอกเวลาพักของสายการผลิตดังขึ้น แต่ก็พูดเปรยๆน้องที่เดินไปด้วยกันว่า “วันนี้เดินแล้วเหนื่อยๆ สงสัยตอนบ่ายจะไปหาหมอดีกว่า”
จังหวะชีวิตก็ยังเดินไปตามปกติเหมือนเดิมคือ ขับรถไปทานข้าวกลางวันกับเพื่อน
ร่วมงาน อาหารที่ทานก็เป็นเกาเหลาหมูตุ๋นเจ้าประจำ จากนั้นก็กลับเข้ามาเพื่อทำงานในช่วงบ่าย เดินลงจากรถ เดินขึ้นไปออฟฟิตซึ่งอยู่ชั้น 2 พอนั่งที่โต๊ะทำงาน สิ่งที่ผมรู้สึกคือ อาการแน่นๆที่ช่วงกลางหน้าอก แน่นๆแถวลิ้นปี่ไปถึงตอหอย แต่ไม่ได้มีอาการเจ็บแปลบที่อกแต่อย่างใด อาการแน่เหมือนทานอาหารอิ่มเกินไป คล้ายๆการแน่นๆของอาหารกรดไหลย้อนครับ อีกแวบหนึ่งของความคิดก็เกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่า “เฮ้ย…เราก็เป็นคนออกกำลังกายตลอด เราก็วิ่ง 5 กิโลเมตรประจำ เมื่อวันก่อนที่ไปวิ่งมาก็ไม่เห็นมีอาการแน่ๆหน้าอกอะไรนี้หว่า”
สมองผมประมวลผลแปลความออกมาว่า มันน่ามีอะไรผิดปกติผมรีบหาข้อมูลจาก อากู๋เลยครับโดยใช้คีย์เวริ์ท “สัญญาณโรคหัวใจ” ผมเลือกเข้าไปดูที่มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ก็เลย หนึ่งในบทความยอดนิยมที่คลิกเข้าออกเลยคือ “5 สัญญาณโรคหัวใจ รู้ไว้ก่อนปลอกภัยต่อชีวิต” ดังนี้
1. อาการแน่นหน้าอกตรงกลาง หรือจุกใต้ลิ้นปี่ร้าวไปถึงไหล่ คอสะบักหลัง คอหอย หรือกราม
2. อาการใจสั่น หัวใจเต้นรัว หัวใจเต้นผิดจังหวะ
3. อาการเป็นลมหมดสติ
4. อาการเจ็บหย้าอกคล้ายถูกมีดแทงหรือมีอาการเจ็บแปลบๆ
5. อาการเหนื่อยหอบ นอนราบไม่ได้
โดยตอนท้ายของบทความบอกว่า “ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นคร่าวๆ เป็นแนวทางให้ผู้อ่านรู้จักการดูแลตัวเอง และผู้ใกล้ชิด ซึ่งรายละเอียดของแต่ละอาการนั้น เราจะเจาะลึกในบทตวามต่อๆไป ถ้ามีอาการดังกล่าว หรือไม่แน่ใจ ให้ไปปรึกษา และตรวจรักษากับอายุแพทย์ หรืออายุแพทย์โรคหัวใจ”
thaiheartfound.org
5 สัญญาณโรคหัวใจ รู้ไว้ก่อนปลอดภัยต่อชีวิต...
สำหรับโรคหัวใจแล้ว หลังส่งสัญญาณแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็อาจมีอันตรายถึงชีวิต ...
แค่อ่านข้อที่หนึ่งก็โดนแล้วครับ ถึงแม้อาการผมจะไม่ได้ครบทุกอาการแต่สิ่งที่ร่างกายกำลังบอกคือ อาการแน่นๆที่ช่วงกลางหน้าอก แน่นๆแถวลิ้นปี่ มันใช่เลยนี้หว่า… ปิดคอมพิวเตอร์ เก็บของใส่แบ๊คแพคและบอกเพื่อนร่วมงานว่า ผมจะไปโรงพยาบาลน่ะครับ สตาร์ทรถและขับรถจากจังหวัดอยุธยา มุ่งหน้าไปโรงพยาบาลที่ใช้บริการประจำในกรุงเทพฯ ระหว่างขับรถผมก็ประเมินอาการตัวเองไปด้วย อาการแน่นที่กลางหน้าอกยังคงมีอยู่ครับแต่อาการไม่ได้แน่นมากขึ้น น่าจะขับไว้ค่อยๆขับประคองไป ใช้เวลาประมาณ หนึ่งชั่วโมงนิดๆผมก็ถึงโรงพยาบาล (โชคดีที่รถไม่ต่อยติด) ถึงโรงพยาบาลก็แจ้งอาการปุ๊บ คุณพยาบาลส่งตัวไปศูนย์หัวใจทันทีค คุณหมอให้ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram หรือ Electrocardiography: ECG*) ก่อนเลยครับ ตามต่อด้วยการตรวจหัวใจด้วยคลื่นความถี่สูง (Echocardiogram: Echo)**
มาถึงจุดนี้…คุณพอจะนึกออกใช่ไหมครับว่า คลื่นแห่งคำถามมากมายได้ถาโถมเข้าในหัวผมมากมายขนาดไหน เราเป็นโรคหัวใจใช่ไหม จะเป็นมากไหม ต้องผ่าตัดไหม ค่าใช้จ่ายจะมากน้อยขนาดไหน ฯลฯ ระหว่างที่นั่งรอคุณหมอ
ในที่สุด…เวลานั้นก็มาถึง
คุณหมอเรียกเข้าคุยครับ อธิบายว่าคลื่นไฟฟ้าหัวใจมีความผิดปกติ จากตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Echo) พบว่าหัวใจด้านล่างเต้นช้ากว่าส่วนอื่นเล็กน้อย อีกหนึ่งวิธีในการวินิจฉัยโรคคือการสวนหัวใจ (การฉีดสีหัวใจ) *** เพื่อดูว่าหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจตีบ-ตันบ้างหรือไม่ ทางเลือกในการวินิจฉัยที่คุณหมอเสนอคือหากพบว่าไม่มีความปกติของหลอดเลือดหัวใจแต่อย่างใดก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไร แต่หากพบความผิดปกติของหลอดเลือดหัวใจก็จะได้ทำการรักษาได้ตรงอาการ
สิ่งเดียวที่ผมคิดออกตอนนี้คือ การตั้งสติเพื่อประมวล ประเมินทางเลือกและตัดสินใจแต่ก็ไม่ได้มีตัวเลือกอะไรมากมายหรอกครับ สุดท้ายผมก็ตัดสินใจที่จะเข้ารับการวินิจฉัยด้วยการสวนหัวใจ
ไว้ผมจะมาเล่าต่อน่ะครับ เ
2 บันทึก
58
13
7
2
58
13
7
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย