Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนังสือสนทนากับพระเจ้า
•
ติดตาม
25 ก.พ. 2020 เวลา 10:57 • ปรัชญา
#22 เล่ม 1 บทที่ 3 หน้า 121 ~ 127
...
G : ดี ทีนี้ก็เริ่มกันเลย แล้วก็ไม่ต้องขอโทษสำหรับคำถามพวกนี้หรอก นี่คือคำถามที่มนุษย์ชายหญิงได้เฝ้าถามมานับร้อยๆปีแล้ว
ถ้าหากมันโง่เง่าผู้คนคงไม่ถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานหรอก
มา...ไปที่คำถามแรกกัน
[ ๏ 1. - เมื่อไหร่ชีวิตของผมจะ `โงหัวขึ้น` เสียที?
- ยังขาดอะไรที่จะทำให้มัน `เข้าที่เข้าทาง` และประสบความสำเร็จแม้เพียงเล็กน้อยได้บ้าง?
- การต่อสู้ดิ้นรนในชีวิตผมจะยุติลงไหม? ]
ฉันได้สร้างกฎเกณฑ์ต่างๆในจักรวาลขึ้นเพื่อเธอจะได้มี ได้สร้าง สิ่งที่เธอเลือก
2
กฎเหล่านี้ไม่สามารถละเมิดหรือเพิกเฉยได้
แม้ขณะที่กำลังอ่านถ้อยคำนี้เธอก็กำลังปฏิบัติตามอยู่
2
เธอไม่อาจไม่ทำตามกฎนี้ได้เพราะมันคือวิถีที่ทำให้สิ่งต่างๆดำเนินไป
เธอไม่สามารถออกไปจากกฎหรือทำสิ่งใดนอกเหนือจากกฎได้
ทุกนาทีในชีวิต...เธอใช้ชีวิตอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์นี้
และ *ทุกสิ่งที่เธอเคยมีประสบการณ์ก็คือสิ่งที่เธอสร้างขึ้นมานั่นเอง*
2
เธอคือหุ้นส่วนของพระเจ้า
เราร่วมพันธะสัญญากันชั่วนิจนิรันดร์
1
"คำสัญญา" ที่ฉันให้ไว้กับเธอคือ
ฉันจะให้สิ่งที่เธอขอ
1
คำมั่นสัญญาของเธอคือการร้องขอ คือการเข้าใจถึงกระบวนการของการขอและการตอบคำร้องขอนั้น
ฉันอธิบายกระบวนการนี้แก่เธอมาแล้วครั้งหนึ่ง และจะทำอย่างนั้นอีกครั้ง
เพื่อเธอจะได้เข้าใจแจ่มแจ้ง
เธอดำรงอยู่ในสามระนาบ
ตัวเธอประกอบด้วย :
ร่างกาย (body)
จิตใจ (mind)
และวิญญาณ (spirit)
ซึ่งเธออาจจะเรียกว่า :
กายภาพ (physical)
อกายภาพ (non-physical)
และ อภิกายภาพ (meta-physical) ก็ได้
นี่คือตรีเอกานุภาพซึ่งถูกเรียกในชื่อต่างกันไป
*เธอเป็นสิ่งใดฉันก็เป็นสิ่งนั้น*
2
ฉันแสดงตัวออกมาในฐานะองค์สาม
ซึ่งนักศาสนศาสตร์บางคนเรียกว่า :
พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์
เหล่านักจิตบำบัดล่วงรู้สามส่วนนี้และเรียกว่า :
จิตสำนึก (conscious)
จิตใต้สำนึก (subconscious)
และจิตเหนือสำนึก (superconscious)
นักปรัชญาของเธอใช้คำว่า :
สัญชาตญาณ (id-identity)
อัตตา(ego)
และจิตเหนืออัตตา (super ego)
วิทยาศาสตร์เรียกว่า :
พลังงาน (energy)
สสาร (matter)
และปฏิสสาร (antimatter)*
[*Antimatter : สสารที่ประกอบด้วยอนุภาคเหมือนกันแต่มีประจุไฟฟ้าต่างกัน ~ ผู้แปล]
กวีกล่าวถึง :
จิต ใจ และ วิญญาณ
(mind, heart, soul)
นักคิดนิวเอจ* อ้างถึง :
ร่างกาย จิตใจ และ วิญญาณ
(body, mind, spirit)
[*New Age : กระแสเคลื่อนไหว (Movement) ของกลุ่มปัจเจกเพื่อแสวงหาคำอธิบายและความเข้าใจชีวิต รวมถึงการปฏิบัติทางจิตวิญญาณในแนวทางที่ไม่อิงกับศาสนา ด้วยรู้สึกว่าวิธีอธิบายสิ่งต่างๆตามแบบศาสนาเพียงอย่างเดียว ไม่อาจตอบสนองต่อเบื้องลึกในจิตใจหรือให้คำตอบชีวิตแก่พวกเขาได้อีกต่อไป อีกทั้งเห็นว่ายังมีความจริงสำคัญของชีวิตอีกหลายประการที่ศาสนาไม่ได้กล่าวถึง และ "เชื่อว่าแต่ละคนย่อมมีเส้นทางทางจิตวิญญาณที่ต่างกันไปตามวิถีทางของแต่ละคน ไม่มีสูตรสำเร็จเดียวที่ใช้ได้กับทุกคน" ~ ผู้แปล]
เวลา (time) ของเธอ แบ่งออกเป็น
อดีต ปัจจุบัน และ อนาคต
1
แล้วมันไม่เหมือนกันตรงไหนกับจิตใต้สำนึก จิตสำนึก และ จิตเหนือสำนึก?
พื้นที่ (space) ก็ถูกแบ่งออกเป็นสามนั่นคือ
ที่นี่ ที่นั่น และ ที่ว่างระหว่าง
การระบุหรืออธิบาย "ที่ว่างระหว่าง" นั้นยากเอาการ เพราะเมื่อเธอเริ่มอธิบายหรือให้คำนิยาม มันก็จะกลายเป็น "ที่นี่" หรือ "ที่นั่น" ไป
แต่เราก็รู้ว่ามันมีอยู่จริงๆ เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้ "ที่นี่" และ "ที่นั่น" ตั้งอยู่ได้
เหมือนที่`ปัจจุบันอันเป็นนิรันดร์`ทำให้ "ก่อนหน้า" และ "ภายหลัง" ตั้งอยู่ได้นั่นละ
คุณลักษณะทั้งสามของเธอแท้จริงคือ
"พลังงานสามอย่าง"
เธออาจเรียกว่า :
`ความคิด `ถ้อยคำ และ `การกระทำ
1
เมื่อทั้งหมดนี้รวมกันจะเกิดผลลัพธ์
ซึ่งในภาษาและความเข้าใจของเธอเรียกว่า
*ความรู้สึกหรือประสบการณ์*
1
"วิญญาณของเธอ" (จิตใต้สำนึก สัญชาตญาณ จิตวิญญาณ อดีต ฯลฯ) คือ *ผลรวมของทุกความรู้สึกที่เธอเคยมี* (หรือเคยสร้างสรรค์ขึ้น)
1
"การตระหนักรู้ถึงบางส่วนของมัน" เรียกว่า
"ความทรงจำ"
3
เมื่อเธอมีความทรงจำ (Memory) จึงกล่าวกันว่า "เธอระลึกได้" เธอได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของมันอีกครั้ง (Re-member) นั่นคือ "การกลับมาร่วมกัน" นำส่วนต่างๆมาประยุกต์กันอีกครั้ง
1
เมื่อเธอ "ชุมนุมทุกส่วนเสี้ยวของตนเข้าด้วยกัน"
เธอก็จะจดจำได้ว่า :
*ตัวตนที่แท้จริงของเธอคือใคร*
. . .
กระบวนการสร้างสรรค์ "เริ่มต้นที่ความคิด"
ซึ่งก็คือ มโนคติ ความนึกคิด หรือ จินตภาพ
1
ทุกสิ่งที่เธอมองเห็นครั้งหนึ่งล้วนเคยเป็นแนวคิดของใครคนหนึ่งมาก่อน
1
*ไม่มีสิ่งใดเลยที่ปรากฏขึ้นในโลกของเธอซึ่งไม่เคยปรากฏครั้งแรกในฐานะความคิดล้วนๆ*
นี่เป็น "ความจริงสำหรับจักรวาล" ด้วยเช่นกัน
1
"ความคิด" คือ ขั้นแรกของการสร้างสรรค์
1
. . .
ลำดับต่อมาคือ "ถ้อยคำ"
ทุกสิ่งที่เธอพูดคือการแสดงออกของความคิด มันมีอำนาจสร้างสรรค์และส่งพลังงานแห่งการสร้างสรรค์นั้นออกสู่จักรวาล
`คำพูด`มีพลวัตมากกว่า (หรือบางครั้งอาจพูดได้ว่ามีพลังสร้างสรรค์มากกว่า) ความคิด
1
เพราะคำพูด "มีความสั่นสะเทือนในระดับที่ต่างจากความคิด"
1
พวกมันเข้าไปรบกวน (เปลี่ยน ปรับ กระทบ)
ต่อจักรวาล "ด้วยแรงปะทะที่มากกว่า"
"คำพูด" คือ ระดับที่สองของการสร้างสรรค์
. . .
ต่อไปได้แก่ "การกระทำ"
การกระทำคือคำพูดที่เคลื่อนไหว
คำพูดคือการแสดงออกของความคิด
1
ความคิดคือมโนคติที่ก่อรูปร่าง
มโนคติมาจากพลังงานรวมตัวกัน
พลังงานคือการปลดปล่อยของแรง
แรงคือมวลธาตุที่ตั้งอยู่
ธาตุคืออนุภาคของพระเจ้า
คืออณูของสิ่งนั้น
คือเนื้อแท้ของสรรพสิ่ง
*จุดเริ่มต้นคือพระเจ้า
*จุดจบคือการกระทำ
1
"การกระทำ" คือ การสร้างสรรค์ของพระเจ้า
หรือการที่พระเจ้าได้มีประสบการณ์นั่นเอง
. . .
ความคิดที่เธอมีต่อตัวเองก็คือ เธอไม่ดีพอ ไม่เยี่ยมพอ ไม่ไร้บาปพอที่จะเป็นส่วนหนึ่งหรือเป็นหุ้นส่วนกับพระเจ้าได้
เธอ "ปฏิเสธ" ตัวตนที่แท้จริงของตัวเองมานานจน "จำไม่ได้แล้วว่าเธอคือใคร"
1
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ไม่ใช่เหตุบังเอิญ
2
แต่คือส่วนหนึ่งของ "แผนการศักดิ์สิทธิ์"
2
ด้วยเหตุว่าเธอ "ไม่อาจ" ที่จะอ้าง สร้าง หรือมีประสบการณ์ว่าตนคือใคร *หากเธอเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว*
1
จึงจำเป็นที่เธอจะต้อง "ลบ (ปฏิเสธ/ลืม)" ความเชื่อมโยงกับฉันเสียก่อน เพื่อเธอจะได้มีประสบการณ์เต็มเปี่ยม "จากการสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ด้วยการทำให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้น"
2
เพราะ "ประสงค์อันสง่างามที่สุดของเธอ" และ "ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉัน" ก็คือ :
*ให้เธอได้มีประสบการณ์ถึงตัวเองในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของฉัน*
1
เหตุนั้นเธอจึงอยู่ในกระบวนการแห่งการมีประสบการณ์ถึงตัวเองผ่านการสร้างสรรค์ตัวตนขึ้นใหม่ใน "ทุกขณะจิต" เช่นเดียวกับที่ฉันทำ "ผ่านทางเธอ"
เธอเห็นความเป็นหุ้นส่วนของเราหรือยัง?
เธอจับความเกี่ยวพันของมันได้ไหม?
นี่คือ "การร่วมมือ" อันศักดิ์สิทธิ์
ซึ่งจริงๆก็คือ *การหลอมรวม* อันศักดิ์สิทธิ์
ชีวิตเธอจะ "โงหัวขึ้น"
เมื่อเธอ "เลือกให้เป็นอย่างนั้น"
1
เธอยัง "ไม่ได้เลือกจริงๆเลย"
2
เธอยังผลัดวันประกันพรุ่ง
หน่วงเหนี่ยว ยืดเยื้อ และประท้วงอยู่
ตอนนี้ได้เวลาแล้วที่จะประกาศและสร้างสิ่งที่เธอให้สัญญาไว้
1
การจะทำอย่างนั้นได้เธอต้อง "เชื่อในคำสัญญา" และ "ใช้ชีวิตตามนั้น" เสียก่อน
1
*เธอจะต้องใช้ชีวิตตามคำสัญญาของพระเจ้า*
"คำสัญญาของพระเจ้า" ก็คือ "เธอคือบุตรของพระองค์" "ทายาทของนาง" "คือฉายาลักษณ์เดียวกัน" คือ *ผู้เสมอพระเจ้า*
1
อา...นี้คือจุดที่เธอ`ติดค้าง`อยู่
เธอสามารถยอมรับการเป็น "บุตรของพระเจ้า" "ฉายาลักษณ์เดียวกัน" แต่กลับถอยหนีหากบอกว่า *เธอคือผู้เสมอพระเจ้า*
มันมากเกินกว่าจะยอมรับได้
มันยิ่งใหญ่เกินไป
น่าอัศจรรย์เกินไป
และต้อง "รับผิดชอบมากเกินไป"
เพราะถ้าเธอเสมอพระเจ้าแล้วย่อมหมายความว่า : "ไม่มีสิ่งใดจะกระทำต่อเธอได้"
1
"ทุกสิ่งล้วนเกิดจากการสร้างของเธอเอง"
1
"จะไม่มีคนเลวหรือเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายอีก"
*มีเพียงผลลัพธ์จากความคิดที่เธอมีต่อสิ่งต่างๆเท่านั้น*
1
ฉันขอบอกเธอว่า : ทุกอย่างที่เธอเห็นในโลกของเธอ *ล้วนแต่เป็นผลลัพธ์จากความคิดที่เธอมีต่อสิ่งเหล่านั้นทั้งสิ้น*
1
เธอต้องการให้ชีวิต "โงหัวขึ้น" จริงๆใช่ไหมล่ะ?
ถ้าอย่างนั้น "จงเปลี่ยนความคิดที่มีต่อชีวิต"
"เปลี่ยนความคิดที่มีต่อตัวเอง"
1
จง `คิด `พูด และ `ทำ
*เสมือนเธอเป็นพระเจ้า*
2
แน่นอนว่าการทำอย่างนั้นจะแยกเธอออกจากคนส่วนใหญ่ และบรรดาเพื่อนมนุษย์ของเธอ
พวกเขาจะเรียกเธอว่า "คนบ้า"
และจะหาว่าเธอดูหมิ่นจาบจ้วง
ในที่สุดก็จะทนไม่ได้และจะพยามตรึงกางเขนเธอ
พวกเขาไม่ได้ทำอย่างนั้น เพราะคิดว่าเธอกำลังอยู่ในมายาการของตัวเองหรอก (คนส่วนใหญ่มีมารยาทพอที่จะปล่อยให้เธอสนุกกับความบันเทิงส่วนตัว)
แต่เป็นเพราะว่าไม่ช้าก็เร็ว คนอื่นๆจะถูกดึงดูดเข้าหาความจริงของเธอเพราะคำสัญญาที่เธอให้แก่พวกเขา
นี่คือตอนที่เพื่อนมนุษย์ของเธอจะเข้ามายุ่งเกี่ยว แล้วจุดนี้เองที่เธอเริ่มข่มขวัญพวกเขา
เนื่องเพราะ "สัจจะอันเรียบง่ายของเธอ"
เมื่อ "แสดงออกมาอย่างเรียบง่าย"
จะมอบความงามยิ่งกว่า
ปลอบโยนยิ่งกว่า
สันติยิ่งกว่า
เบิกบานมากกว่า
รักตนเองและผู้อื่นได้มากกว่ากลวิธีใดที่เพื่อนร่วมโลกของเธอจะเสกสรรค์ขึ้นได้
หากพวกเขา "รับสัจจะนี้ไว้" ก็ย่อมหมายถึง
"การสิ้นสุดวิถีของตน"
1
และยังหมายถึงการสิ้นสุดความเกลียดชัง
ความกลัว มานะถือตนและสงครามอีกด้วย
คือ "จุดจบของการประณามและเข่นฆ่าในนามของฉัน"
"จุดจบของความคิดว่าอำนาจคือธรรม"
"จุดจบของการค้าผ่านทางอำนาจ"
"จุดจบของความซื่อสัตย์
และภักดีเพราะความกลัว"
"จุดจบของโลกที่พวกเขารู้จักและเป็นโลกที่`เธอ`ได้สร้างขึ้นมายาวนาน"
ฉะนั้นจงเตรียมตัวให้พร้อมเถิด
ดวงวิญญาณที่ดีเอ๋ย!
1
ด้วยเธอจะถูกด่าว่า ถูกถ่มน้ำลายใส่
ถูกเรียกหาและถูกทอดทิ้ง
กระทั่งในที่สุดพวกเขาจะกล่าวหาเธอ ทดลองเธอ และตัดสินว่าเธอมีความผิดด้วยวิธีการทุกอย่าง
นับตั้งแต่ห้วงยามที่เธอยอมรับ
และรับเอาภารกิจศักดิ์สิทธิ์นี้ไว้เป็น :
*ภารกิจแห่งการตระหนักรู้ในตัวตน*
1
ถ้าอย่างนั้นจะทำไปทำไม ใช่ไหม?
ก็เพราะเธอ "ไม่ใส่ใจกับการยอมรับหรือการรับรองจากโลกอีกต่อไป"
2
"ไม่พอใจกับสิ่งที่โลกนำมาให้อีก"
และ "ไม่ยินดีกับสิ่งที่มันมอบให้คนอื่นๆด้วย"
เธอต้องการให้ความเจ็บปวดสิ้นสุด
ความทุกข์ทรมานยุติ
มายาสลาย
เธอพอแล้วกับโลกที่เป็นอยู่นี้
และแสวงหาโลกใบใหม่
1
ทว่า "ไม่ต้องเสาะหาอีกต่อไป"
*แต่จงนำออกมา*
1
...
...
...
บันทึก
1
3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
สนทนากับพระเจ้า เล่ม 1
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย