Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
โหราทาสเล่าเรื่อง
•
ติดตาม
28 มี.ค. 2020 เวลา 08:45 • การศึกษา
มนต์ขลังและเครื่องประดับ โดยเซฟาเรียล
เนื้อหาโดยสรุปเกี่ยวข้องกับเลขศาสตร์และเครื่องรางของขลังของพวกยิว
(i) ด้านเลขศาสตร์ของยิว จะมีที่มาจากตัวอักขระฮีบรู จำนวน 22 ตัวที่ใช้บันทึกลงบนคัมภีร์ไบเบิ้ลภาคพันธสัญญาเดิม (Old Testament) ที่ชาวยิวและชาวตะวันตกที่เคร่งศาสนาเชื่อกันว่าเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติที่เก่าแก่ที่สุด ย้อนไปตั้งแต่พระเจ้าสร้างโลก
(ii) การเรียงลำดับอักขระฮีบรูทั้ง 22 ตัวจะแตกต่างกับอักษรภาษาอังกฤษที่เรียงจาก A, B, C, ... แต่จะมีการเรียง (เทียบเคียงเสียงอ่านด้วยอักษรอังกฤษ) ลำดับดังนี้
1(A) 2(B) 3(G) 4(D) 5(E) 6(U.V.W)
7(Z) 8(H) 9(T.H) 10(I.J.Y) 11(C.K) 12(L) 13(M) 14(N) 15(X) 16(O) 17(F) 18 (T.Z)
19(Q) 20(R) 21(SH) 22(T)
(iii) ลำดับอักขระฮีบรูตั้งแต่ 1 ถึง 22 นี้ยังนำมาใช้ในวิชาพยากรณ์เลขศาสตร์ โดยแต่ละตัวเลขตั้งแต่เลข 1 ถึง 22 จะมีความหมายเฉพาะ อาทิ
1 คือความศรัทธาแน่วแน่สูงสุด
2 คือความสมดุลระหว่างจิตกับวัตถุ
3 คือความหลอมรวมของกายจิตวิญญาน ความรัก และความซื่อสัตย์
4 คือความยึดถือโลกวัตถุ
5 คือความเป็นมนุษย์
6 คือการต้องเลือกระหว่างความดีและชั่ว
7 คือความลี้ลับ พลังที่มองไม่เห็น
8 คือความเที่ยงธรรม ความตายอย่างฉับพลัน
9 คือประสบการณ์ ความรู้ในอดีต
11 คือชีวิตที่ผันแปร
เป็นต้น
(iv) การประยุกต์ใช้ จะนำชื่อที่ต้องการหาความหมายเชิงเลขศาสตร์ มาแยกเป็นตัวอักขระ และแทนค่าแต่ละตัวอักระด้วยตัวเลข จากนั้นก็บวกเข้าด้วยกัน ได้ตัวเลขใหม่จะกี่หลักก็ตาม ก็แยกแต่ละตัวเลขนำมาบวกเข้าด้วยกันอีกจนกว่าจะได้ตัวเลขสุดท้ายที่ไม่เกิน 22 ที่จะนำมาพยากรณ์ความหมาย
(v) จะสังเกตว่าความหมายเชิงตัวเลขของยิวจะแตกต่างกับเลขศาสตร์ของฝั่งตะวันออก หรือฝั่งตะวันตกสมัยใหม่บางตำรา ที่การคำนวณตัวเลขจะได้รับอิทธิพลจากระบบเลขฐานสิบ (ใช้ 0-9) และการตีความตัวเลขจะเอาความหมายของพระเคราะห์ในโหราศาสตร์มาแทนตัวเลข เช่น
1 ก็ใช้ความหมายของดาวอาทิตย์
2 ก็ใช้ความหมายของดาวจันทร์
3 อังคาร 4 พุธ 5 พฤหัส 6 ศุกร์ 7 เสาร์
เป็นต้น
(vi) พอมาภายหลัง หมอดูถึงได้เพิ่มเติม 8 9 0 ให้เข้ากับความหมายของปัจจัยฟากฟ้าเพื่อให้ความหมายครบตามระบบเลขฐานสิบ จึงอยากตั้งข้อสังเกตว่าการตีความ 8 9 0 ให้ตรงกับพระเคราะห์ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในยุคหลัง และอาจมีทัศนะที่แตกต่างกันได้มากในแต่ละตำรา ซึ่งไม่อาจถกเถียงกันได้ ทำนองตำราใครตำรามัน
(vii) ส่วนการใช้สัญลักษณ์ต่างๆมาทำเครื่องรางของขลัง อยู่ในครึ่งหลังของตำราเล่มนี้ คงได้กล่าวถึงในโอกาสถัดไป
(viii) หนังสือเล่มนี้แปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษชื่อ Charms&Talismans เขียนโดย Sepharial ซึ่งเป็นนามปากกาของ Walter G. Old (b. 20 Mar 1864) Sepharial นักโหราศาสตร์ นักเทววิทยา และนักไสยเวทย์ในยุคปลายศต.ที่ 19 ต่อเนื่องกับศต.20 ช่วงสงครามโลกครั้งที่2 มีงานเขียนหลากหลายทั้งด้านโหราศาสตร์ เลขศาสตร์ ไพ่ และพยากรณ์ศาสตร์แขนงต่างๆรวมมากกว่า 15 เล่มที่ยังคงได้รับความนิยมมาถึงปัจจุบัน
(ix) งานเขียนของเซฟาเรียล เปิดศักราชให้กับการนำวิชาพยากรณ์ศาสตร์และไสยศาสตร์มายำหรือหลอมรวมเข้าด้วยกัน ซึ่งจะเห็นได้จากงานเขียนของนักพยากรณ์/ไสยเวทย์/คนทรง ที่เกิดขึ้นดาษดื่นตั้งแต่ต้นศ.ต.ที่ 20 เป็นต้นมา และถูกวิจารณ์จากนักโหราศาสตร์สายเคร่ง ว่าลดระดับนักพยากรณ์ลงมาให้เทียบเท่าคนทรง หรืออีกนัยหนึ่งก็พยายามยกระดับนักไสยเวทย์พ่อมดหมอผีให้เทียบเท่านักพยากรณ์
(x) ก็ศาสตร์พยากรณ์นี้ เคยถือว่าเป็นวิชาชีพชั้นสูง ที่คนพิเศษที่ถูกคัดเลือกโดยพระเจ้าเท่านั้นถึงเป็นได้ พวกยิวสมัยโบราณถึงคัดเลือกคนที่พยากรณ์เก่งๆมาเป็นผู้นำของตนยกย่องให้เป็นถึงศาสดาพยากรณ์ ส่วนศาสดาพยากรณ์นั้นเล่าก็ถ่อมตัวบอกว่าเป็นเพียงผู้รับสารมาจากพระเจ้า ไม่ได้มีความสามารถในการรู้อนาคตแต่อย่างไร
(xi) ช่วงหกร้อยปีให้หลัง การแสดงอิทฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของพระเยซู จึงถูกตั้งข้อสงสัยโดยนักบวชยิวที่เคร่งตำราว่า เป็นพวกเดียวกับซาตานที่ต่อต้านพระเจ้า เนื่องจากพวกที่เชื่อในพระเจ้าองค์เดียวย่อมที่จะเชื่อว่า พระเจ้านั้นสร้างมนุษย์มาเท่าเทียมกัน ย่อมไม่ปล่อยให้ใครมีพลังอำนาจพิเศษเหนือผู้อื่น ผู้ใดสามารถทำเช่นนั้นได้ ผู้นั้นอาจเป็นเครื่องมือของซาตานเพื่อทำให้มนุษย์แตกแยกกัน
(xii) ด้วยเหตุนี้ไสยศาสตร์ทางตะวันตกมักเป็นวิชาที่ถูกห้ามตลอดในยุคมืดของฝรั่งที่เคร่งศาสนา ต้องแอบหลบแอบซ่อนฝึก หากถูกจับได้ กล่าวหาสอบสวน ว่าเป็นพ่อมดแม่มด ก็ถูกลงโทษถึงขั้นทรมานและเผาทั้งเป็น ต่างกันกับโหราศาสตร์ที่แอบฝึกโดยพวกนักบวชที่รู้หนังสือ ถูกจับได้ก็ว่า เป็นการฝึกถอดรหัสสารที่มาจากพระเจ้า ก็รอดตัวไป พอเข้าสู่ยุคฟื้นฟู โหราศาสตร์จึงสามารถเจริญงอกงามได้เร็วกว่า
(xiii) ขณะที่ ไสยศาสตร์ถูก Disrupt และเสื่อมลงในเวลาอันสั้น จากการปฏิวัติวิทยาศาสตร์ วิชาเคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา และอีกสารพัดวิขาไสยศาสตร์แนวใหม่ที่สามารถวัดผลสำเร็จด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5
(xiv) ฝั่งโหราศาสตร์ที่ที่ปรึกษาเจ้าแคว้นใช้วางแผนสร้างบ้านชิงเมืองก็ถูก Disrupt ตามกันไปแบบติดๆด้วยเทคโนยีทางอาวุธที่เหนือกว่าจากปืนใหญ่ที่ยิงทำลายป้อมศิลาแข็งแกร่งที่สร้างมาหลายร้อยปีลงในพริบตา และปืนประจำกายที่นำไปสู่การจัดการกองทัพสมัยใหม่
(xv) ทั้งไสยศาสตร์และโหราศาสตร์ก็เสื่อมความนิยมกลายเป็นวิชาสำหรับผู้สนใจประวัติศาสตร์ ผู้ที่อยากรู้อยากเห็นความเป็นไปของโลกและชีวิตมนุษย์ นักจิตวิทยา นักการเมือง โค้ช ผู้ให้คำปรึกษา ผู้สร้างแรงบันดาลใจ ผู้เขียนหนังสือ นักแสดง ผู้สร้างความบันเทิง และอีกสารพัดอาชีพ ที่ใช้ทั้งสองศาสตร์ในการตอบสนองความต้องการและบรรลุเป้าหมายของตน
โหราทาส 27 มีนาคม 2563
บันทึก
3
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
หนังสือ
3
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย