Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนังสือสนทนากับพระเจ้า
•
ติดตาม
22 ก.พ. 2020 เวลา 11:48 • ปรัชญา
#19 เล่ม 1 บทที่ 2 หน้า 107 ~ 112
...
N : พระองค์กล่าวว่า "จงยึดถือคุณค่าของเธอไว้"
ขณะเดียวกันก็บอกว่า "คุณค่าของพวกเราผิดทั้งหมด"
ช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจหน่อยได้ไหมครับ?
G : ฉันไม่ได้พูดว่า...คุณค่าของพวกเธอผิดนะ
แต่ก็ไม่ได้ถูกด้วยเหมือนกัน
มันเป็นเพียงการพิพากษา การประเมิน
การตัดสินใจ
และ "ส่วนใหญ่ก็เป็นการตัดสินที่มาจากคนอื่นไม่ใช่จากตัวเธอเอง"
1
จากพ่อแม่ ครู ศาสนา นักประวัติศาสตร์
หรือไม่ก็นักการเมือง
น้อยเหลือเกินที่การตัดสินเชิงคุณค่า *ซึ่งเธอรับเอาเป็นความจริงของเธอนั้นจะเกิดจากประสบการณ์ของเธอเอง*
แต่เธอ "มาอยู่ที่นี่เพื่อต้องการประสบการณ์"
และเธอ "จะสร้างสรรค์ตัวเองขึ้นมาจากประสบการณ์ของตน"
แต่เธอ *กลับไปสร้างสรรค์ตัวเองจากประสบการณ์ของผู้อื่นแทน*
1
หากแม้นมีสิ่งที่เรียกว่า "บาป" แล้ว
มันคงเป็นสิ่งนี้คือ
*การปล่อยให้ตัวเองเป็นเช่นที่เป็น*
*เนื่องจากประสบการณ์ของผู้อื่น*
นี่คือ "บาป" ที่พวกเธอได้ทำลงไป เธอทุกคนเลย
"เธอไม่คอยประสบการณ์ตัวเอง"
แต่ไปยอมรับประสบการณ์คนอื่น
ราวกับเป็นคำสอนของพระเจ้า
แล้วเมื่อเธอ "ได้พบกับประสบการณ์จริงเป็นครั้งแรก"
เธอก็ใส่สิ่งที่เธอคิดว่า `ตนรู้แล้ว` ครอบลงไป
ถ้าไม่ทำอย่างนี้เธอจะมีประสบการณ์ที่ต่างไปอย่างสิ้นเชิงเลยล่ะ
ประสบการณ์ที่อาจทำให้ครู
หรือแหล่งที่มาดั้งเดิม`ต้องเป็นฝ่ายผิด`
ส่วนใหญ่แล้ว เธอไม่อยากทำให้พ่อแม่ โรงเรียน ศาสนา ประเพณี หรือคัมภีร์ของเธอเป็นฝ่ายผิด
*เธอจึงปฏิเสธประสบการณ์ของตัวเองเพื่อรับเอาสิ่งที่เธอถูกบอกให้คิดแทน*
ไม่มีเรื่องไหนที่จะบรรยายสิ่งนี้ได้ลึกซึ้งเท่ากับการปฎิบัติต่อเรื่องทางเพศของมนุษย์อีกแล้ว
ทุกคนรู้ว่า "ประสบการณ์ทางเพศ" คือ `ประสบการณ์ที่เปี่ยมรักที่สุด
`ตื่นเต้นที่สุด
`มีพลังที่สุด
`มีชีวิตชีวาที่สุด
`ฟื้นฟูที่สุด
`ให้พลังที่สุด
`ตอกย้ำยืนหยัดที่สุด
`ใกล้ชิดที่สุด
*หลอมรวมที่สุด*
และ `เป็นประสบการณ์ทางกายที่สำราญผ่อนคลายที่สุดเท่าที่มนุษย์จะทำได้
*เธอได้ค้นพบสิ่งเหล่านี้ผ่านประสบการณ์*
แต่เธอกลับเลือกจะยอมรับการตัดสินซึ่งมีมาก่อน
ยอมรับความคิดเห็นและทัศนคติเกี่ยวกับเซ็กซ์ซึ่งตราไว้โดยคนอื่น
ทุกคนเหล่านั้นมีผลประโยชน์พิเศษส่วนตัวในวิธีที่เธอคิด
`การตัดสิน` `ความคิดเห็น` และ `ทัศนคติพวกนั้น` *ขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงกับประสบการณ์ของเธอ*
แต่เธอเกลียด "ที่จะทำให้ครูอาจารย์จะต้องเป็นฝ่ายผิด"
เธอเลยพยายามทำให้ตัวเองเชื่อว่า
"ประสบการณ์ของเธอต่างหากที่ผิด"
ผลลัพธ์ก็คือ "เธอทรยศต่อสัจจะที่แท้ของตัวเองในเรื่องนี้ด้วยผลลัพธ์ที่บรรลัย"
1
เธอทำอย่างเดียวกันกับ "เรื่องเงินทองด้วย"
ในชีวิตทุกครั้งที่เธอมีเงินมากๆ `เธอจะรู้สึกดี `รู้สึกวิเศษที่ได้มา และ `รู้สึกชอบใจที่ได้ใช้เงิน
*ไม่มีอะไรเลวร้ายแม้แต่นิดเดียว
*ไม่มีสิ่งไหนชั่วร้ายเลย
*ไม่มีสิ่งไหน"ผิด"ในตัวมันเอง
แต่`คำสอนจากคนอื่น`ในเรื่องนี้ก็ฝังเข้าไปในกระดูก *จนเธอปฏิเสธประสบการณ์ของตัวเอง*
เพื่อสนับสนุน "สัจจะ" ของเธอ เมื่อรับ `สัจจะพวกนั้น` มาเป็นของตนแล้ว
เธอก็สร้างความคิดขึ้นมารอบๆ "สัจจะ" อีกทอดหนึ่ง `ความคิดซึ่งมีพลังสร้างสรรค์`
เธอจึงสร้าง "ความจริงของตัวเองเกี่ยวกับเรื่องเงินขึ้นมา" ซึ่งผลักมันออกไปจากตัวเธอ
เพราะทำไมเธอถึงต้องการดึงดูดสิ่งไม่ดีเข้าสู่ชีวิตตัวเองด้วยเล่า?
น่าประหลาดแท้
เธอได้สร้างความขัดแย้งแบบเดียวกันนี้เกี่ยวกับพระเจ้าด้วย
ทุกสิ่งที่`หัวใจเธอ`มีประสบการณ์บอกว่า "พระเจ้าคือความดี"
และทุกสิ่งที่ `ครูของเธอ` บอกก็คือ "พระเจ้าเลว"
`หัวใจของเธอ`บอกว่า "เธอรักพระเจ้าได้โดยไม่ต้องหวาดกลัว"
แต่`ครูของเธอ`บอกว่า "เธอต้องยำเกรงพระเจ้าเพราะพระองค์นั้นโหดร้าย"
พวกเขาบอกว่าเธอจะต้องมีชีวิตอย่างหวาดกลัวความโกรธาของพระเจ้า เธอจะต้องตัวสั่นงันงกต่อเบื้องพระพักตร์
ชีวิตทั้งหมดของเธอคือความหวาดผวาต่อการพิพากษาของพระเจ้าเพราะพระเจ้าคือความยุติธรรม
พวกเขาบอกแบบนั้น
พระเจ้าทรงล่วงรู้ทุกอย่าง เธอจะมีปัญหาแน่หากถึงวันที่ต้องเผชิญกับการพิพากษาอันน่าตื่นตระหนกของพระองค์
เธอจึงต้องเชื่อฟังคำสั่งของพระเจ้า ไม่งั้นน่ะ...
ที่สำคัญก็คือ *เธอไม่ถามคำถามที่มีเหตุผลตามหลักตรรกะ*
เช่น "ถ้าพระเจ้าต้องการให้เชื่อฟังกฎที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นแล้ว ทำไมถึงทรงสร้างโอกาสให้เราละเมิดกฎเหล่านั้นด้วย?
ครูของเธอก็บอกว่า อา...เพราะพระเจ้าอยากให้เธอมีทางเลือกอิสระไง
ทางเลือกอิสระแบบไหนกันที่ถ้าเลือกสิ่งหนึ่งแทนที่จะเป็นอีกสิ่งทำให้เราต้องถูกประณามน่ะ?
แล้วมันเสรีตรงไหนในเมื่อเธอต้องทำตามเจตนารมณ์ของผู้อื่นไม่ใช่ด้วยความตั้งใจของเธอเอง?
บรรดาผู้พร่ำสอนเรื่องพวกนี้กับเธอ "ทำให้พระเจ้ากลายเป็นคนมือถือสากปากถือศีลไป"
เขาบอกเธอว่าพระเจ้าคือการให้อภัยและความเมตตา
แต่ถ้าเธอไม่ร้องขอการอภัย `อย่างถูกทาง`
หรือ เข้าหาพระเจ้า `อย่างเหมาะสม` แล้วละก็
คำอธิษฐานของเธอจะไม่ได้รับการใส่ใจ
เสียงคร่ำครวญของเธอจะถูกละเลย
แต่นี่ก็จะยังไม่เลวร้ายนัก "หากมีทางที่เหมาะสมเพียงหนทางเดียว"
แต่กลับปรากฏว่า "มีทางที่เหมาะที่ควรอยู่หลายสาย" เหมือนที่มีครูมากมายคอยสอนทางพวกนั้น
พวกเธอส่วนใหญ่ `จึงใช้เวลาทั้งหมดในวัยผู้ใหญ่` ไปกับการค้นหาวิถีทางที่ "ถูกต้อง" ในการบูชา เชื่อฟัง และรับใช้พระเจ้า
แต่ที่กลับตาลปัตรก็คือ
*ฉันไม่ได้ต้องการให้เธอมาเคารพบูชาหรอก
*ไม่ต้องการให้ใครมาเชื่อฟัง
*และไม่จำเป็นต้องมารับใช้ฉันด้วย
1
พฤติกรรมอย่างนี้เป็นพฤติกรรมในอดีตไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ถูกกษัตริย์สั่งให้ปฏิบัติ
1
และโดยปกติแล้วมักเป็นกษัตริย์ที่ `ป่วยทางจิต` `รู้สึกไม่มั่นคง` และ `ชอบแสดงอำนาจบาตรใหญ่`
*ไม่ใช่คำสั่งจากพระเจ้าแน่ไม่ว่าจะแง่มุมใด*
แต่ก็น่าทึ่งว่า...กระทั่งทุกวันนี้ ก็ยังสรุปไม่ได้อีกว่า "คำสั่งพวกนั้นเป็นของปลอม"
*ไม่ได้เกี่ยวอะไรสักนิดกับความต้องการและความปรารถนาของพระเจ้าเลย*
พระเจ้าไม่มีความต้องการ
พระเจ้าคือทุกสิ่งทั้งหมดจึงไม่ขาด
หรือต้องการสิ่งใดเลยตามนิยามนั้น
หากเธอ`เลือกจะเชื่อ`ในพระเจ้าที่ต้องการบางสิ่งและรู้สึกเจ็บปวดเมื่อไม่ได้มา แล้วก็พาลลงโทษผู้คนที่พระเจ้าหวังว่าจะได้สิ่งนั้นจากเขาแต่ไม่ได้
นั่นก็หมายความว่า...
*เธอเลือกเชื่อพระเจ้าที่เล็กน้อยกว่าฉันเสียแล้ว
*เธอเป็นบุตรของพระเจ้าองค์เล็กกว่าจริงๆ
ไม่หรอก ลูกเอ๋ย! โปรดให้ฉันได้ให้ความมั่นใจแก่เธออีกครั้งผ่านงานเขียนชิ้นนี้ว่า
*ฉันไม่มีความต้องการใดๆ
และไม่เรียกร้องสิ่งใดเลย*
นี่ไม่ได้หมายความว่าฉันไม่มีความปรารถนานะ
`ความปรารถนา` และ `ความต้องการ-ขาดไม่ได้`
*มิใช่สิ่งเดียวกัน*
1
(แม้ชีวิตในชาติปัจจุบันเธอหลายคนจะทำให้เหมือนกันก็ตาม)
`ความปรารถนา` คือ
"จุดเริ่มต้นในการรังสรรค์ทุกสิ่งทุกอย่าง"
"มันคือความคิดแรก"
"คือความรู้สึกอันสง่างามในจิตวิญญาณ"
"คือการที่พระเจ้าเลือกสิ่งที่จะสร้างอันดับต่อไป"
แล้วอะไรเล่าคือความปรารถนาของพระเจ้า?
๏ ความปรารถนาแรกของฉันคือ
"การได้รู้จักและมีประสบการณ์ถึงตัวเอง"
ในทุกความยิ่งใหญ่ของฉันเพื่อจะได้รู้ว่า`ฉันคือใคร` ก่อนที่ฉันจะสร้างเธอและทุกโลกในจักรวาลขึ้น เป็นไปไม่ได้ที่จะทำอย่างนั้นได้*
[*เป็นไปไม่ได้เลยที่พระเจ้าจะรู้จักและมีประสบการณ์ถึงตัวเอง ถ้าไม่สร้างจักรวาลและชีวิตทั้งหมดขึ้น ~ แอดมิน]
๏ ประการที่สอง
"ฉันปรารถนาให้เธอรู้และมีประสบการณ์ถึงตัวตนที่แท้จริงของเธอผ่านพลังที่ฉันมอบให้เพื่อไปสร้างและมีประสบการณ์ถึงตัวเธอเองในวิถีทางที่เธอเลือก"
2
๏ ประการที่สาม
"ฉันปรารถนาให้กระบวนการชีวิตทั้งหมดเป็นประสบการณ์ของ `ความเบิกบานสม่ำเสมอ `สร้างสรรค์ต่อเนื่อง `แผ่ขยายไม่สิ้นสุด และ `บรรลุผลอย่างสมบูรณ์ในแต่ละปัจจุบันขณะ"
๏ ประการที่สี่
"ฉันได้สร้างระบบที่สมบูรณ์แบบขึ้นเพื่อให้ความปรารถนาเหล่านี้เป็นจริงได้ และมันก็เป็นจริงอยู่ในปัจจุบัน แม้ตอนนี้ความต่างเพียงประการเดียวระหว่างฉันกับเธอก็คือ `ฉันรู้เรื่องนี้`"
๏ ประการที่ห้า
"ณ ขณะแห่งการรู้อย่างสมบูรณ์ของเธอ (ซึ่งเวลานั้น อาจมาถึงเมื่อใดก็ได้) เธอเองก็จะรู้สึกเหมือนที่ฉันรู้สึกเสมอนั่นคือ `เบิกบาน `รัก `ยอมรับ `อวยพร และ ซาบซึ้งคุณอย่างสุดประมาณ"
เหล่านี้คือ *ทัศนคติทั้งห้าของพระเจ้า*
ก่อนจะจบการสนทนาฉันจะแสดงให้เธอเห็นว่า "การนำทัศนคติพวกนี้ไปใช้ในชีวิต" จะนำพาเธอสู่ภาวะแห่งพระเจ้าได้อย่างไร?
ทั้งหมดนี้คือคำตอบอันยืดยาวต่อคำถามที่แสนสั้น
ใช่ *ยึดถือคุณค่าของเธอไว้ตราบใดที่เธอรู้สึกว่ายังเป็นประโยชน์ต่อเธออยู่*
1
แต่จงรู้ว่า "คุณค่าที่เธอยึดถือ" `ผ่านความคิด `คำพูด และ `การกระทำนั้นได้นำเธอสู่โอกาสที่จะมีประสบการณ์ถึงความคิดสูงสุดและดีที่สุดเกี่ยวกับตัวเองหรือเปล่า?
จงตรวจสอบคุณค่าของเธอทีละเรื่องๆ
1
นำมันออกสู่ประชาพิเคราะห์
หากเธอบอก`โลก`ได้ว่า..."เธอเป็นใคร" และ
"เชื่อในอะไรโดยไม่ลังเลหรือหยุดชะงัก" แล้วละก็
*แสดงว่าเธอมีความสุขกับตัวตนของเธอแล้ว
*ไม่มีเหตุผลที่จะดำเนินการสนทนากับฉันต่อ
*เพราะเธอได้สร้างตัวตนและสร้างชีวิตสำหรับตัวตนซึ่งไม่มีความจำเป็นต้องปรับอะไรอีก
*เธอเข้าถึงความสมบูรณ์แบบแล้ววางหนังสือเล่มนี้ลงเถิด...
1
...
...
...
2 บันทึก
2
3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
สนทนากับพระเจ้า เล่ม 1
2
2
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย