7 มี.ค. 2020 เวลา 12:14 • ปรัชญา
การปรับเปลี่ยนให้ตัวเอง เป็น Growth mindset
ชีวิตของเราในปัจจุบัน คือ การคิดและตัดสินใจเลือกในอดีตเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
ชีวิตของเราในอนาคต คือ การคิดและตัดสินใจเลือกในวันนี้
1
บทความที่แล้ว เราได้ทดสอบกันแล้ว ว่าเรามีวิธีคิดแบบ Growth mindset หรือ Fix mindset
แล้วทำไมเราถึงต้องรู้จักตัวเอง เพราะ ไม่ว่าเราจะดีหรือร้าย ชีวิตเราขึ้นอยู่กับความคิดและการตัดสินใจเลือกของเราทั้งนั้นค่ะ
แต่หากเรายังไม่ทราบว่า เราเป็นแบบไหน ก็เปรียบเหมือน เราจะเรียกรถให้มาพาไปที่จุดบี แต่เราบอกคนขับรถไม่ได้ว่า ให้มารับเราที่ไหนกันแน่
1
สรุปการคิดแบบ Growth mindset
- เมื่อชีวิตเจอปัญหาหรือความท้าทายจะเข้าลุย
- รู้สึกว่าความพยายามนี่แหละคือหนทางนำไปสู่ความเก่งความชำนาญและความเมพ
- เมื่อเจอคำวิจารณ์แย่ ๆ ก็จะเรียนรู้จากมันแทนการเพิกเฉย
- มองความสำเร็จของคนอื่นเป็นบทเรียนและแรงบันดาลใจ
การคิดแบบ Fix mindset
-พยายามหลีกเลี่ยงทุกปัญหา
- ยอมแพ้กับทุกสิ่งอย่างง่ายดาย
- รู้สึกว่าความพยายามเป็นสิ่งไร้ค่า
- เมื่อได้รับ Feedback ด้านลบของตัวเองก็จะปฏิเสธว่ามันไม่จริงและไม่สนใจใด ๆ
- รู้สึกว่าความสำเร็จของคนอื่นทำให้ชีวิตตัวเองห่อเหี่ยว
1
ทดสอบว่าเราเป็น Growth mindset หรือ Fix mindset ได้ที่นี่
วิธีการพัฒนาตัวเองให้มี Growth mindset
1. ยอมรับความจริง
ว่าเราเป็นแบบไหน ว่าตนเองเป็นคนแบบ Growth Mindset หรือ Fixed Mindset 
ถ้าเป็น Fixed Mindset ลองพิจารณาดูว่า เราจะสูญเสียอะไรบ้าง
ถ้าเราเป็น Growth Mindset ลองจินตนาการดูว่า เราจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง
ยิ่งตอบได้เยอะ ตอบตามความเป็นจริง ก็จะยิ่งเปลี่ยนเป็น Growth Mindset ได้เร็วยิ่งขึ้น
2. หา Role model หาต้นแบบที่เราอยากเป็น
ไปอยู่ใกล้ คนที่เราอยากเป็นแบบนั้น
เพราะ mindset เป็นสิ่งที่ติดต่อกันได้ คุณชื่นชอบการกระทำของใคร ชอบนิสัยของใคร ชอบวิธีคิดของใคร แล้วก็ติดตามเรื่องราวของคน ๆ นั้นซะ จากนั้น Mindset ของ Idol ผู้นั้นจะค่อย ๆ ไหลซึมมาสู่เราเองค่ะ
อย่าเลือกติดตาม Celebrity เพราะเค้าอาจดังแต่ไม่ใช่เรื่องที่ดี
แต่จงเลือกติดตาม Idol หรือ โมเดลแทนค่ะ
(ผู้นำที่ดีและน่าเอาเยี่ยงอย่าง)
1
3. เลือกคบคน
อยากเป็นแบบไหน ให้เลือกคบคนแบบนั้น
เช่น
เมื่ออยู่กับคนที่รู้จักใช้เงิน คุณจะกลายเป็นคนที่ใช้เงินเป็น
เมื่อคุณอยู่กับคนที่พัฒนาตัวเองตลอดเวลา คุณจะกลายเป็นคนพัฒนาตัวเองเช่นกัน
อาจสังเกตจากคนรอบข้างเขา ว่ามีเพื่อนแบบไหน แต่ละคนเป็นยังไง การปฎิบัติกับคนที่สูงกว่า การปฎิบัติกับคนที่ต่ำกว่า จะช่วยให้รู้จักคนนั้นได้ดีขึ้นด้วยค่ะ
4. เลือกสิ่งแวดล้อม การเอาตัวเองไปอยู่ในสังคมดีๆ
เช่น
เมื่ออยู่ในสังคมที่ชื่นชมคนดี สังคมจะทำแต่สิ่งดีๆ
เมื่ออยู่ในสังคมที่คนไม่คิดจะต่อแถวกัน Mindset ทุกคนจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นการแก่งแย่ง
1
เมื่อทุกคนพร้อมใจกันทิ้งขยะไม่เลือกที่ Mindset ของคนในสังคมนั้นก็จะทิ้งขยะกันเกลื่อนกลาด
เมื่อทุกคนบอกว่าการพูดภาษาอังกฤษผิดเป็นเรื่องแย่มาก คนก็คิดว่าการพูดภาษาอังกฤษเป็นเรื่องน่าอายและจะกลัวไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษกัน
มีการทดลองที่เอาอักษรแปะข้างขวดน้ำ หรือพูดกับน้ำ จนน้ำเปลี่ยนไปตามคำพูดของเรา สิ่งแวดล้อมมีผลต่อความคิดของเราจริงๆค่ะ
จะมีคำพูดว่า เราจะเป็นแบบคน 5 คน ที่มีอิทธิพลต่อความคิดของเราที่สุด
น้ำยังแปรรูปได้ตามคำพูดที่เราพูดกับเค้า
5. เลือกเสพสื่อที่คุณอยากเป็น
เมื่อคุณเสพอะไรมาก ๆ คุณจะกลายเป็นสิ่งนั้น
หากเสพสื่อ เสพข่าว เสพเรื่องอะไร ที่เป็นลบ ก็กลายเป็นคนคิดลบ
หากเสพอะไรที่เป็น เรื่องดีๆ คิดบวก สร้างสรรค์ เพิ่มจินตนาการ ก็จะกลายเป็นคนคิดบวก
เหมือน you are what you eat กินอะไร ผิวพรรณร่างกาย สื่อออกมาเป็นแบบนั้น
เช่นกันค่ะ ว่า You are what you share
6. รับพลังด้านบวกสม่ำเสมอ พร้อมปิดกันพลังด้านลบ
ปกติคนเราพร้อมจะคิดลบอยู่แล้ว การจะหันมาคิดบวกได้นั้น ต้องฝึกฝน และได้รับพลังความคิดบวกสม่ำเสมอ เหมือนทานข้าวฉันนั้น ฝึกหันไป Follow คนที่มีความคิดดีๆ รับสื่อดีๆ สิ่งเหล่านี้ กำหนดวิธีคิดของเราทั้งหมด
และต้องรู้จักปิดกั้นพลังด้านลบไม่ให้เข้ามาในชีวิตด้วยค่ะ
7. หยุดรับเรื่องดราม่า
ดราม่าเป็นพลังด้านลบ คอยแต่จะสร้างความเกลียดชังให้กับผู้คน
แรก ๆ ก็อาจจะยังโอเคอยู่ แต่เมื่อถึงวันนึงความดราม่าจะเข้าครอบงำและทุกอย่างจะกลายเป็นสิ่งเลวร้ายไปทั้งหมด
จะมองไม่เห็นความดีของสิ่งต่าง ๆ อีกเลย และสุดท้ายก็จะสร้างเรื่องดราม่าได้เอง อะไรก็ดราม่าได้หมด
8. ทยอยตัด Mindset ที่จะทำให้ชีวิตเราแย่ลงทิ้งไปซะ
เมื่อเราพยายามปรับเปลี่ยน เราจะค่อยๆรู้มากขึ้น อะไรทำให้ชีวิตเราดีขึ้น มีความสุขขึ้น อะไรทำให้ชีวิตแย่ลง เราจะเลิกมันไปเองค่ะ
9. ฝึกที่จะอ่านหนังสือ หรือ ฟังposcast คนที่สำเร็จ
คนที่ประสบความสำเร็จ กว่า 85% อ่านหนังสือพัฒนาตนเอง 
หรือหนังสือเกี่ยวกับการศึกษา อย่างน้อย 2 เล่มต่อเดือน
(ตรงนี้ต้องพิจารณาด้วยว่า สิ่งที่เค้าสำเร็จมานั้น สำเร็จมาจากตรงไหนด้วยค่ะ)
ฟังนิทาน 100 กระสอบ ที่นี่👉🏻
10. พาตัวเองไปหาสถานที่ใหม่ สิ่งใหม่
ลองถามตัวเองดูว่า ที่ทำงานอยู่ทุกวันนี้ เรากำลังสบาย จนชะล่าใจอยู่รึเปล่า
ถ้าคำตอบคือใช่ นั้นอาจเป็นสัญญาณให้คุณต้องออกไปหาความท้าทายใหม่ๆ เพราะเรื่องมหัศจรรย์ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราก้าวออกมาจาก comfort zone
11. ผลักดันขีดจำกัดเดิมๆ ของตัวเอง แข่งกับตัวเอง
มีงานวิจัยหนึ่ง ที่ให้ผู้เข้าร่วมปั่นจักรยานให้เหนื่อยที่สุดเป็นระยะทาง 4,000 เมตร
และหลังจากนั้นก็ให้ปั่นจักรยานแบบเดิม
แต่ครั้งนี้เป็นการแข่งกับการปั่นของตัวเองที่บันทึกไว้ครั้งแรก
สิ่งที่นักปั่นไม่รู้ คือตัวที่แข่งด้วยนั้นปั่นด้วpความเร็วกว่าที่พวกเขาทำไว้ในรอบแรก แต่ปรากฏว่านักปั่นสามารถทำความเร็วควบคู่ไปด้วยได้ และยังทำระยะได้ไกลกว่าเดิม
การทดลองนี้เป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่า เมื่อเราผลักดันตัวเอง เราจะไปได้ไกลกว่าที่ตัวเองคิดเสียอีก
1
12. ถามหา feedback
ผู้ที่อยากพัฒนาตัวเองทั้งในเรื่องส่วนตัวและในการทำงาน มักถามหาและพร้อมรับฟัง feedback ที่ช่วยพัฒนาพวกเขาได้
เป็นเพราะคนที่อยากจะเติบโต จะสนใจและชอบที่จะท้าทายตัวเองให้เก่งขึ้น โดยที่ไม่กลัวคำวิจารณ์หรือถูกตัดสิน 
เมื่อใดที่เราเข้าใจว่า เราจะพัฒนาได้ไกลแค่ไหน อยู่ที่ความตั้งใจมุ่งมั่นของเรา เราจะมีความมั่นใจที่จะถามหา feedback จากคนรอบข้าง และเรียนรู้ประโยชน์ได้
13. ฝึกเปลี่ยนคำถาม
เมื่อเจอเหตุการณ์ต่างๆ แล้วเราเคยคิดว่า ทำไม่ได้หรอก ให้ฝึกถามตัวเองใหม่ ว่าเราจะทำตรงนี้ให้ได้ได้อย่างไร
14. ให้ความสำคัญกับชัยชนะเล็กๆ
เช่น ก่อนนอน ตั้งใจตื่นมาวิ่ง .. แล้วตื่นจริง ก็ต้องบอกตัวเองว่าเราทำได้แล้ว
เรามักถูกสอนว่าอะไรทำได้ดี ก็เป็นหน้าที่
แต่สิ่งที่ทำไม่ดี คือความผิดพลาด
แต่ความจริง สิ่งที่เราทำได้ดี เราความเฉลิมฉลองให้กับตัวเอง ชื่นชมในชัยชนะของตัวเอง ครั้งแล้วครั้งเล่า
15. หยุดสนใจกับความคิดคนอื่น
ควรสนใจในสิ่งที่คุณควรสนใจ ไม่สนใจในสิ่งที่ไม่ควรสนใจ มุ่งความสนใจไปที่เป้าหมายที่ตั้งใจ สิ่งใดไม่ได้เป็นทางให้ไปสู่เป้าหมายนั้น อย่าเอามาคิดให้เปลืองเวลาค่ะ
เพิ่มการเปลี่ยนแปลงวันละนิด
เหมือนเติมวันละ 1 องศา
1 วัน อาจจะไม่มีอะไร
10 วันไม่มีความต่าง
แต่ 100 วันล่ะ 1000 วันล่ะ
จะเปลี่ยนแปลงไปโดยแทบไม่เห็นร่องรอยเดิม
มาร่วมกันหา1องศา เพื่อเติมเต็มวงล้อชีวิตให้สมบูรณ์ไปกับพิ้งกี้และบลูบลูกันใหม่นะคะ
หากชอบบทความนี้ กดFollow กดLike กดShare เป็นกำลังใจให้พิ้งกี้และบลูบลูด้วยค่า
ติดตามที่ Facebook
#growthmindset #fixed-mindset #mindset #คิด #วิธีคิด #เติบโต #อยู่กับที่ #หยุดนิ่ง
ที่มา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา