23 มี.ค. 2020 เวลา 11:45 • สุขภาพ
วิตามินซี หรือ อีกชื่อหนึ่งคือ Ascorbic acid คือวิตามินชนิดละลายน้ำที่เป็นสารอาหารที่สำคัญแก่ร่างกาย
ในสภาวะที่โรคระบาดกำลังรุนแรง มนุษย์เรามักจะสรรหาสิ่งต่างๆเพื่อปกป้องตัวอย่างอย่างดีที่สุด
ยาอะไรที่เขาว่าดี ก็แห่กันไปกว้านซื้อจนหมดตลาด
กลุ่มนายทุนกลายเป็นกลุ่มที่ได้ผลประโยชน์จากการนี้มากที่สุด
วิตามินซีก็เป็นอีกตัวที่มาแรงไม่แพ้ตัวอื่นๆ เนื่องจากวิตามินซีมีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ หรือ Antioxidant
ที่ทำหน้าที่ช่วยกำจัดสารพิษต่างๆในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ฝุ่น ควันพิษ หรืออื่นๆ
1
อีกหนึ่งข้อดีของวิตามินซีคือสำหรับลดระยะเวลาและลดความรุนแรงของ “โรคหวัด”
ซึ่งนั่นเองทำให้หลายคนสันนิษฐานว่ามันอาจจะเป็นข้อดีมาสู้กับเชื้อ “โควิด” ได้
แต่ ***ยังไม่มีหลักฐานการใช้ และยังไม่มีการนำวิตามินซีมาใช้ในการรักษาโควิด*** ดังนั้นการใช้ผิดประเภทนอกจากจะไม่สมเหตุสมผลแล้วยังสิ้นเปลืองเงินทองด้วย
แต่ในมุมกลับกัน แล้วหากอยากรับประทานหละ จะเป็นอะไรหรือไม่ ??
วิตามินซีคือสารอาหารที่เราได้รับจากการรับประทานอาหารเป็นปกติอยู่แล้ว โดยจะอยู่ในผักและผลไม้เป็นหลัก
การเลือกรับประทานวิตามินซีเพิ่มเพื่อเสริมอาหารจึงไม่ได้มีผลเสียต่อร่างกายอะไร (หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่เกิน 2000 มิลลิกรัมต่อวัน)
แต่เราจะเลือกซื้อวิตามินซีอย่างไรให้ดีที่สุด
////////////
วิตามินซีที่วางขายในท้องตลาดจัดเป็น ”ยา” ดังนั้นสถานที่ที่ขายยาได้ต้องเป็นสถานที่ที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ ร้านยา โรงพยาบาล หรือคลินิก
คำแนะนำข้อแรก: การเลือกซื้อวิตามินซีจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ เช่น ร้านขายของชำ ออนไลน์ เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่งเพราะสุดท้ายเราอาจจะได้ของเสื่อมคุณภาพ หรือของปลอมมารับประทานแทน เลือกยี่ห้อที่มีเลขทะเบียนยา มีชื่อบริษัท มีวันหมดอายุ มีฉลากระบุรายละเอียดครบถ้วนจะดีที่สุด
///////////
ปริมาณที่แนะนำ
คำแนะนำข้อสอง: ปริมาณที่แนะนำในแต่ละวันแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ โดยอายุ 1-3 ปี – 15 มก. ; 4-8 ปี – 25 มก. ; 9-13 ปี - 45 มก. ; 14-18 ปี – 65-75 มก. ; 19-70 ปี – 75-90 มก. ต่อวัน ส่วนในคนท้องแนะนำ 85 มก. และสตรีให้นมแนะนำที่ 120 มก./วัน
ดังนั้นจริงๆแล้วในท้องตลาดที่เราเห็น 500 หรือ 1000 มก/เม็ด เป็นปริมาณที่สูงมากอยู่แล้วสามารถเลือกได้ตามความต้องการหรืองบประมาณที่มีได้เลย
///////////
ยี่ห้อที่แนะนำ
คำแนะนำที่สาม: จริงๆข้อนี้คงไม่สามารถฟันธงได้ 100% แต่ที่เราเจอบ่อยๆมีสองรูปแบบ คือ แบบวิตามินซีปกติ กับ แบบลดความเป็นกรดลง ซึ่งก็ออกฤทธิ์ใกล้เคียงกันทั้งสองแบบเพียงแต่แบบที่สองจะอยู่ในรูปที่ไม่กัดกระเพาะเหมาะกับคนที่มีปัญหาโรคกระเพาะมากกว่าเท่านั้นเอง ดังนั้นจะเลือกยี่ห้อไหนก็ได้ก็แล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละบุคคล
////////////
ยี่ห้อไหนที่ไม่สะสมในร่างกาย
คำแนะนำที่สี่: วิตามินซียี่ห้อไหนก็ไม่สะสมในร่างกายทั้งนั้น (ดูจากโครงสร้างหมู่ OH ที่ชอบน้ำมีมากเหลือเกิน) ทานไปเถอะค่ะ มันขับออกทางปัสสาวะโดยปกติอยู่แล้ว เพียงแต่ควรรับประทานตามขนาดที่แนะนำ หากกินเยอะไปก็จะเสี่ยงต่อการสะสมทำให้เกิดนิ่วในไต หรือระคายเคืองกระเพาะอาหารได้
////////////
สุดท้ายอย่าลืมดูแลตัวเองทั้งร่างกายและจิตใจ แล้วเราก็จะผ่านพ้นเรื่องเหล่านี้ไปด้วยกันค่ะ
โฆษณา