23 ก.พ. 2020 เวลา 02:09
😎"ศิลปะแห่งความสุข"😀
ผมเชื่อว่าคนทุกคน ก็ต้องการที่จะมีความสุขกันทั้งนั้น
แล้วความสุขของคุณเป็นแบบไหนกันแน่ล่ะ ?
🍖🍗 บางคนมีความสุขในการกิน ขอให้ได้กินถือเป็นยอดความปรารถนา
🎧🎵🎶 บางคนแค่ได้นั่งฟังเพลงที่ชื่นชอบก็มีความสุข
🎥🎬💿 บางคนได้ดูหนัง ดูการตูนเรื่องโปรดก็มีความสุข
🛏🛌💤 บางคนได้นอนยาวๆ ในวันหยุดก็เป็นความสุขอันสุดยอดเลย
🚵♀️🎄⛰🏞 บางคนได้เดินเข้าป่า ท่องเที่ยวไปตามที่ต่าง ๆ ก็มีความสุข
👼👨👨⚕️ บางคนก็ใช้ชีวิตพอเพียง ทิ้งเงินทองไปใช้ชีวิตตามชนบท อย่างสงบสุข ก็มีความสุขแล้ว
👑💍🏰 บางคนขอแค่มีเงินมากๆ เป็นมหาเศรษฐี เอาเงินไปซื้อความสุข
👫 บางคนขอแค่เห็นคนที่รักมีความสุข เขาก็มีความสุขแล้ว
💀☠🔫 บางคนมีความสุขท่ามกลางสถานการณ์อันตราย เพื่อปกป้อง ประเทศชาติและประชาชน
🤕💪👊 บางคนมีความสุขกับการที่ได้เจ็บตัวบนสังเวียน เพื่อปกป้องศักดิ๋ศรี
🍻🍾 บางคนก็มีความสุขจากการดื่ม อย่างเช่นพวกคอทองแดงทั้งหลาย
👨🏫👨⚕️👨✈️ บางคนก็มีความสุขจากการดำรงตำแหน่งอันทรงเกียรติเป็นข้าราชการการของแผ่นดิน
👩🌾👨🌾บางคนปิดทองหลังพระ ทำประโยชน์เพื่อสังคมโดยไม่หวังผลกำไร ก็มีความสุข
รวมถึงความสุขในรูปแบบต่างๆอีกมากมาย.........
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเลย เราไม่ควรเอามาตรฐานของตัวเอง ไปตัดสินความสุขของใคร เฉกเช่นกับเรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้
ในช่วงยุคสงคราม มีบุรุษผู้หนึ่งนามว่า " จื่อฉั่น " เป็นอำมาตย์แห่งแคว้นเจิ้งผู้ทรงความสามารถ ปกครองบ้านเมืองอย่างเข้มแข็ง ทำให้บ้านเมืองมั่นคง
แต่ว่าพี่น้องของจื่อฉั่นอีก 2 คน กับตรงกันข้าม
🍷🍸🍺🍹พี่ชายของเขาเป็นผู้ชื่นชอบการเสพสุราเมรัย
ในห้องมีแต่ขวดสุราเต็มไปหมด ดริ๊งตั้งเช้าจรดค่ำ เขาไม่สนใจว่า ใครจะเป็นไง บ้านเมืองจะเป็นไร ไม่ยุ่งการเมือง ไม่คบหากับใครนอกจากขวดเหล้า ไม่สนใจสงคราม ขอแค่มีสุรายาเมา เป็นยอดความสุขของเขาก็เพียงพอ
👧👭💑ส่วนน้องชายก็ชอบนารี มักมากในกามคุณ
สร้างห้องหอมากมายอยู่ในบริเวณหลังบ้าน เอาไว้เลี้ยงน้องหนูทั้งหลาย เพื่อหาความสุขจากสาวน้อยเหล่านี้ ทั้งวันทั้งคืน ถ้ารู้ข่าวว่าบ้านไหนมีสาวแจ่มๆ ก็จะให้พ่อสื่อ ไปจัดมาให้ (บ้านเขารวย) แต่ก็ไม่ได้ใช้กำลังฉุดคร่าใครมาเป็นของตน ถ้าใครปฏิเสธไม่เล่นด้วยจริงๆเขาก็ไม่ฝืนใจ ถ้าใครมาก็ถึงไหนถึงกัน (โถ่พ่อคาสโนว่า)
อำมาตย์จื่อฉั่นปวดหัวกับพฤติกรรม ของพี่น้องของเขามาก คิดสับสนว่า ไหนโบราณบอกว่าต้องปกครองครอบครัวให้ดีซะก่อน ถึงจะปกครองบ้านเมืองให้ดีได้ แต่ตรงกันข้ามเลยครับ จื่อฉั่นปกครองบ้านเมืองได้ดี แต่ปกครองครอบครัวให้ดีไม่ได้ จื่อฉั่นเลยคิดว่าตนจะต้องไปโน้มน้าว ให้พี่น้องของเขากลับมาในทางที่ถูกต้องให้ได้ เลยไปหาพี่น้องทั้ง 2 คนแล้วกล่าวสอนว่า
จื่อฉั่น : อันมนุษย์นี้ได้ชื่อว่าประเสริฐกว่าสัตว์เดียรัจฉาน เพราะมีสติปัญญารู้ผิดชอบชั่วดี เมื่อใช้ประกอบกันกับความประพฤติ ก็จะกลายเป็นจารีตประเพณีที่ดีงาม ถ้าเข้าใจดังนี้และปฏิบัติตามจารีตประเพณีที่ดีงาม ชื่อเสียง เงินทองก็จะเข้ามาเอง ในทางกลับกัน ถ้ามัวแต่ลุ่มหลงปล่อยใจไปตามกิเลส ชีวิตก็จะเสี่ยงกับอันตราย และความเสื่อมต่างๆ ท่านทั้ง 2 จงปรับปรุงตัวใหม่ ข้าจะแต่งตั้งยศขุนนางมีหน้ามีตาในสังคมให้ทันที
พี่น้องของจื่อฉั่น : เรื่องพวกนี้ข้าทั้ง 2 รู้ดีอยู่แล้ว แต่เพราะว่าเราทั้ง 2 เข้าใจในแก่นแท้ของชีวิตไง เราเลยเลือกใช้ชีวิตแบบนี้ อันชีวิตคนเเราไม่เที่ยงแท้ จะเกิดหรือตายไม่มีใครรู้ล่วงหน้า ด้วยเหตุนี้เราจึงทุ่มเทคิดหาแนวทางการดำเนินชีวิต ในแบบฉบับของตัวเอง จึงทำตัวแบบนี้ ถ้าจะให้เราข่มใจข่มอารมณ์ความปรารถนาของมนุษย์ แล้วไปแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น รบราฆ่าฟัน เพื่อชื่อเสียงเงินทอง หรือเป็นบุคคลที่ถูกยกย่องว่ามีจารีตธรรมอันดีงาม สู้ให้เราตายเสียดีกว่า
เพราะเราต้องการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้มีความสุขที่สุดเราจึงหมกมุ่นแบบนี้ เราไม่ต้องการที่จะไปหมกมุ่นกับการงานตลอดเวลา จนร่างการและจิตใจอ่อนล้า จนไม่สามารถทำในสิ่งที่เราชอบจริงๆได้
ตัวท่านเองได้ชื่อว่าเป็นนักปกครองที่เก่งกาจ แต่กลับเอาความสำเร็จจอมปลอมมาล่อพวกเราให้ติดกับดัก นับว่าน่าละอายยิ่งนัก อันคนที่มุ่งแต่ปกครองเรื่องไกลตัว แต่เรื่องใกล้ตัวกลับไม่เรียบร้อย พอถึงเวลาหนึ่งก็จะต้องมานั่งเสียใจทีหลัง คนที่จิตใจภายในสมบูรณ์ได้รับการฝึกฝนจิตที่ดีต่างหากเล่าถึงจะปกครองใจตัวเองได้ แต่กรณีของท่านมุ่งแต่ปกครองภายนอก ถึงตอนนี้บ้านเมืองที่ท่านปกครองจะเรียบร้อย แต่ท่านไม่สามารถจะควบคุมจิตของพวกเขาเหล่านั้นได้ไปตลอด
เราทั้ง 2 เห็นว่าแนวคิดฝึกตนจากภายในจิตใจเป็นสิ่งที่ควรจะเผยแพร่ เพื่อทำให้ความสัมพันธ์ของผู้คนดีขึ้น มีสันติต่อกัน ไม่ต้องเกิดสงคราม เราตั้งใจจะถ่ายทอดความรู้นี้ให้ท่านนำไปใช้ในการปกครองบ้านเมือง แต่กลับโดนท่านมาสั่งสอนซะก่อน
จื่อฉั่นได้ฟัง ถึงกับสตั๊น ใบ้กิน พึ่งรู้ว่าพี่น้องที่ไม่ได้เรื่องของตน ที่แท้เป็นนักปราชญ์ที่ยอดเยี่ยม และเป็นมนุษย์ที่แท้จริง ผู้ไม่ได้ลุ่มหลงในอำนาจเงินทอง ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ไม่เคยรบราฆ่าฟัน และเป็นผู้ฝึกจิตจากภายใน
เรื่องนี้สอนว่าอย่าใช้มาตรฐานของตนไปตัดสินคนอื่น ทุกคนมีความสุขในรูปแบบของตนเอง..
แนวคิดแบบนี้รียกว่า สุขนิยม (Hedonism)
ตัวอย่างเช่น....
เอพิคคิวรัส (Epicurus) คือ ปราชญ์ชาวกรีกโบราณ ผู้ก่อตั้งสำนัก “สุขนิยม” มุมมองเกี่ยวกับคำว่า “ความสุข” ของเขานั้นเป็นอะไรที่น่าสนใจมากทีเดียว
เอพิคคิวรัส เชื่อว่า จุดมุ่งหมายสูงสุดในชีวิตของคนเรานั้นไม่ใช่อะไรอย่างอื่นนอกจากการแสวงหา “ความสุข” อันได้แก่ การทำชีวิตให้มีความสุขมากที่สุดตลอดเวลาที่เราอยู่บนโลกใบนี้ ไม่ใช่เพื่อชีวิตในโลกหน้า หรือเพื่ออุดมคติอย่างอื่น เพราะ เอพิคคิวรัส เชื่อว่า นามธรรมทุกชนิดล้วนมีจุดเริ่มต้นมาจากความสุขและความทุกข์ทั้งสิ้น คนที่บอกว่าตัวเองเกิดมาเพื่อความดีหรือความยุติธรรม แต่วันๆ เอาแต่ปั้นหน้ายักษ์ใส่คนอื่น เพราะยังเป็นคนที่ไม่มีความสุขนั้น เอพิคคิวรัส ถือว่าเป็นคนที่ใช้ไม่ได้
อย่างไรก็ตาม แม้ เอพิคคิวรัส จะบอกว่า เป้าหมายชีวิตคือการแสวงหาความสุข แต่เขาก็บอกว่า ความสุขที่แสวงหาต้องเป็นความสุขชนิดที่ไม่นำมาซึ่งความทุกข์ในภายหลังด้วย
ขอบคุณสำหรับการติดตามรับชมครับ หากชอบใจกดไลค์ กดแชร์เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนด้วยนะครับ by ชนดิเรก

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา