22 ก.พ. 2020 เวลา 11:34 • ปรัชญา
#18 เล่ม 1 บทที่ 2 หน้า 103 ~ 107
N : ผมแสวงหาหนทางสู่พระเจ้ามาตลอดชีวิต
G : ฉันรู้...
1
N : ตอนนี้ผมได้พบแล้ว ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ มันเหมือนผมกำลังนั่งที่นี่แล้วเขียนอะไรพวกนี้ขึ้นมาเอง
1
G : ใช่
N : มันไม่รู้สึกเหมือนที่ควรจะรู้สึกในการพูดคุยกับพระเจ้าเลย
G : เธอต้องการระฆังกับแตรเป่าหรือ?
ขอดูก่อนนะว่าจะจัดหาอะไรได้บ้าง
1
N : พระองค์ก็รู้ไม่ใช่หรือครับว่า จะต้องมีคนบอกว่าหนังสือเล่มนี้น่ะ ดูหมิ่นศาสนาตลอดทั้งเล่ม
โดยเฉพาะถ้าพระองค์ยังคงแสดงตัวด้วยทีท่าฉลาดๆอย่างนี้
G : ขออธิบายอะไรหน่อยนะ เธอมีความคิดอยู่ว่า
*พระเจ้าจะแสดงตัวด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งเท่านั้น*
`นี่เป็นความคิดที่อันตรายมาก`
*มันทำให้เธอไม่เห็นพระเจ้าที่อยู่รายรอบ*
หากเธอคิดว่า `พระเจ้ามีรูปลักษณ์เดียว`
`น้ำเสียงเดียว` หรือ `เป็นรูปแบบเดียว` แล้วละก็
*เธอจะมองผ่านฉันไปวันแล้ววันเล่า*
เธอจะใช้ทั้งชีวิตค้นหาพระเจ้าแต่ไม่พบ "นาง"
เพราะเธอคอยแต่มองหา "เขา" นี่ยกตัวอย่างน่ะ
1
มีคำกล่าวว่า...
หากเธอไม่เห็นพระเจ้าทั้งในสิ่งที่สูงส่งลึกซึ้งและต่ำทรามหยามเหยียด
*เธอก็จะพลาดความจริงไปครึ่งหนึ่ง*
นี่เป็น "สัจจะอันยิ่งใหญ่"
พระเจ้าอยู่ในหยาดน้ำตาและเสียงหัวเราะ
ในความหวานชื่นและขื่นขม
มีวัตถุประสงค์ศักดิ์สิทธิ์อยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง
1
เหตุนั้นความศักดิ์สิทธิ์จึงปรากฏอยู่ในทุกสิ่ง
1
N : ครั้งหนึ่งผมเคยเริ่มต้นเขียนหนังสือที่ชื่อว่า พระเจ้าคือแซนด์วิชซาลามี*
[*แซนด์วิชไส้กรอกหมูปนเนื้อวัวผสมเคล้าเกลือและเครื่องเทศ ~ ผู้แปล]
G : จะเป็นหนังสือที่ดีมากเลยนะ
ฉันเป็นคนจุดประกายเธอเอง
ทำไมไม่เขียนต่อล่ะ?
1
N : ผมรู้สึกว่าเป็นการดูหมิ่นพระเจ้า หรืออย่างน้อยที่สุดก็แสดงถึงความไม่เลื่อมใสอย่างอุกฉกรรจ์ทีเดียว
G : เธอหมายถึงไม่เลื่อมใสอย่างอัศจรรย์นะหรือ?
อะไรทำให้เธอคิดว่าพระเจ้าคือสิ่งที่ "น่าเลื่อมใส" เพียงอย่างเดียวล่ะ?
พระเจ้าน่ะเป็นทั้งขึ้นและลง ร้อนและหนาว ซ้ายและขวา ทั้งความน่าเลื่อมใสและสิ่งไม่น่าเคารพ
เธอคิดว่าพระเจ้าหัวเราะไม่เป็นหรือไง?
เธอจินตนาการไปว่าพระเจ้าไม่อาจเพลิดเพลินกับมุกตลกเยี่ยมๆอย่างนั้นหรือ?
เธอคิดว่าพระเจ้าไม่มีอารมณ์ขันใช่ไหม?
ฉันจะบอกเธอนะว่าพระเจ้าคือ`ผู้ประดิษฐ์`อารมณ์ขันขึ้นมาเอง
3
หรือว่าเธอต้องพึมพำเบาๆเวลาพูดกับฉัน?
คำหยาบหรือสแลงน่ะ เกินความเข้าใจของฉันงั้นหรือ?
ฉันจะบอกให้นะว่า เธอพูดกับฉันได้แบบเดียวกับที่พูดกับเพื่อนสนิทที่สุดของเธอเลย
2
เธอ`คิดว่า` มีคำที่ฉันไม่ได้ยิน ภาพที่ฉันไม่เห็น หรือเสียงที่ฉันไม่รู้อย่างนั้นหรือ?
เธอคิดใช่ไหมว่า ฉันเหยียดหยามบางความคิดของเธอขณะที่รักในความคิดอื่นๆ?
ฉันขอบอกเธอว่า `ไม่มีอะไรเลยที่ฉันเหยียดหยาม`
`ไม่มีสิ่งใดเลยที่สกปรกโสมมสำหรับฉัน`
นั่นคือ "ชีวิต" และชีวิตก็คือ "ของกำนัลและของล้ำค่าเกินเอ่ยคำ"
*คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์*
ฉันคือชีวิตและคือสิ่งที่ทำให้เกิดชีวิต
1
ทุกแง่มุมของมันล้วนมีเป้าหมายศักดิ์สิทธิ์
ไม่มีสักสิ่งที่มีอยู่โดยปราศจากความเข้าใจและการรับรองจากพระผู้เป็นเจ้า
N : มันเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไง? แล้วความชั่วร้ายต่างๆนานาที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์ล่ะ?
G : เธอไม่อาจ`สร้าง`สิ่งหนึ่งสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็นความคิด วัตถุหรือเหตุการณ์ หรือมีประสบการณ์แบบใดก็ตามที่นอกเหนือแผนการของพระผู้เป็นเจ้าได้
เพราะ "แผนการ" ของพระเจ้าก็คือ *ให้เธอได้สร้างสรรค์ทุกๆสิ่งขึ้นตามที่ต้องการ*
2
เสรีภาพนี้แฝงประสบการณ์ที่พระเจ้าจะได้เป็นพระเจ้าไว้
และฉันก็สร้างเธอขึ้นเพื่อประสบการณ์นี้เอง
รวมทั้งสร้างตัวชีวิตด้วย
1
ความชั่วร้าย คือสิ่งที่เธอ`เรียกว่า`ความชั่วร้าย
แม้จะอย่างนั้น ฉันก็รักมัน!
เพราะผ่านความชั่วเท่านั้นเธอถึงจะรู้จักความดี
1
ผ่านสิ่งที่เธอเรียกว่าการงานของปีศาจเธอจึงจะรู้และปฏิบัติกิจการของพระเจ้า
1
ฉันไม่ได้รักร้อนมากกว่าหนาว
รักสูงมากกว่าต่ำ
รักซ้ายมากกว่าขวา
ทั้งหมดสัมพันธ์กัน ขึ้นต่อกัน
และ "เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งเดียวกัน"
1
ฉันไม่ได้รัก "ความดี" มากกว่า "ความเลว" ด้วย
ฮิตเลอร์ขึ้นสวรรค์นะรู้ไหม
1
ถ้าเธอเข้าใจเรื่องนี้เมื่อไหร่ *เธอจะเข้าใจพระเจ้า*
N : แต่ผมโตมาโดยถูกสอนให้เชื่อว่า `ความดีความเลวนั้นมีอยู่` `ถูกกับผิดคือสิ่งตรงข้ามกัน`
นั่นคือ มีสิ่งที่ไม่โอเค ใช้ไม่ได้ หรือไม่เป็นที่ยอมรับในสายตาของพระเจ้า
G : ทุกสิ่งล้วน "ยอมรับได้" ในสายตาพระเจ้า
พระเจ้าจะไม่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างไร?
"การปฏิเสธบางสิ่งเท่ากับปฏิเสธการมีอยู่ของสิ่งนั้น" การพูดว่าใช้ไม่ได้ก็เหมือนกับบอกว่ามันไม่ใช่ส่วนหนึ่งของฉัน...ซึ่งเป็นไปไม่ได้!
แม้จะอย่างนั้น...ก็จงยึดมั่นในความเชื่อของเธอเถิด รวมถึงคุณค่าต่างๆของเธอด้วย
เพราะนั่นเป็นคุณค่าของพ่อแม่เธอ ของพ่อแม่ของพ่อแม่เธอ ของเพื่อนๆและสังคมเธอ
มันได้ก่อรูปโครงสร้างชีวิตเธอไว้
*การทำลายทิ้งคือการสลายสายใยแห่งประสบการณ์ของตัวเธอเอง*
1
แต่จงตรวจสอบทีละอัน
พิจารณาทีละชิ้น
อย่ารื้อบ้านทั้งหลัง
แต่ให้ดูที่อิฐทีละก้อนๆแล้วเปลี่ยนก้อนที่แตกร้าว ซึ่งไม่ส่งเสริมโครงสร้างนั้นเสีย
ความคิดของเธอเรื่องความถูกผิด
`ก็เป็นแค่ความคิด`
คือความคิดซึ่งก่อรูปร่าง
และสร้างสาระว่า "เธอคือใคร"
มีเพียงเหตุผลเดียวที่จะ `เปลี่ยน` สิ่งเหล่านี้
เพียงจุดหมายเดียวที่จะปรับเปลี่ยนแก้ไข นั่นคือ *หากเธอไม่มีความสุขกับตัวตนที่เธอเป็นอยู่*
1
เธอ`เพียงคนเดียว`ที่จะรู้ว่าตัวเองมีความสุขหรือไม่
2
เธอเท่านั้นที่จะบอกเล่าชีวิตตัวเองได้ว่า "นี่คือสิ่งสร้างสรรค์ของฉัน (บุตร) ซึ่งฉันพอใจมาก"
หากคุณค่าของเธอเป็นประโยชน์ต่อเธอ
จงยึดถือมันไว้ ถกเถียงเพื่อมัน สู้เพื่อปกป้องมัน
*แต่จงสู้ในหนทางที่ไม่ทำร้ายใคร*
`การทำร้าย` ไม่ใช่องค์ประกอบที่จำเป็นในการเยียวยา
...
...
...
คุณกำลังมีความสุขกับสิ่งที่คุณ`เป็น`อยู่รึเปล่า?
ถ้าไม่ คุณก็แค่ `เลือกใหม่ซะ`
1
ง่ายๆอย่างนั้นเลย ^_^
(ใช้สมองให้น้อยลง ใช้ใจให้มากขึ้น)
2
แอดมิน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา