25 มี.ค. 2020 เวลา 01:05 • ความคิดเห็น
ขอให้ปลดล็อกให้คนป่วยกักตัวที่บ้าน
เนื่องจากคนไข้ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง
our world in data
80% ของผู้ป่วยมีอาการเล็กน้อยเหมือนไข้หวัดธรรมดา คนเหล่านี้ไม่ต้องการ oxygen supplementation หรือแม้แต่ยาฆ่าไวรัส
ชัดเจนว่าคนอายุน้อยกว่า 10 ปีทั้งโลกยังไม่พบผู้เสียชีวิต อายุน้อยกว่า 30 ปีในอิตาลี ไม่มีคนเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว และอัตราการเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นมากเมื่ออายุมากกว่า 60 ปี
การกักตัวส่วนใหญ่รักษาด้วยพาราเซตามอล และยาละลายเสมหะ ไม่ได้มีการดูแลอะไรเป็นพิเศษ และไม่ได้ตามเอ็กซเรย์ปอดทุกวัน
สิ่งที่น่าทำเพื่อลดโหลดของโรงพยาบาลเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับการดูแลคนที่ป่วยหนักจริงๆจึงเป็นสิ่งที่ควรคิดแล้วเริ่มวางแผนตั้งแต่วันนี้ ถ้าไม่อยากปล่อยคนแก่ตายเหมือนประเทศอิตาลี
ในหลายประเทศ เช่น อังกฤษ และอเมริกา ให้ผู้ป่วยเล็กน้อยอยู่บ้าน ไม่ต้องมาโรงพยาบาล และแนะนำวิธีการกักตัวเอง การวางแผน วิธีการฆ่าเชื้อ และวิธีสังเกตอาการ ถ้ามีข้อสงสัยหรือประเมินตัวเองแล้วมีอาการรุนแรงขึ้น จะมีแพลตฟอร์มทั้งทางออนไลน์และโทรศัพท์เพื่อติดต่อสอบถาม
ด้านล่างเป็นของอังกฤษ ให้สังเกตอาการตัวเอง ลองทำแบบประเมินออนไลน์ แล้วค่อยตัดสินใจโทรศัพท์เพื่อนัดแพทย์ (คนละบริบทกับประเทศไทย ของเราวอล์กอินแล้วรักษาได้ทันที)
ด้านล่างเป็นของอเมริกา ข้อแรกที่เขาแนะนำคือต้องรู้ว่าจะหาข้อมูลข่าวสารของพื้นที่ที่อยู่ได้ที่ไหน ต้องรู้ว่าโควิด-19 คืออะไร มีอาการและอาการแสดงอย่างไร ของประเทศอเมริกา ถ้ามีอาการน้อยจะแนะนำให้อยู่บ้านไม่ต้องมาโรงพยาบาล
ด้านล่างเป็นคำแนะนำให้เริ่มวางแผนการจัดการภายในบ้านในกรณีเจ็บป่วยแล้วต้องกักตัวอยู่ในบ้าน โดยต้องมียาสามัญประจำบ้านอย่างน้อย 2 อาทิตย์
บางทีคนที่ควรไปโรงพยาบาลไม่ใช่แค่ต้องมี อาการ ไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ และมีประวัติอยู่ในพื้นที่เสี่ยง แต่อาจต้องเพิ่มอาการ เช่น ไอมาก ไข้สูง กินไม่ได้ ซึม หรือ
เพิ่มปัจจัยเสี่ยง เช่น มีโรคประจำตัว ได้แก่โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคไต อายุมาก เป็นผู้ชาย เป็นต้น
และเพิ่มความสามารถในการกักตัวเองและความร่วมมือของผู้ป่วย
ทั้งนี้เพื่อลดโอกาสการแพร่กระจายเชื้อในโรงพยาบาล เพิ่มปริมาณเตียงว่างให้ผู้ที่ต้องการจริงๆ และลดโหลดงานที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกวัน
ปัจจุบันทางการไทยจะให้ผู้ป่วยที่มีอาการเข้าได้และมีปัจจัยเสี่ยงทุกคน ไปโรงพยาบาลตามสิทธิ์ของตัวเอง
ถ้ารัฐจะหันเหทิศทางให้ผู้ป่วยอาการเล็กน้อยอยู่บ้านตัวเอง ต้องเริ่มจากการให้ข้อมูลการกักตัว ให้ข้อมูลการวางแผนและเตรียมความพร้อม จัดเตรียมระบบสื่อสารเพื่อสอบถามอาการให้พร้อมมากขึ้น และระบบขนส่งผู้ป่วยที่ต้องวางแผนให้ดี
โดยทั้งหมดนี้อาจริเริ่มผลักดัน Telemedicine ซึ่งยังไม่มีกฎหมายรองรับในประเทศไทย
Telepharmacy ปัจจุบันสามารถซื้อยาสามัญประจำบ้านผ่านออนไลน์ได้ แต่ยาควบคุมยังไม่สามารถซื้อขายได้
แนะนำ Delivery ต่างๆถึงวิธีที่ควรทำ (ไม่ใช่สั่งเขาอย่างเดียวให้รักษาความสะอาด) จัดสรรวิธีป้องกันตัวให้คนขนส่ง Delivery และอุดหนุนบริการ Delivery เพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนที่มีรายได้น้อย โดยรัฐต้องส่งเสริม Delivery พวกนี้ด้วย นอกจากจะช่วยให้ประชาชนอยู่บ้านมากขึ้น ยังช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าขายอาหารมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย
สุดท้ายอยากบอกว่า อีกไม่ช้าไม่นานรัฐบาลต้องเปลี่ยนแผนให้ผู้ป่วยอาการน้อยอยู่บ้าน ถ้าไม่เตรียมตัวอย่างรอบด้านตั้งแต่วันนี้ จะมาเตรียมช่วงใกล้ๆที่จะหันเหนโยบายก็อาจจะไม่ทันการณ์เสียแล้ว
ปัจจุบันของรัฐมีเวปไซต์ https://covid19.th-stat.com/th/self_screening
ที่ช่วยคัดกรองอาการไปรพ. (อาการ+ความเสี่ยง)
มีแอพพลิเคชั่นที่ลิ้งค์ผู้ป่วยที่บ้านเข้ากับหมอและสถานพยาบาล
มีไลน์ที่มีความรู้ สถานการณ์ และแบบประเมินตนเอง
มีเวปไซต์ที่แนะนำการปฏิบัติตัวในบ้าน (สั้นไปนิดนึง)
ช่องทางของเราค่อนข้างพร้อม เหลือรายละเอียด และแนวทางที่จะหันเหไปเพียงเท่านั้น
โฆษณา