คลีโอพัตรานางพญารักบันลือโลก
คลีโอพัตรา เป็นผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ชื่อจารึกในประวัติศาสตร์โลก แม้กาลเวลาของพระนางจะผ่านมาเป็นเวลาหลายพันปีแล้วก็ตาม ภาพลักษณ์ของพระนางมักจะตีความว่า เป็นนางพญาร่านสวาท ใช้เสน่ห์เรือนร่างกามารมณ์ ผูกรักกับจอมทัพโรมันอย่าง จูเลียส ซีซาร์ และ มาร์ก แอนโทนี และแม้แต่ความตายที่เลือกให้กับตัวเอง หากทว่าเรื่องราวตามจารึกประวัติศาสตร์ ชีวิตของพระนางช่างเข้มข้นยิ่งนัก น่าสนใจที่จะติดตาม
wekipedia
ชาติกำเนิด
คลีโอพัตรา ถือกำเนิดในราชวงศ์
ปโตเลมี โดยเป็นราชธิดาของ พระเจ้าปโตเลมี ที่ 12 โฮเลเตส กับ พระนางคลีโอพัตรา ที่ 5 ที่เมืองอเล็กซานเดรีย เมืองหลวงแห่งอียิปต์ ในปีที่ 69 ก่อนคริสตกาล
ที่จริงแล้ว ราชวงศ์ปโตเลมีนั้นไม่ใช่สายเลือดท้องถิ่นอียิปต์หรือแอฟริกัน หากเป็นเชื้อสายกรีกมาซิโดน สืบสายเลือดมาจากพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ผู้เกรียงไกร (มาซิโดเนียเป็นแคว้นเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรกรีกโบราณ) ที่ในยุคของพระองค์ ได้กรีธาทัพพิชิตดินแดนอาณาครึ่งค่อนโลก แผ่ขยายอาณาจักรกรีกโบราณ อียิปต์ในทวีปแอฟริกาก็เป็นส่วนหนึ่งด้วย พระเจ้าปโตเลมี ที่ 1 คือสายเลือดแขนงหนึ่งของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ที่ยกให้ครองอาณาจักรอียิปต์ นั่นคือจุดเริ่มต้นสถาปนาราชวงศ์ปโตเลมีแห่งอียิปต์
อำนาจการปกครองอียิปต์ของราชวงศ์ปโตเลมี ได้ผสมผสานไปกับความเชื่อในอารยธรรมโบราณของอียิปต์ ที่นับถือสมมุติเทพ ฟาโรห์เจ้าผู้ครองอาณาจักร จึงเป็นสมมุติเทพที่จุติมาในร่างของมนุษย์ มีเลือดอันบริสุทธิ์ผุดผ่อง และด้วยจารีตที่ยึดมั่นเช่นนี้ ทำให้นอกจากสืบทอดอำนาจการปกครองแล้ว ราชวงศ์ปโตเลมี ไม่ว่ายุคไหน มีจารีตเคร่งครัดในการรักษาเลือดบริสุทธิ์แห่งเทพด้วยการอภิเษกสมรสกันในสายเลือดเดียวกันเท่านั้น
จะเป็นราชนิกุลพี่สาวน้องชาย หรือพี่ชายน้องสาวเพื่อสร้างรัชทายาทฟาโรห์องค์ต่อๆ ไป โดยที่ถ้าหากเป็นบุรุษก็จะชื่อเดียวกันคือ ปโตเลมี หากเป็นอิตถีเพศก็จะมีชื่อว่า คลีโอพัตรา (เป็นภาษากรีก แปลว่า ความเรืองรองของบิดา) ในประวัติศาสตร์อียิปต์ ยุคราชวงศ์ปโตเลมี จึงมีทั้งปโตเลมีและคลีโอพัตรามากมายหลายคน จัดเป็นลำดับกันมา
สำหรับ พระนางคลีโอพัตรา ที่จารึกในประวัติศาสตร์โลกคือ คลีโอพัตรา ที่ 7 ที่มีชื่อเฉพาะตัวเต็มๆ ว่า คลีโอพัตรา เธอา ฟิโลปาดอร์ หมายถึง คลีโอพัตราผู้เป็นที่รักของบิดา
จารีตความยึดมั่นในสายเลือดบริสุทธิ์แห่งสมมุติเทพของราชวงศ์ปโตเลมีที่สืบทอดกันมาหลายรุ่นบรรพบุรุษ ก็เท่ากับว่ายังเป็นการคงไว้ในสายเลือดกรีก จารึกประวัติศาสตร์โบราณบ่งชัดเจนว่า ฟาโรห์ราชวงศ์
ปโตเลมีทุกยุค ไม่พูดภาษาอียิปต์ท้องถิ่น แต่จะพูดภาษากรีก โดยถือว่าเป็นภาษาในวังเจ้า นักประวัติศาสตร์จึงวิเคราะห์ว่า พระนางคลีโอพัตรา น่าจะเป็นเช่นผู้หญิงชาวกรีก เชื้อสายคอเคเชียน ผิวขาว ไม่ใช่นางพญาอียิปต์ผิวสีน้ำผึ้ง (ยุคนี้เรียกผู้หญิงที่มีสายเลือดผสมแอฟริกัน-คอเคเชียนว่า สาวครีโอล ซึ่งสวยผุดผาดอย่างยิ่ง)
โดยทฤษฎีทางพันธุกรรมปมเด่นปมด้อยของเมนเดล ระบุว่า การสืบสายพันธุ์จากรากเดียวกัน สายเลือดเดียวกัน ลูกที่เกิดมาจะรับปมด้อยมากกว่าปมเด่น จะอ่อนแอ ไม่แข็งแรง ไม่ฉลาด เป็นโรคเลือดและอื่นๆ แต่ก็มีเฉพาะบางราย ที่เกิดมารับปมเด่นเต็มๆ นอกจากร่างกายแข็งแรงเป็นปกติแล้ว ยังมีความเฉลียวฉลาดเลิศล้ำ ดูเหมือนว่า คลีโอพัตรา ที่ 7 จะได้ในส่วนนี้ ดังในจารึกระบุว่า พระนางแตกฉานภาษาถึง 14 ภาษา ไม่ว่าจะเป็นภาษากรีก, อียิปต์, ฮิบรู, เอธิโอเปียน (ภาษาพื้นเมืองแอฟริกัน), โรมัน หรือแม้แต่ภาษาเปอร์เซียนอันไกลโพ้น นั่นแสดงให้เห็นว่า พระนางมีความฉลาดเลิศล้ำ มีปัญญา เจ้าความคิดขนาดไหน
ในสมัยโบราณ ความฉลาดเฉลียวของหญิง มันถูกปิดกั้นมิให้เกินบุรุษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของอำนาจการปกครอง ที่หากไม่รู้จักกลยุทธ์แห่งการปกป้อง วางแผนวางหมาก ก็รังแต่จะเป็นเหยื่อของปลาใหญ่ที่พร้อมฮุบไม่กะพริบตา
แต่ คลีโอพัตรา ที่ 7 อยู่ข้างบัลลังก์พระเจ้าปโตเลมี ที่ 12 ผู้เป็นบิดา นับแต่ยังเป็นเด็กสาว เรียนรู้ซึมซาบวิถีอำนาจและกลยุทธ์การเมืองการทหาร เพื่อปกปักษ์ราชวงศ์และอาณาจักร เป็นคนโปรด อันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ได้ชื่อเฉพาะว่า ผู้เป็นที่รักของบิดา
ติดตามอ่านตอนต่อไป
- 20
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
