“จอห์น เอฟ. เคนเนดี (John F. Kennedy) ประธานาธิบดีผู้ครองใจอเมริกันชน” ตอนที่ 6 (ตอนจบ)
บทสุดท้ายของประธานาธิบดีผู้ยิ่งใหญ่
แจ๊คเป็นประธานาธิบดีเพียงสามปี และในช่วงที่เขาเป็นประธานาธิบดีนั้น เขาก็ทำผิดพลาดบ้าง แต่เขาก็พยายามจะเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น
ในเวลานั้น ได้มีการวางแผนจะโค่นล้ม “ฟิเดล คาสโตร (Fidel Castro)” หัวหน้ารัฐบาลคอมมิวนิสต์ในคิวบา
ฟิเดล คาสโตร (Fidel Castro)
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตก็ได้กลายเป็นสองขั้วอำนาจของโลก โดยสหภาพโซเวียตเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ ส่วนสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศประชาธิปไตย
แต่ละชาตินั้นต่างสะสมอาวุธ และถึงแม้จะไม่ได้มีการรบจริงๆ แต่ความตึงเครียดระหว่างสองชาติก็ได้กลายเป็นภาวะที่เรียกว่า “สงครามเย็น (Cold War)”
คิวบานั้นอยู่ไม่ไกลจากชายฝั่งฟลอริด้า และคิวบาก็เป็นประเทศคอมมิวนิสต์ที่สหรัฐอเมริกาเล็งเห็นว่าเป็นภัย
แจ๊คนั้นได้ตกลงให้บุกคิวบา โดยกองทัพได้บุกขึ้นมายังอ่าวหมู แต่ปฏิบัติการนี้ล้มเหลว ทหารกว่าพันคนถูกจับและถูกฆ่าเป็นจำนวนมาก และในฐานะประธานาธิบดี แจ๊คคือผู้ที่ต้องรับผิดชอบ
เมื่อได้ทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แจ๊คนั้นไม่นอนทั้งคืน เขาเอาแต่จ้องไปที่พื้นและโทษตัวเอง
ยุทธการนี้ทำให้สหรัฐอเมริกาดูแย่ในสายตาชาวโลก และแจ๊คก็ถูกตำหนิจากหลายประเทศ
วิกฤตการณ์ต่อมาตามมาในเช้าวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ.1962 (พ.ศ.2505)
แจ๊คกำลังกินข้าวเช้า ก่อนที่จะมีข่าวใหญ่มาถึงเขา แจ้งว่าสหภาพโซเวียตได้นำมิสไซล์มาติดตั้งในคิวบา และด้วยความที่คิวบาอยู่ใกล้ฟลอริด้ามาก นั่นหมายถึงความปลอดภัยของสหรัฐอเมริกาหายไปทันที
ที่ปรึกษาหลายคนแนะนำให้แจ๊คถล่มฐานมิสไซล์ในคิวบา แต่แจ๊คก็คิดว่าหากทำเช่นนั้น นั่นหมายถึงสงครามจะเกิดอย่างเต็มตัว
แจ๊คยังไม่ลืมความผิดพลาดในครั้งก่อน เขาต้องคิดอย่างเร็ว หากตัดสินใจพลาด นั่นหมายถึงสงครามนิวเคลียร์ และโลกทั้งโลกต้องประสบกับหายนะ
แจ๊คตัดสินใจจะสร้างกำแพงป้องกัน เขาสั่งให้เรือของสหรัฐอเมริกาจำนวน 180 ลำล่องเข้าไปในทะเลแคริบเบียน โดยเรือทั้ง 180 ลำนี้จะจอดต่อกันเป็นระยะทางกว่า 500 ไมล์ ทำให้ไม่มีเรือของสหภาพโซเวียตผ่านเข้าไปได้
เมื่อเรือของรัสเซียเข้ามาในน่านน้ำ แจ๊คและคนอื่นๆ ต่างลุ้นระทึก หากเรือรบรัสเซียโจมตี สงครามต้องเกิดแน่ๆ
แต่โชคดี เรือของรัสเซียหันหลังกลับ และในเวลาต่อมา แจ๊คก็สามารถต่อรองกับสหภาพโซเวียต โดยโซเวียตจะถอนฐานทัพมิสไซล์ออกไป และทั้งสองประเทศก็ตกลงที่จะจำกัดการทดลองระเบิดนิวเคลียร์
ปัญหาต่อมาคือเรื่องสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะเรื่องของคนผิวสี
ถึงแม้ว่าจะมีการเลิกทาสในสหรัฐอเมริกามาเป็นเวลานานแล้ว แต่คนผิวสีก็ยังไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม พวกเขาต้องอาศัยในย่านที่แยกจากคนผิวขาว โรงเรียน ร้านอาหาร โรงแรม และอีกหลายที่ก็ต้องแยกจากคนผิวขาว
แต่ในยุค 50 (พ.ศ.2493-2502) คนผิวสีได้เริ่มประท้วง โดยพวกเขาต้องการความเท่าเทียม และแจ๊คก็ได้ให้การสนับสนุน รวมทั้งให้ตำรวจคุ้มครองคนผิวสีที่เข้าเรียนในโรงเรียนคนผิวขาวและหยุดยั้งคนผิวขาวที่คิดจะประท้วง ไม่ให้คนผิวสีเข้าเรียนในโรงเรียนเดียวกับตน
ค.ศ.1963 (พ.ศ.2506) แจ๊คได้กล่าวต่อชาวอเมริกันทั้งประเทศ
“100 ปีแห่งความเชื่องช้าได้ผ่านไป นับตั้งแต่ประธานาธิบดีลินคอล์นได้ปลดปล่อยทาส แต่ถึงอย่างนั้น ลูกหลานของพวกเขาก็ยังไม่ได้รับอิสรภาพอย่างสมบูรณ์ พวกเขายังไม่ได้รับอิสรภาพจากความอยุติธรรม พวกเขายังไม่ได้รับอิสรภาพจากการกดขี่ทางเศรษฐกิจและจากสังคม และประเทศนี้ จะยังไม่ได้รับอิสรภาพอย่างสมบูรณ์จนกว่าประชาชนทุกคนจะเป็นอิสระ”
แจ๊คได้เริ่มวางแผนจะออกกฎหมายสิทธิมนุษยชนฉบับใหม่ โดยกฎหมายนี้จะปกป้องสิทธิของชาวแอฟริกัน-อเมริกัน โดยคนผิวสีจะมีสิทธิทุกอย่างเท่าเทียมกับคนผิวขาว
การเลือกตั้งครั้งใหม่จะมาในปีค.ศ.1964 (พ.ศ.2507) และแจ๊คก็อยากจะได้รับเลือกเป็นสมัยที่สอง
แจ๊คได้วางแผนการหาเสียงตั้งแต่ปลายปีค.ศ.1963 (พ.ศ.2506) โดยเขาตัดสินใจเดินทางไปเท็กซัสเพื่อพูดสปีชต่อเหล่านักธุรกิจในเท็กซัส
ชาวเท็กซัสจำนวนมากได้เลือกนิกสันเมื่อคราวก่อน และแจ๊คคิดว่าการไปเผชิญหน้ากับชาวเท็กซัสโดยตรง จะทำให้เขามีโอกาสได้คะแนนเสียง
เหนือความคาดหมาย ชาวเท็กซัสจำนวนมากมารอต้อนรับแจ๊คเป็นจำนวนมากที่สนามบิน
แจ๊คและแจ๊กกี้ขึ้นรถลิมูซีนโดยมีขบวนรถแถวยาวเหยียดอารักขา
รถลิมูซีนของแจ๊คนั้นมีหลังคากันกระสุน แต่แจ๊คสั่งให้เปิดหลังคาออก เนื่องจากเขาอยากเห็นประชาชนและอยากให้ประชาชนเห็นเขา
ขณะที่ขบวนรถของแจ๊คมุ่งไปตามถนนในดัลลัส ได้มีเด็กหญิงคนหนึ่งถือป้ายที่เขียนว่า
“ท่านประธานาธิบดีคะ ท่านจะหยุดรถและจับมือหนูได้มั้ยคะ?”
แจ๊คสั่งให้หยุดรถและจับมือของเด็กหญิง
เมื่อรถได้ออกสู่ถนนใหญ่ ได้เกิดเสียงปืนดังขึ้น
คนในรถลิมูซีนตะโกนอย่างตกใจ
แจ๊คถูกยิง
แจ๊คนั้นฝุบไปหาแจ๊กกี้ เสื้อของแจ๊กกี้ชุ่มไปด้วยเลือดของแจ๊ค
ชั่วเวลาไม่กี่นาทีก่อนที่แจ๊คจะถูกยิง
รถได้มุ่งสู่โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด แต่ช้าไปแล้ว
แจ๊คเสียชีวิตแล้ว
ลินดอน จอห์นสันเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีแทนแจ๊ค
ภายหลังจากแจ๊คถูกยิงไม่นาน ตำรวจก็สามารถจับมือสังหารได้ นั่นคือ “ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ (Lee Harvey Oswald)”
ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ (Lee Harvey Oswald)
ภายหลังจากถูกจับกุมได้เพียงสองวัน ออสวอลด์ก็ถูกยิงจนเสียชีวิตที่สถานีตำรวจ และขณะกำลังถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศอีกด้วย
ออสวอลด์ขณะถูกยิง
สำหรับสาเหตุการสังหารแจ๊คนั้นไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด มีการคาดเดากันไปต่างๆ นาๆ และคนจำนวนมากก็เชื่อว่ามีคนบงการอยู่เบื้องหลัง
ต่อมา งานศพของแจ๊คถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีผู้มาส่งประธานาธิบดีเป็นครั้งสุดท้ายจำนวนมาก
งานศพของแจ๊ค
จอห์น เอฟ เคนเนดี้นั้นชื่นชอบเรื่องราวของกษัตริย์อาเทอร์มาตั้งแต่เด็ก และเขาก็พยายามที่จะเป็นผู้นำที่ยุติธรรม กล้าหาญ และมีเกียรติเหมือนกับกษัตริย์อาเทอร์
เขาเป็นผู้ที่สร้างแรงบันดาลใจให้สหรัฐอเมริกาไปถึงฝันที่ดีและยิ่งใหญ่กว่าเดิม
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นประธานาธิบดีแค่ประมาณ 1,000 วันเท่านั้น แต่จนถึงทุกวันนี้ ชื่อของเขายังเป็นที่พูดถึงและเป็นประธานาธิบดีที่อยู่ในใจของชาวสหรัฐมาจนถึงทุกวันนี้
จบลงแล้วสำหรับซีรีย์ชุดนี้ ซีรีย์ชุดต่อไปจะเป็นเรื่องราวของคุกอัลคาทราซ จะมาตอนแรกในวันพรุ่งนี้แน่นอนครับ
- 12
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
