27 มี.ค. 2020 เวลา 15:20 • สุขภาพ
มาเลเซียกับการปิดประทศที่ไม่ได้ผล
กรณีศึกษามาเลเซีย
มาเลเซียมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเป็นอย่างหนัก วันนี้จะพาไปดูสาเหตุหลักๆกันเลย
มาเลเซียพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่รายแรกเมื่อวันที่ 25 ม.ค. เป็นนักท่องเที่ยวจีน4คนที่เดินทางมาจากสิงคโปร์และปัจจุบัน มาเลเซียมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจำนวน 28 คน
อย่างไรก็ตาม มาเลเซีย ไม่ได้ดำเนินมาตรการคุมเข้มคนจากกลุ่มประเทศเสี่ยงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 4,700 ล้านดอลลาร์ หวังลดผลกระทบจากโรคโควิด-19 ระบาดด้วย
รัฐบาลมาเลเซีย ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2 หมื่นล้านริงกิต (4,700 ล้านดอลลาร์) เพื่อรับมือกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคนี้ ซึ่งครอบคลุมถึงการลดหย่อนภาษี การช่วยเหลือบริษัทในภาคธุรกิจต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบ เช่น ภาคการท่องเที่ยว การจัดหาเงินกู้สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงการแจกจ่ายเงินสดให้กับประชาชน นี้ก็ถือเป็นช่องโหว่เหมือนกันคือการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไวรัสกำลังระบาด
หลังจากนั้นวันที่5มีนาคม ผู้ติดเชื้อเพิ่ม 14 รายเกิดจากชายวัย 52 ปีคนหนึ่ง ที่เดินทางไปประชุมที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ช่วงกลางเดือน ม.ค. และเริ่มมีไข้ ตรวจพบเชื้อcovid19
การคุมเข้มคนเข้าประเทศของรัฐซาราวัก มาเลเซีย เริ่มขึ้นหลังจากพบผู้ติดเชื้อที่เข้าข่ายเป็นผู้ติดเชื้อที่แพร่กระจายเชื้อในวงกว้าง (Super Spreader) โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มภายในวันเดียว 14 คน หลังจากตัวเลขผู้ป่วยในมาเลเซียทรงตัวอยู่ที่ 36 คนมานาน อย่างไรก็ตามนายแพทย์นัวร์ ฮิแชม อับดุลลาห์ ผู้อำนวยการใหญ่กระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซีย ระบุว่า การแพร่ระบาดของชายคนดังกล่าวยังไม่ถือว่าเป็นผู้แพร่กระจายเชื้อในวงกว้าง เพราะความประมาทจากคนระดับสูงแบบนี้เลยทำให้สถานการณ์แย่ลงเรื่อยๆ
แต่ "จุดเปลี่ยน" มาถึงเมื่อตัวเลขพุ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด หลังพบการแพร่เชื้อในมัสยิดชานกรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่จัดงานชุมนุมทางศาสนาครั้งใหญ่ มีผู้เข้าร่วมกว่า 1 หมื่นคน ช่วง 27 ก.พ. - 1 มี.ค. ล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสมนับถึงวันที่ 16 มี.ค. อยู่ที่อย่างน้อย 553 ราย กลายเป็นประเทศที่ติดเชื้อมากที่สุดในอาเซียน
จากสถานการณ์แพร่ระบาดที่แรงขึ้นเรื่อยๆ แพทย์กลุ่มหนึ่งได้ออกแถลงการณ์ร่วมถึง ดร.นอร์ ฮิชาม อธิบดีกรมสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ผู้รับผิดชอบหลัก เรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศก่อนสายเกินไป เพื่อให้กระทรวงสาธารณสุขได้สามารถระบุตัวและแยกกักกันโรค ลดการแพร่กระจายให้น้อยที่สุด
16 มีนาคมนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซิน แห่งมาเลเซีย หลังตัดสินใจบังคับใช้มาตรการปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. จนถึงวันที่ 31 มี.ค. มีผลทั่วประเทศ ก่อนประกาศปิดประเทศ มาเลเซียคุมสถานการณ์ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) ระบาดมาได้ตลอด ยอดติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นไม่มากนับจากพบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา
จากการปิดประเทศทำให้ผู้คนในมาเลเซียไม่มีรายได้เพราะคิดว่า เศรษฐกิจจะซบเซานายจ้างจะไม่มีเงินจ้าง ทำให้ประชาชนกลับภูมิลำนำทำให้การแพร่ระบาดมากขึ้นไปเรื่อยๆ นั้นเอง
23มีนาคม มาเลเซียเผยผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่พุ่งกว่า 200 ราย ส่งผลยอดสะสมทะลุ 1,500 ราย
กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มีจำนวน 212 รายในวันนี้ ซึ่งเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูล ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมเป็น 1,518 ราย กระทรวงฯเปิดเผยว่า ยอดผู้ติดเชื้อราว 970 รายจากจำนวนดังกล่าวเป็นผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุมทางศาสนาที่จัดขึ้นใกล้กรุงกัวลาลัมเปอร์ในเดือนที่แล้ว นอกจากนี้ กระทรวงฯระบุว่า ผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 14 ราย
ล่าสุดเมื่อวันที่27 มีนาคม มาเลเซียพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม130คน ยอดรวม2131คน ถือเป็นตัวเลขผู้ติดเชื้อที่สูงที่สุดในอาเซียน ณ เวลานี้
สรุปให้เข้าใจง่ายเลยก็คือ การไม่รอบคอบหรือการประมาทของผู้นำสาธารณสุขของประเทศมาเลเซีย คือการที่บอกว่าสถานการณ์ตอนนั้นยังไม่รุนแรงทั้งที่ผู้ติดเชื้อสูงที่สุดในอาเซียนแล้วตอนนั้น กับกลายเป็นกลุ่มแพทย์ที่ต้องออกมาเรียกร้องปิดประเทศ
อย่างที่2คือ เมื่อมีผู้ติดเชื้อในประเทศมากแล้วในขณะนั้นแต่ยังมีการรวมกลุ่มรวมตัวที่ๆมีคนเยอะมารวมตัวกันอยู่เหมือนเดิม การรวมกลุ่มกันในที่นี้ของมาเลเซียคือ พบการแพร่เชื้อในมัสยิดชานกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ มีผู้มาร่วมงานกันกว่า1หมื่นราย ทำให้การแพร่ระบาดมากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างที่3คือ ผู้คนกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมากเมื่อมีการปิดประเทศ นี้เป็นความไม่รอบคอบของรัฐบาล เมื่อมีสถานการณ์การแพร่ระบาด แต่ไม่มีมาตราการรองรับผู้คนที่จะตกงาน หรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากcovid19 กลับกลายเป็นว่าการปิดประเทศไม่ได้ผล กับเพิ่มจำนวนมากขึ้นเพราะไม่ได้ปิดการสัญจรภายในประเทศ ยังมีการเดินทางในรอบประเทศอยู่ เพราะฉะนั้นเชื้อก็ยังคงแพร่อยู่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา