6 มี.ค. 2020 เวลา 12:14 • ปรัชญา
คุณเป็น Growth mindset หรือ Fix mindset
มาทดสอบกันค่ะ ว่าเราเป็นแบบไหน เพื่อรู้จักตัวเองกันมากขึ้นค่า^^
อ่านแล้ว นับดูนะคะ ว่าเราเป็นแบบ สีแดง (วงกลม)หรือ สีน้ำเงิน (สี่เหลี่ยม) มากกว่ากันค่ะ
เริ่มเลย
🔴เชื่อว่าความสามารถต่างๆ ความเก่ง ความฉลาด ถูกกำหนดไว้แล้ว
10
🔴ต้องแสดงให้คนอื่นรู้สึกว่าตัวเองฉลาดเสมอ
5
🟦การฝึกฝนตัวเองทำให้เป็นคนฉลาด
9
🟦ใช้เวลาไปกับการเรียนรู้
5
🟦เชื่อว่าทุกคนพัฒนาตัวเองให้เก่งได้
11
🔴เมื่อถูกตำหนิ หรือได้ผลงานไม่ดี จะตัดสินใจทันทีว่าไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้
5
🟦พยายามเตรียมตัวและทำงานหนักขึ้นเพื่อนำเสนอครั้งต่อไป
6
🔴คนรอบข้างมักชมว่าเก่ง
4
🟦คนรอบข้างมักชมว่ามีความพยายาม
8
🔴ไม่กล้าออกความคิดเห็น เพราะคิดว่า ตัวเองไม่เก่ง กลัวหน้าแตก กลัวความผิดพลาด คิดไม่เป็นระบบ
3
🔴 ไม่กล้านำเสนอสิ่งใหม่ๆ เพราะ ไม่แน่ใจในความคิดที่นำเสนอ
2
🔴 ไม่เชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเองและเพื่อนร่วมงาน เพราะความคิด ความเชื่อ และประสบการณ์ในอดีต
2
🔴 ไม่อยากเติบโตหรือเลื่อนตำแหน่ง เพราะ กลัวว่าจะทำไม่ได้ดี กลัวเหนื่อยแล้วไม่คุ้มกับงาน
6
🔴ไม่เชื่อว่าตัวเองจะเปลี่ยนแปลงได้
2
🟦เชื่อว่าคนเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้
7
🔴ต้องการให้คนยอมรับ ต้องการพิสูจน์ตัวเอง
3
🟦ต้องการพัฒนาตัวเอง
5
🔴มองว่าความล้มเหลวคือหายนะ
2
🔴มองว่าความผิดพลาดเป็นหลักฐานว่าพ่ายแพ้และไม่ดีพอ และมันจะเป็นแบบนั้นตลอดไป
2
🔴 ต้องการความมั่นใจ และพยายามรักษาความมั่นใจนั้นไว้ โดยการโทษคนอื่น หาขอแก้ตัว โกง จะไม่หาทางหรือคิดวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ฝึกฝนพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น มองว่าตัวเองเป็นได้แค่นี้
2
🔴มักจะหลีกเลี่ยงปัญหา เมื่อต้องเจอกับสถานการณ์ที่ยาก ท้าทาย มองว่ามันเป็นความเสี่ยง
1
🔴มักจะด่วนตัดสินว่า ตัวเองมีปัญญา มีความพยายาม มีความสามารถอยู่ในระดับหนึ่งเท่านั้น
🔴 เป็นคนที่ไม่ว่าในสถานการณ์อะไรก็ตาม มักจะกังวลอยู่เสมอว่า ด้วยปัญญาและด้วยคุณสมบัติของตัวเองที่มีอยู่เท่านี้ เราจะทำได้หรือเปล่า
🔴 หากทำไม่ได้คนอื่นจะมองว่าเราเป็นคนไร้ความสามารถหรือเปล่า เราจะถูกมองข้ามหรือเปล่า เราจะรู้สึกว่าเป็นคนที่พ่ายแพ้หรือเปล่า
🟦เชื่อว่าคุณสมบัติพื้นฐานของแต่ละคนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ สามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้จากความพยายาม ถึงแม้ว่าคนเราจะเริ่มต้นไม่เท่ากัน
🟦ทุกคนสามารถพัฒนาและเติบโตด้วยการฝึกฝนและเรียนรู้จากประสบการณ์
1
🟦ไม่ปกปิดจุดอ่อนของตัวเอง แต่แก้ไขและเอาชนะมัน
1
🟦ไม่สนใจที่จะลองทำตามสิ่งที่ถูก แต่ประสบการณ์การลองผิดจะผลักดันและทำให้เรียนรู้ได้มากกว่า
2
🟦ความมุ่งมั่นพยายามทำ ท้าทายตัวเอง ยึดมั่นอยู่กับมันถึงแม้ว่าจะยังทำได้ไม่ดีก็ตาม
1
🔴 ต้องการความมั่นใจ และทำแต่สิ่งที่ตัวเองมั่นใจว่าทำได้
1
🔴 ไม่ต้องการเปิดเผยปมด้วย หรือจุดอ่อนของตัวเอง แต่ต้องการรู้สึกแค่ว่าเป็นคนฉลาด ถูกมองว่าเป็นคนเก่ง
🔴 สนใจทำแต่เรื่องที่มันตรงกับความสามารถที่ตัวเองถนัด
🟦สนใจและให้ความสำคัญกับเรื่องที่มันจะขยายขอบเขตความรู้ของตัวเองออกไป และเลือกโอกาสที่จะได้เรียนรู้ มากกว่าความสำเร็จในระยะสั้นที่อยู่ตรงหน้า
🔴 มองหาคนที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่พิเศษ คนที่จะเติมเต็มและทำให้ตัวเองสมบูรณ์แบบ คนที่จะคอยยกย่องและชื่นชม
🟦มองหาคนที่แตกต่าง คนที่จะคอยมองหาและบอกจุดบกพร่องและคอยช่วยแก้ไข คนที่จะท้าทายเพื่อให้เรากลายเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม คนที่จะกระตุ้นให้เราเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
🟦มองหาโอกาสที่ท้าทาย แต่ยังโดดเด่นและพยายามทำได้ดี ยิ่งท้าทายมากเท่าไหร่ ก็จะพยายามมากยิ่งขึ้นและเติบโตมากขึ้น
1
🔴ทำเฉพาะในสถานการณ์ที่มีความมั่นใจว่าจะทำได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มีความท้าทาย มีความเสี่ยงที่จะทำไม่สำเร็จ เสี่ยงที่คนอื่นจะมองว่าเป็นคนไร้ความสามารถ ก็จะไม่สนใจ
🔴 คิดว่าตัวเองจะมาพร้อมกับความสามารถ ไม่ต้องเรียนรู้ ไม่ต้องฝึกฝนก็จะทำได้
🔴คิดว่าหากไร้ความสามารถ ไม่มีพรสววรค์ด้านนี้ ก็จะไม่มีทางทำได้ ถ้าทำได้ก็เป็นเพราะมีพรสวรรค์ในด้านนี้ แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็จะขาดความมั่นใจและคิดว่าไม่มีพรสวรรค์ และก็จะเป็นแบบนี้ตลอดไป
🟦มีวิธีจัดการกับความกังวลเพื่อที่จะยังคงให้ความสนใจในการเรียน
2
🔴 มักจะกลายเป็นคนที่ไม่กระตือรือร้น
🟦ไม่สนใจผลการเรียนของตัวเอง ไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ แต่สนใจแค่การพัฒนาตนเอง และพอใจอยู่กับการท้าทายตัวเอง เพื่อไปให้ถึงศักยภาพที่แท้จริงของตัวเองเท่านั้น
🟦มองว่าผลการเรียนหรือคะแนนสอบไม่ได้วัดความสามารถ ไม่ได้บอกว่าใครเป็นคนฉลาด เด็กที่คิดแบบเติบโต จะรู้และมองว่ามันต้องใช้เวลาที่จะพัฒนาตนเองและเข้าถึงศักยภาพที่แท้จริง
1
🔴 ถ้าเรียนได้เกรดต่ำ ก็จะเชื่อว่าตัวเองไม่เก่ง ไม่ถนัดวิชานั้นๆ
🔴 มองว่าคะแนนเป็นสิ่งสำคัญที่ใช้วัดความสามารถ และเชื่อว่ามันจะบอกได้ว่าคนไหนฉลาดกว่ากัน และมันจะบอกว่าใครจะโตขึ้นและเป็นคนฉลาด
🔴 ห่วงเรื่องความสำเร็จมากกว่าคนที่คิดแบบเติบโต สิ่งที่เค้าต้องการพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่าเป็นคนพิเศษกว่าใคร เหนือกว่า มีพรสวรรค์และแตกต่างจากคนอื่นๆ
🔴 ความล้มเหลวเพียงครั้งเดียวก็ส่งผลกระทบ ทำให้หลอกหลอนไปอีกนาน
1
🔴 มักจะพยายามรักษาความมั่นใจในตนเอง โดยการมองไปที่คนที่ด้อยกว่าตัวเอง ปลอบใจให้ตัวเองยังคงมั่นใจและรู้สึกดี นอกจากนั้นยังพยายามผลักความผิดไปให้คนอื่น และหาข้ออ้างอยู่เสมอแทนที่จะเรียนรู้และพยายามแก้ไขความผิดพลาด
🟦มองไปยังคนที่ดีกว่าตัวเอง และมักจะแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้น แก้ไขจุดบกพร่องของตัวเอง ไม่พยายามปลอบใจตัวเองด้วยการเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนที่ด้อยกว่า
2
🔴ความผิดพลาดทำให้โทษตัวเอง และความมั่นใจในตัวเองลดลง คิดว่าตัวเองไม่คู่ควร ไม่เป็นที่ต้องการ
🟦เชื่อว่าคนเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เชื่อว่าตัวเองสามารถเติบโต และมักจะพัฒนาตนเอง ชอบการเรียนรู้ เรียนรู้อยู่เสมอ
1
🔴 คิดว่า ตัวเองไร้ความสามารถ และไม่คู่ควร และในที่สุดก็จะทำให้กลายเป็นคนล้มเหลว และยิ่งกังวลมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งปล่อยวางและล้มเลิกความตั้งใจ ไม่สนใจที่จะแก้ไขปัญหา ไม่เรียนรู้ในสิ่งที่จำเป็น ไม่ส่งงาน และตามไม่ทันคนอื่นๆ
🔴 มักจะกังวลว่าความล้มเหลวจะทำให้คนอื่นมองว่าเป็นคนไร้ความสามารถ ไม่ฉลาด ไม่เก่ง ไม่มีพรสวรรค์
🟦มองความล้มเหลวเป็นโอกาสที่ได้เรียนรู้ มันอาจจะเจ็บใจอยู่บ้าง แต่มันก็แค่ชั่วคราว ยังคงพัฒนาความสามารถขึ้นไปได้อีก และมันยังมีหนทางอื่นๆ ที่จะประสบผลสำเร็จได้
1
🔴 คิดว่าคนที่มีพรสวรรค์ไม่จำเป็นต้องพยายามมาก การคิดแบบนี้ทำให้ปิดโอกาสในการพัฒนาตนเอง และในสถานการณ์ที่ต้องเจอกับความท้าทาย คนเหล่านี้ก็ไม่ยอมเสี่ยงที่จะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องทำให้คนอื่นมองว่าตัวเองไร้ความสามารถ
🟦จะมองว่าอัจฉริยะเกิดจากความพยายามและการทำงานหนัก ให้ความสำคัญกับความพยายามมากกว่าพรสวรรค์ และเชื่อว่าความพยายามมันจะส่งผลให้เกิดความสำเร็จ
1
🔴 ความพยายามคือความบกพร่อง เพราะถ้าหลังจากที่พยายามแล้วแต่ก็ยังทำไม่สำเร็จ ก็จะไม่มีข้ออ้างได้อีก
🔴 ความพยายามเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับคนที่ไม่มีพรสวรรค์ คนที่บกพร่อง คนที่ไม่มีอะไรจะเสียและจะต้องพยายามเท่านั้น
🔴 คิดว่าตัวเองสามารถทำได้โดยที่ไม่พยายาม คิดว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะและมีพรสวรรค์ ก็จะมีอะไรให้เสียเยอะกว่า ความพยายามจะทำให้ลดค่าของตัวเองลง
🔴 ไม่ชอบความท้าทาย เต้องการที่จะอยู่ในกรอบความสำเร็จและไม่ต้องการเสี่ยงที่จะกลายเป็นคนที่พ่ายแพ้และถูกมองว่าเป็นคนที่อ่อนแอ ทำให้กลายเป็นคนที่ไม่ชอบการแก้ปัญหายากๆ
🔴 เชื่อในพรสวรรค์ เชื่อว่าความสามารถของคนถูกออกแบบมาและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อีก คนเรามีกลุ่มที่ฉลาดและกลุ่มของคนที่ไง่และไร้ความสามารถ และมันก็จะเป็นแบบนั้นตลอดไป
🔴 เชื่อว่าจะทำงานได้ดีเมื่องานนั้นตรงกับความสามารถพิเศษที่มี
ไม่เชื่อว่าความขยันฝึกฝนเรียนรู้จะทำให้เราดีขึ้นได้ หรือทำให้กลายเป็นคนที่ยอดเยี่ยมได้
🔴มองว่าตัวเองมีข้อดีและมีข้อด้อยบางอย่าง มักจะใส่ใจกับความคิดเห็นของคนอื่นๆ
จึงพยายามที่จะแสดงความสามารถให้เห็นในทุกโอกาส เพื่อพิสูจน์ตัวเองให้คนอื่นเห็น เพื่อตอบสนองและรักษาอีโก้ของตัวเองเอาไว้ ให้คนอื่นรู้ว่าตัวเองมีดี
🟦พอใจในสิ่งที่ตัวเองทำ และจะทำสิ่งนั้นต่อไปได้เรื่อยๆ ถึงแม้ว่าจะต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก หรือว่าจะยังทำไม่ได้ก็ตาม ความสำเร็จเป็นผลพลอยได้จากความพยายามทำในสิ่งที่ตนเองชอบ ความสำเร็จและการได้ไปอยู่ในจุดสูงสุด
1
🔴 มองว่าผลลัพธ์คือทุกอย่าง ถ้าเมื่อไหร่ที่แพ้หรือล้มเหลว ก็จะคิดว่าไม่ใช่คนที่ดีที่สุด และมองว่าเป็นการเสียเวลา
🟦เห็นคุณค่าในสิ่งที่ตัวเองทำ โดยไม่สนใจผลลัพธ์ ถึงแม้ว่าจะยังทำไม่ได้ ก็ยังเห็นคุณค่าของความพยายาม และยังจะต้องพยายามทำต่อไป
1
🟦แต่การคิดแบบเติบโตไม่ได้บังคับว่าเราจะต้องไขว่คว้าหรือต้องประสบผลสำเร็จ มันเป็นวิธีคิดที่จะช่วยให้เราพัฒนาทักษะที่จำเป็น เป็นเรื่องของเราที่จะตัดสินใจว่าต้องการอะไร
1
🟦จะยังทำถึงแม้ว่าไม่มั่นใจว่าจะทำได้ หลายครั้งที่ทำเพียงเพราะว่ายังทำได้ไม่ดีพอ นี่คือสิ่งที่ดีของการคิดแบบนี้ มันทำให้เราลงมือทำได้โดยที่ไม่ต้องคิดว่าตัวเองดีหรือตัวเองทำได้ ก็แค่สนุกที่ได้ทำ
1
มารวมคะแนนกันนะคะ
หากมีสีน้ำเงิน(สีเหลี่ยม)มากกว่า คุณเป็น Growth mindset
หากมีสีแดง(วงกลม)มากกว่า คุณเป็น Fix mindset
2
Mindset นี่ เป็นเสมือนเข็มทิศชีวิตให้เราก้าวไปเลยค่ะ เพราะทัศนคติ วิธีคิดและความเชื่อของคนแต่ละคน ที่ส่งผลโดยตรงต่อพฤติกรรมและการตัดสินใจของคนผู้นั้น
เมื่อมีเหตุการณ์เข้ามา วิธีคิดและการตัดสินใจเลือกของเรานี่แหล่ะค่ะ เป็นตัวกำหนดว่าเราไปต่อได้แค่ไหน
1
เมื่อรู้จักตัวเองกันแล้ว
เพื่อนคนไหน เป็น Growth mindset จะพบว่าตัวเอง เป็นคนที่เรียนรู้ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และคนส่วนใหญ่ที่เป็นแบบนี้ จะประสบความสำเร็จ
2
แต่หากเราเป็น Fix mindset ก็ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จไม่ได้ แต่อาจจะช้า หรือช้ามาก
เราจึงควรมาฝึกฝนพัฒนาเปลี่ยนแปลงเป็นเป็นวิธีคิดแบบ Growth mindset กันดีกว่าค่ะ
วิธีการเปลี่ยน จะพบกันที่บทความถัดไปนะคะ
ที่นี่ค่ะ
เพิ่มการเปลี่ยนแปลงวันละนิด
เหมือนเติมวันละ 1 องศา
1 วัน อาจจะไม่มีอะไร
10 วันไม่มีความต่าง
แต่ 100 วันล่ะ 1000 วันล่ะ
จะเปลี่ยนแปลงไปโดยแทบไม่เห็นร่องรอยเดิม
มาร่วมกันหา1องศา เพื่อเติมเต็มวงล้อชีวิตให้สมบูรณ์ไปกับพิ้งกี้และบลูบลูกันใหม่นะคะ
หากชอบบทความนี้ กดFollow กดLike กดShare เป็นกำลังใจให้พิ้งกี้และบลูบลูด้วยค่า
ติดตามที่ Facebook
#growthmindset #fixmindset #mindset #คิด #วิธีคิด #เติบโต #หยุดนิ่ง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา