27 มี.ค. 2020 เวลา 03:27 • สุขภาพ
"สมุนไพรไทย..ต้านภัยเชื้อไวรัส" (ตอนที่ 2)
กลับมาต่อในตอนที่ 2 ของเรื่อง "สมุนไพรไทย ต้านภัยเชื้อไวรัส" กันนะคะ โดยหลักการทั่วไป การบำรุงรักษาร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์และมีภูมิต้านทานทุกชนิด ทุกประเภท ย่อมจะช่วยให้การติดเชื้อแบคทีเรีย (Bacteria) เชื้อรา (Fungi) และไวรัสชนิดต่างๆ เป็นไปได้ยาก หรือแม้จะติดเชื้อมาก็ทำให้อาการไม่รุนแรงมาก
การออกกำลังกายตามช่วงอายุวัยไม่หักโหม พักผ่อนให้เพียงพอ ดำเนินชีวิตให้เครียดเพียงน้อยๆ จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงทั้งกำลังกาย กำลังจิตใจ และกำลังพลังสมองอีกด้วย
การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีเชื้อไวรัสระบาดอยู่ ขอให้เราเพิ่มอาหารโปรตีนให้มากขึ้น โดยเฉพาะโปรตีนจากเนื้อปลาหลากหลายชนิดนะค่ะ
เน้นรับประทานอาหารที่มีโปรไบโอติกส์ ที่ได้จากโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยว ถือได้ว่าเป็นเชื้อแบคทีเรียที่เป็นมิตรและส่งผลดีต่อร่างกายของเราทุกคน ทังยังช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรียอื่นๆ ที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราได้อีกด้วยค่ะ
กลุ่มอาหาร Probiotics อุดมไปด้วยคุณค่าในการช่วยเพิ่มภูมิต้านทานเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และป้องกันเชื้อโรคต่างๆแก่ร่างกาย
สำหรับสมุนไพรไทยที่นำมาปรุงอาหารหรือบางอย่างสกัดใส่แคปซูล มีความสำคัญในการเสริมภูมิต้านทาน ลดการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และบางอย่างมีฤทธิ์ระงับการเติบโนของเชื้อโรคได้ด้วย
สมุนไพรไทยเหล่านี้รวมถึงผัก ผลไม้ ที่มีเบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินอีสูง เช่น ผักใบเขียวต่างๆ ส้ม ฝรั่ง องุ่น แคนตาลูป มะละกอสุก กระเทียม ขิง หอมแดง หอมใหญ่ กะเพรา ตะไคร้
สมุนไพรไทยช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและต้านเชื้อไวรัส
สมุนไพรที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันรักษาเชื้อหวัด
1. ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรพื้นบ้านรสขมที่นิยมนำมาใช้รักษาหวัดตั้งแต่โบราณ ซึ่งประกอบไปด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพหลากชนิด เช่น ไดเทอร์ปีนอยด์ (Diterpenoids) ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) และโพลีฟีนอล (Polyphenols) ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและการติดเชื้อ ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและอาจช่วยบรรเทาอาการหวัด ดังพบว่า ฟ้าทะลายโจรช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ทั้งแบบการสร้างแอนติบอดี้ เพื่อต่อต้านสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกายและกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวจับทำลายเชื้อโรคได้ดียิ่งขึ้น
ความสามารถของฟ้าทะลายโจร มี 3 ประเภท คือ ลดไข้ ต้านการอักเสบและลดอาการจากการเป็นหวัด ลดการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส และทำให้เชื้อไวรัสเข้าสู่เซลล์ได้ยากขึ้น กระตุ้นภูมิคุ้มกันทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเขื้อไวรัสได้ดีขึ้น ใช้เพื่อบรรเทาอาการของโรคหวัด เช่น เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ขนาดรับประทานครั้งละ 1.5 - 3 กรัม สำหรับผู้ใหญ่ วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอนค่ะ
2. สารสกัดจากลูกยอ ทำให้เพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดความดันโลหิต ลดน้ำตาลในเลือด ลดคอเลสเตอรอล ต้านมะเร็ง ต้านอนุมูลอิสระ และมีสารสโคโปเลติน สามารถลดการอักเสบของหลอดอาหารจากภาวะกรดไหลย้อนได้ผลใกล้เคียงกับยาแผนปัจจุบันที่ใช้ในการรักษา ข้อควรระวัง ผลยอมีโพแทสเซียมสูงใกล้เคียงกับกล้วยและมะเขีือเทศ ดังนั้นผู้ป่วยที่มีการทำงานไตบกพร่องจึงควรหลีกเลี่ยงค่ะ
3. พลูคาว มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา บำรุงโลหิต บำรุงสายตา บำรุงสมอง ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความชรา และเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย
4. บอระเพ็ด สารสำคัญจากบอระเพ็ดช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันโดยการเพิ่มระดับเม็ดเลือดขาว และสามารถลดขนาดของก้อนเนื้องอกได้สูงถึง 58.8%
5. ต้นบัวบก มีสารสำคัญ Asiaticoside ที่ช่วยให้แผลเรื้อรังหายเร็วขึ้น เพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย และในประเทศบราซิลมีการใช้เพื่อรักษามะเร็งมดลูกอีกด้วย
6. มะตูม สารจากผลมะตูมสามารถยับยั้ง มะเร็งต่อมไทรอยด์ (Thyroid Cancer) และมีฤทธิ์ยับยั้งไวรัส รวมถึงต้านการอักเสบของแผลต่างๆได้ดีอีกด้วย
เพิ่มเติม
การใช้สมุนไพรเป็นยานั้น หากใช้เพื่อการรักษาอาการเจ็บป่วย ควรใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลาไม่เกิน 5-7 วัน หากอาการปว่ายนั้นไม่ดีขึ้น ควรหยุดการใช้และเข้ารับการรักษาจากแพทย์แผนปัจจุบันทันทีค่ะ
สมุนไพรไทยดีๆ มีประโยชน์มากมาย และแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภท บางชนิดสามารถทานได้ทุกวัน เป็นสิ่งดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยรักษาป้องกันโรคภัยต่างๆได้ค่ะ
ข้อมูลอ้างอิงจาก :
กองพัฒนายาไทยและยาสมุนไพร กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก โดย มล.ชาญโชติ ชมพูนุท
#Doityourhealth #สุขภาพดีเริ่มได้ที่ตัวเราเอง #สมุนไพรสู้ภัยไวรัส

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา