5 เม.ย. 2020 เวลา 09:42 • สุขภาพ
ทำไมน้ำมันลดราคา ตลาดหุ้นถึงตก
อนาคตราคาน้ำมัน จะเป็นอย่างไร
น้ำมันเป็นต้นทุนสำคัญอย่างหนึ่งของธุรกิจเกือบทุกประเภท โดยปกติเมื่อน้ำมันลดราคามากๆ ต้นทุนในการทำธุรกิจจะถูกลง กำไรของบริษัทต่างๆ ก็จะมีมากขึ้น ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ควรจะสูงขึ้น แต่ทำไมในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เมื่อราคาน้ำมันดิบลดลงอย่างฮวบฮาบเหลือบาร์เรลละ 20 ดอลลาร์ ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 20 ปี ตลาดหุ้นทั่วโลกถึงตกกันระเนระนาด
สาเหตุที่น้ำมันดิบราคาตก
โอเปค คือ องค์กรประเทศผู้ผลิตน้ำมัน มีสมาชิก 14 ประเทศ ประเทศที่สำคัญส่วนใหญ่อยู่ในตะวันออกกลาง มีซาอุดิอาระเบียเป็นหัวเรือใหญ่ เดิมมติของที่ประชุมโอเปคมีผลต่อราคาน้ำมันโลกสูง เช่น เมื่อมีมติให้ลดการผลิตน้ำมันลง ราคาน้ำมันก็จะขึ้น แต่ปัจจุบันอิทธิพลของโอเปคลดลง เพราะมีประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหม่ๆ ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของโอเปคเพิ่มขึ้น อาทิ รัสเซีย นอร์เวย์ อเมริกา เป็นต้น
เมื่อเศรษฐกิจในจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกชะลอตัว ทำให้ราคาน้ำมันตกลง ทางโอเปคจึงจัดประชุมร่วมกับรัสเซีย เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2563 หาข้อตกลงลดการผลิตน้ำมันลง เพื่อผลักดันให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น ปรากฏว่า รัสเซียไม่ยอมลดการผลิต การประชุมล้มเหลว ซาอุดิอาระเบียโกรธจัด จึงประกาศเพิ่มการผลิตน้ำมันเต็มศักยภาพ จากวันละราว 9 ล้าน 5 แสนบาร์เรล เป็น 12 ล้านบาร์เรลเศษ ราคาน้ำมันโลกตกวูบลง จนต่ำกว่าครึ่ง เหลือบาร์เรลละราว 20 ดอลลาร์ ในเวลาแค่ 2 สัปดาห์ ซ้ำเติมวิกฤตไวรัส ดัชนีดาวน์โจนส์ของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค และตลาดหุ้นทั่วโลกก็ตกกว่า 30%
ทำไมรัสเซียไม่ยอมลดการผลิตน้ำมัน
รัสเซียเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก วันละราว 10 ล้านบาร์เรล พอๆ กับซาอุดิอาระเบีย
หากมองแค่ผิวเผิน รัสเซียผลิตน้ำมันวันละ 10 ล้านบาร์เรล หากราคาน้ำมันบาร์เรลละ 40 ดอลลาร์ รัสเซียก็มีรายได้วันละ 400 ล้านดอลลาร์ แต่ถ้ายอมลดการผลิตลงเหลือ 9 ล้านบาร์เรล ราคาน้ำมันจะขึ้น อาจเป็น 60 ดอลลาร์/บาร์เรล รัสเซียก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 540 ล้านดอลลาร์ รัสเซียน่าจะยอมฮั้วกับโอเปคลดการผลิตน้ำมัน แล้วทำไมรัสเซียไม่ยอม
สาเหตุสำคัญคือ อเมริกา ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา เมื่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งทะยานขึ้นสูง จากการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนทำให้นำเข้าน้ำมันเพิ่มขึ้นทุกปี บางช่วงราคาน้ำมันขึ้นไปถึง 150 ดอลลาร์/บาร์เรล ในสหรัฐอเมริกาก็ได้มีการพัฒนาเทคนิคใหม่ในการขุดเจาะน้ำมันที่เรียกว่า Shale oil ขึ้น คือ เจาะท่อลงในชั้นดินดานแล้วอัดฉีดสารเคมีลงไปสร้างแรงสั่นสะเทือนจนชั้นหินดินดานแตกและสามารถสกัดเอาน้ำมันจากชั้นหินนั้นออกมาใช้ได้
การผลิตน้ำมันของอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนปัจจุบันอเมริกาเป็นผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของโลก แซงซาอุดิอารเบียและรัสเซียไปแล้ว อเมริกาเปลี่ยนจากประเทศผู้นำเข้าน้ำมันกลายเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบสุทธิ และอเมริกายังมีโครงการชัดเจนที่จะผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นอีก 30% ภายในปีพ.ศ.2573
รัสเซียมองว่า หากตนกับโอเปคลดการผลิต ราคาน้ำมันก็จะขึ้นเพียงชั่วคราว พอราคาน้ำมันขึ้นอเมริกาก็เร่งผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก ส่งออกแย่งตลาดจากตนไปเรื่อยๆ มาร์เก็ตแชร์ในตลาดโลกของตนก็จะสูญเสียไป อเมริกาเอาเปรียบ
นี่นำมาซึ่งความล้มเหลวในการตกลงลดการผลิตน้ำมัน ทำให้น้ำมันดิบราคาลดลงอย่างมาก
ทำไมน้ำมันดิบราคาลด ตลาดหุ้นถึงตก
สาเหตุสำคัญมี 3 ประการคือ
1.การผลิตน้ำมัน Shale oil มีต้นทุนการผลิตบาร์เรลละประมาณ 40 – 50 ดอลลาร์ บริษัทขุดเจาะน้ำมัน Shale oil ในอเมริกา ระดมทุนโดยการออกตราสารหนี้จำนวนมากขายให้กับนักลงทุน กองทุน และธนาคารต่าง ๆ เมื่อราคาน้ำมันดิบลดต่ำลงมาขนาดนี้ บริษัทเหล่านี้จะขาดทุนหมด บางบริษัทก็เริ่มประกาศล้มละลายแล้ว หากสถานการณ์ยืดเยื้อ ตราสารหนี้เหล่านี้จะกลายเป็นหนี้สูญ เกิดหนี้เสียในระบบการเงินจำนวนมาก ผลกระทบก็จะลุกลามขยายกว้างออกไป
2.บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่เดิม เช่น เอ็กซอน โมบิล เชฟรอน ฯลฯ จะมีผลประกอบการลดลง กำไรลดลง ดังนั้น หุ้นบริษัทน้ำมันจึงราคาตก มาร์เก็ตแคป(Market capitalization)ของบริษัทน้ำมันเหล่านี้มีขนาดใหญ่ เมื่อราคาหุ้นตก จึงส่งผลให้ดัชนีรวมของตลาดหลักทรัพย์ตกด้วย
2
3.ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันใหญ่ๆ ได้นำรายได้จากการขายน้ำมันช่วงที่ราคาสูง ตั้งเป็นกองทุนของประเทศ ไปลงทุนซื้อหุ้นในตลาดหุ้นทั่วโลก มูลค่ารวมของกองทุนเหล่านี้ที่เรียกว่า เปโตรดอลลาร์ ประมาณ 70-80 ล้านล้านบาท เมื่อราคาน้ำมันตกลงมาก ทำให้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันเหล่านี้ขาดดุลงบประมาณ อาทิ ซาอุดิอาระเบีย ทำงบประมาณประจำปี พ.ศ.2563 โดยประมาณการรายได้ว่ามาจากราคาน้ำมันบาร์เรลละราว 80 ดอลลาร์ รัสเซียทำงบประมาณปี พ.ศ.2563 โดยประมาณการรายรับจากราคาน้ำมัน บาร์เรลละ 42 ดอลลาร์ เมื่อน้ำมันราคาตกลงมากกว่าประมาณการ นักลงทุนมองว่า ประเทศเหล่านี้จำเป็นต้องขายหุ้นที่กองทุนของตนถืออยู่ จำนวนมหาศาล เพื่อนำเงินมาชดเชยการขาดดุล ซึ่งจะทำให้ราคาหุ้นตกลงมาก จึงรีบเทขายหุ้นออกไปก่อน
ทั้ง 3 ข้อนี้คือ สาเหตุสำคัญที่ทำให้เมื่อราคาน้ำมันดิบลดลงมากแล้วตลาดหุ้นตก
อนาคตราคาน้ำมันในตลาดโลก
1
ถามว่าในอนาคตราคาน้ำมันในตลาดโลกมีโอกาสจะตกลงมาก ๆ เหลือ 20-30 ดอลล่าร์/บาร์เรล ยาวๆไหม ตอบว่าไม่มี
แล้วหากถามว่า ราคาน้ำมันมีโอกาสขึ้นไปถึงบาร์เรลละ 100 กว่าเหรียญยาวเป็นปี ๆ อีกไหม ตอบว่าไม่มีเช่นกัน
สาเหตุเป็นเพราะ หากน้ำมันราคาแพงขึ้นมาก ๆ การขุดเจาะ Shale oil ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้มีน้ำมันดิบออกสู่ตลาดโลกมาก ดึงให้ราคาลดลง
แต่หากราคาน้ำมันต่ำลงมากๆ เหลือ 20-30 ดอลลาร์/บาร์เรล บริษัท Shale oil ก็จะขาดทุนล้มละลายหมด ปริมาณการผลิตน้ำมันรวมก็จะลดลง ทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น
เพราะฉะนั้นในระยะยาว ราคาน้ำมันจะอยู่ที่ราวบาร์เรลละ 40-60 เหรียญ หากมีเหตุการณ์พิเศษอะไรเกิดขึ้น เช่น เกิดสงครามในประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ราคาน้ำมันก็อาจสูงขึ้นหรือลดลงเป็นพิเศษได้แต่จะเป็นเหตุการณ์ช่วงสั้น แล้วปรับตัวสู่สมดุลอีก ต้นทุนการผลิตของ Shale oil จะเป็นตัวรักษาสมดุลราคาน้ำมันในตลาดโลก
สถานการณ์บังคับให้อเมริกาจำเป็นต้อง take action ทรัมป์ต้องออกมาพูดว่าจะประสานให้ซาอุดิอาระเบียและรัสเซีย มาเจรจาลดการผลิตน้ำมันลงใหม่ และแน่นอนว่า รัสเซียก็ต้องยื่นเงื่อนไขให้อเมริกาลดการผลิตน้ำมันลงด้วย ไม่ใช่นั่งรอกินพุงปลาอย่างเดียว
ผลกระทบต่อประเทศไทย
จริงๆ น้ำมันลดราคา ดีต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวม ที่ได้รับผลกระทบคือ บริษัทในเครือ ปตท. เป็นหลัก เพียงแต่ ปตท.เป็นบริษัทใหญ่ เมื่อราคาตก จึงส่งผลต่อดัชนีตลาดรวมมาก และที่ดัชนีตลาดหุ้นตกมาก ก็เพราะเป็นผลทางจิตวิทยาจากความตกใจของนักลงทุนที่เห็นดัชนีดาวน์โจนส์ตก
หมายเหตุ
อาตมภาพไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ ก่อนบวช เรียนจบจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บวชแล้วก็ไปเรียนจบปริญญาเอก ด้านปรัชญาพระพุทธศาสนา จากมหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แต่การศึกษาพุทธปรัชญาสอนให้เรามองเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน เป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน
1
มหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
การนั่งสมาธิ เมื่อใจนิ่งก็ทำให้เราเห็นภาพความเป็นไปของโลกชัดขึ้น อาตมภาพได้ศึกษาความเป็นไปของโลกเพื่อนำมาใช้ประกอบการเทศน์สอนญาติโยม ให้สามารถประยุกต์ใช้หลักธรรมในการดำเนินชีวิตในโลกปัจจุบันได้ดี
1
ในสถานการณ์วิกฤตที่ร้ายแรงที่สุดในช่วงชีวิตของพวกเรานี้ จะเกิดภาวะผันผวนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองอย่างรุนแรง อาตมภาพจึงตั้งใจนำความรู้ความเข้าใจต่อโลกที่มีอยู่ มาถ่ายทอดแบ่งปันกันกับทุกท่าน เพื่อเราจะได้ช่วยกันประคับประคองสังคมไทยให้ผ่านพ้นวิกฤตการณ์นี้ไปได้อย่างดีที่สุด
พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา