1. ช่วยบำรุงสายตา
ในฟักทองมีสารสีเหลืองซึ่งประกอบด้วยสารเบต้าแคโรทีน ที่อุดมไปด้วยวิตะมินเอ ที่มีส่วนสำคัญในการบำรุงสายตา ให้การมองเห็นที่ชัดขึ้น
2. บำรุงผิวพรรณ
ในเนื้อสีเหลืองของฟักทองซึ่งอุดมไปด้วยวิตะมินเอ และคอลลาเจนตามธรรมชาติ เมื่อกินเป็นประจำจึงช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื่นสดใส ผิวหนังมีความยืดหยุ่นดี ป้องกันความแห้งกร้านได้
3. บำรุงเส้นผม
สารอาหารในเนื้อฟักทอง ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ ฟอสฟอรัส แคลเชียม และธาตุเหล็ก ซึ่งมีส่วนช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงหนังศีรษะได้ดี อีกทั้งธาตุเหล็กยังช่วยส่งเสริมการสร้างเม็ดเลือดแดงอีกด้วย เมื่อกินฟักทองเป็นประจำจึงทำให้มีเส้นผมที่แข็งแรง ดกดำ
4. ช่วยบำรุงน้ำนม
สำหรับสตรีหลังคลอดที่ต้องการอาหารเรียกน้ำนม แนะนำให้กินฟักทองบ่อย ๆ อาจจะนึ่งหรือย่างกินเป็นของว่างระหว่างให้นมลูก จะทำเมนูฟักทองผัดไข่ และทำแกงเลียงที่ใช้ผักหลากหลายขนิดใส่รวมกัน ก็จะได้รับสารอาหารที่หลากหลาย ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อการช่วยกระตุ้นให้ผลิตน้ำนมไหลมากขึ้น
5. ช่วยเพิ่มการหลั่งอินซูลินในผู้ป่วยเบาหวาน
โดยการนำฟักทองล้างให้สะอาด นำไปนึ่งให้สุก แล้วกินทั้งเปลือก ก็จะได้รับสารสำคัญ ที่ช่วยให้ตับอ่อนหลั่งอินซูลินได้ดีขึ้น
6. บำรุงหัวใจ บำรุงตับ และไต
เนื่องจากฟักทองมีสารอาหารสำคัญหลายอย่าง เช่นวิตะมินเอ เมื่อกินแล้วจึงช่วยให้หัวใจ ตับ และไตแข็งแข็ง
7. ช่วยแก้อาการท้องผูก
ฟักทองอุดมด้วยเส้นใยชนิดละลายน้ำได้ เมื่อกินแล้วเส้นใยจึงอุ้มน้ำได้ดี ช่วยให้การขับถ่ายง่ายขึ้น และเนื่องจากฟักทองมีพลังงานต่ำจึงช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้ดีอีกด้วย
8. ช่วยแก้อาหารหืดหอบจากหลอดลมอักเสบในผู้สูงวัยได
้โดยนำฟักทองมาปรุงเป็นอาหารเป็นประจำ
9. ช่วยต้านความชรา
ในฟักทองอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตะมินเอ จึงข่วยบำรุงเซลล์ให้แข็งแรง รวมทั้งสร้างเซลล์ใหม่มาทดแทนเซลล์เก่า ที่เสื่อมสภาพ ป้องกันผิวหนังอักเสบเมื่อกินฟักทองเป็นประจำ จึงทำให้ผิวหนังแข็งแรงไม่ติดเชื้อง่าย และมีผิวที่ดูอ่อนกว่าวัย