Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าคนเข้าป่า
•
ติดตาม
10 เม.ย. 2020 เวลา 14:05 • การศึกษา
ถ้าการป้องกันโรคระบาดต้องแลก
มาด้วยเสรีภาพของคน
บทความนี้อาจไม่ได้พูดถึงตัวสิ่งแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติสีเขียว ๆ แต่เราจะพูดถึงสิ่งแวดล้อมที่เป็นมนุษย์กันครับ
ผมได้มีโอกาสไปอ่านบทความหนึ่งของ Yoval harai ผู้เขียนหนังสือชื่อดังอย่าง "Sapiens" ที่บิล เกตส์ ยกให้เป็นหนังสือหนึ่งเล่มที่ชีวิตนี้คุณควรอ่าน
ในบทความนี้ได้มีการพูดถึงวิกฤติไวรัส COVID - 19 ที่เรากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ จะนำไปสู่การตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ และการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เมื่อสถานการณ์จบลง
ทางเลือกระหว่าง
การเฝ้าระวังของรัฐเผด็จการ vs
การเสริมสร้างพลังของประชาชน
ในช่วงเวลาวิกฤติแบบนี้การฉวยโอกาสเป็นสิ่งมีโอกาสเกิดขึ้นมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นราคาสินค้า กักตุนสินค้า
ทุกอย่างล้วนทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ของพวกพ้องทั้งนั้น รัฐเองอาจใช้โอกาสนี้แย่งชิงอิสระภาพของประชาชนไปอย่างถาวร
จากการเฝ้าระวัง "เหนือผิวหนัง" เป็นการเฝ้าระวัง "ใต้ผิวหนัง"
เพื่อหยุดการระบาดของโรคนี้ ประชากรทั้งหมดต้องปฎิบัติตามแนวทางเดียวกัน
ถึงจะประสบผลสำเร็จ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก
ตอนนี้ผู้คนกำลังมองว่าการสอดส่องประชาชนในระดับเชิงลึกเป็นเรื่องที่ "เวิร์ก" ให้ผลดี สามารถรู้ได้ว่าใครกระทำผิดและให้บทลงโทษได้อย่างเหมาะสม
จากระบบ GPS ติดตาม แบบที่ประเทศจีนใช้ ที่มีการตรวจสอบสมาร์ทโฟนของผู้คนอย่างใกล้ชิด ใช้กล้องจดจำใบหน้า ตรวจสอบอุณหภูมิร่างกาย ทำให้สามารถเข้าถึงผู้ป่วยได้อย่างง่ายและรวดเร็ว
ทำให้สามารถควบคุมการระบาดได้ นี่เป็นวิธีในการสู้กับโรคระบาดของจีน และบางประเทศก็ได้มีการนำวิธีนี้ไปใช้
เรื่องนี้ฟังดูอาจเป็นเรื่องผิวเผิน แต่หากขุดให้ลึกลงไป การที่รัฐเข้ามามีบทบาทในการเก็บข้อมูลส่วนตัวของเรามากขึ้น
จากแต่ก่อนที่สามารถรู้ได้ว่า เราอยู่ที่ไหน ไปทำอะไรมาบ้าง พบเจอใครมาบ้าง
แต่คราวนี้ด้วยโรคระบาดที่กำลังเจอทำให้รัฐอยากได้ข้อมูลเพิ่มไปอีกว่า ตอนนี้
คุณอุณหภูมิร่างกายเท่าใด
ความดันโลหิตคุณเป็นอย่างไร
สิ่งที่ดูเหมือนหนังวิทยาศาสตร์นี้กำลังเกิดขึ้นจริงแล้ว
หากรัฐบาลต้องการให้ประชาชนทุกคนสวมนาฬิกาข้อมือที่สามารถตรวจสอบทุกอย่างของร่างกายได้ตลอด 24 ชั่วโมง
รัฐจะมีข้อมูลที่ดีเยี่ยมที่สุดอยู่ในมือ ระบบคอมพิวเตอร์สามารถประมวนผลได้ว่าตอนนี้คุณป่วยหรือไม่ ก่อนที่คุณจะรู้ตัวเองเสียอีก จึงทำให้สามารถควบคุมและหยุดการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างรวดเร็ว
แต่.......
คุณต้องไม่ลืมว่า หากคุณกดเข้าสื่ออะไรก็ตาม รัฐก็สามารถรับรู้ได้เช่นกันและเราต้องไม่ลืมว่า ความโกรธ ความสุข หัวเราะ ร้องไห้ เบื่อ ความรัก สิ่งเหล่านี้ก็เป็นวิทยาศาสตร์ที่สามารถอธิบายได้ทางชีววิทยา
ข้อมูล Bio matrix นี้ถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง หากรัฐเริ่มทำการรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ขึ้นมา เขาจะสามารถรู้ได้ว่า เรากำลังหัวเราะเมื่อดูสิ่งใดอยู่ กำลังมีความรู้สึกแบบไหนให้กับสิ่งใด พวกเขาสามารถรู้จักเราได้ดีกว่าที่เรารู้จักตัวเอง
และอาจจะทำนายความรู้สึกของเรา ซ้ำยังเป็นกลวิธีในการจัดการความรู้สึก
และขายสิ่งที่เราต้องการ ตอบสนองเราได้ดียิ่งขึ้น ฟังดูเหมือนยอดเยี่ยมใช่มั้ยครับ
คุณ Yoval ได้ยกตัวอย่างให้เห็นภาพในมุมหนึ่งว่า ลองนึกภาพเกาหลีเหนือในปี 2030 ที่ประชาชนทุกคนสวมข้อมือตรวจจับนี้
และหากคุณฟังคำพูดของผู้นำเกาหลีเหนือ จากนั้นคุณมีความรู้สึกต่อต้านภายในใจ
ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติเนื่องจากความโกรธเล็ก ๆ ที่แสดงออกมา คุณจะเป็นเช่นไรต่อไป
มันกำลังเกิดขึ้นจริงหากเรายอมให้รัฐเข้ามามีบทบาท เเละเมื่อมีครั้งแรกย่อมมีครั้งที่สอง สามต่อไปเรื่อย ๆ
สิ่งที่เกิดขึ้นในยามวิกฤตนี้ รัฐอาจใช้เป็นข้ออ้างในการให้ติดตามเพื่อ "ป้องกัน" วิกฤติครั้งต่อไป
ถึงแม้ว่าการติดเชื้อจะลดลง แต่ใครจะยอมปล่อยโอกาสดี ๆ ในการเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ให้หลุดไป เพราะมนุษย์นั้นมีความโลภอยู่ในตัวอยู่แล้ว
คุณ Yoval บอกว่า ตอนนี้เราเหมือนถูกบังคับให้เลือกระหว่าง"เสรีภาพ หรือ ความเป็นส่วนตัว"
และยังบอกต่ออีกว่าคนมักจะเลือกสุขภาพ(ตัวเอง) มาก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งหมายความว่า คนยอมแลกอิสระภาพเพื่อความปลอดภัย
แต่อันที่จริงเราควรมีได้ทั้งสองอย่างไม่ใช่หรือ ??
การขอให้ผู้คนเลือกระหว่าง "ความเป็นส่วนตัวกับสุขภาพ" คือรากเหง้าของปัญหา เพราะแท้จริงเราสามารถมีได้ทั้งสองอย่าง
แต่การจะเป็นแบบนั้นได้ เราจำเป็นต้องมีความรู้ และได้รับข้อมูลที่มีเหตุผลมากพอ เพื่อใช้ในการตัดสินใจ
เราสามารถเลือกที่จะมีสุขภาพที่ดีและปราศจากการเฝ้าระวังจากรัฐแบบเผด็จการได้ ซึ่งเราจะต้องเพิ่มขีดความสามารถของตัวเองให้มากยิ่งขึ้น
.
การติดตามจากภาครัฐและบทลงโทษหากฝ่าฝืนนั้นไม่ใช่ทางออกที่ดี การให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง อย่างข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ของ "สบู่"
ผมได้เคยเขียนบทความเรื่องการล้างมือไปแล้วเมื่อไม่นานนี้ มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากอย่างไม่น่าเชื่อ หากย้อนกลับไปดูโรคระบาดที่เคยเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอหิวตกโรค กาฬโรค สาเหตุหลัก ๆ มาจากการสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์
การปนเปื้อนของเชื้อโรคจากการขาดการดูแลทางสาธารณะสุขที่ดี ทำให้คนได้รับเชื้อ และแพร่สู่คนด้วยกันเองอย่างรวดเร็ว
นักวิทยาศาสตร์ยังบอกอีกว่าสบู่มีความสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ แต่ในตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาเราทุกคนล้างมือกันบ่อยแค่ไหน ก่อนจะมีโรคระบาดอย่างโควิด -19 นี้เข้ามา
เพราะเมื่อผู้คนได้รับข่าวสารข้อมูลที่ถูกต้อง จะทำให้เกิดความเชื่อมั่น ไว้วางใจในภาครัฐ
แล้วคนจะตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้องได้เอง โดยไร้ซึ่งการบังคับ
และการทำแบบนี้เราจะสู้กับภัยร้ายได้ โดยไม่ต้องเลือกระหว่างเสรีภาพกับความเป็นส่วนตัว ถือเป็นทางออกที่ถูกต้องมากกว่า
สวีเดน คือ "แบบอย่างของแนวคิดนี้"
สวีเดนแทบจะไม่ออกมาตรการบังคับอะไรจากประชาชนเลย แต่กระทรวงสาธาณสุขของเขาให้ข้อมูลที่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์แก่ประชาชน สร้างความเชื่อมั่น
ทำให้คนสวีเดนสามารถตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงได้
หันกลับมามองที่บ้านเรา ความเชื่อมั่นในสื่อตอนนี้กลับลดลงอย่างมาก
ประชาชนมีการพูดถึงการปิดข่าวจากส่วนกลาง ขาดความเชื่อมั่นในสื่อต่างๆไม่เชื่อมั่นในภาครัฐและภาครัฐก็ไม่เชื่อมั่นในประชาชน จึงทำให้ภาครัฐประสบปัญหาในการทำงานอยู่ทุกวันนี้
การระบาดของไวรัสครั้งนี้เป็นบททดสอบสำคัญของเรา กับคำว่า "หน้าที่พลเมือง " ว่าเราจะเลือกเชื่อมั่นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และข่าวสารจากภาครัฐได้มากเพียงได้
อีกทั้งการดูแลสุขภาพ การช่วยเหลือตนเองโดยที่ไม่หวังพึ่งอะไรจากภาครัฐจนมากเกินไป และรัฐเองก็ต้องเชื่อมั่นในตัวประชาชน ให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง เพื่อประกอบการตัดสินใจ ไม่ฉวยโอกาสจากประชาชนในด้านต่าง ๆ
หากเราล้มเหลวในการแก้ปัญหาครั้งนี้ คุณอาจจะต้องยอมเสียอิสระภาพซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดของตัวคุณเอง
ให้กับรัฐบาลโดยเเลกมาด้วยสุขภาพ จากแนวคิดที่ว่านี้เป็นวิธีเดียวที่จะปกป้องสุขภาพของเราได้
คำถามสุดท้ายก่อนจากกันไป
คุณจะเลือกอะไรระหว่าง ความเป็นส่วนตัวกับสุขภาพ
เรียบเรียงโดย : เรื่องเล่าคนเข้าป่า
ที่มา :
https://www.ft.com/content/19d90308-6858-11ea-a3c9-1fe6fedcca75?fbclid=IwAR1hgcRv6zDAd_yHi8AaB2vGtAMUe-1oIilcJ5D3dVMphtxGD4fEknN4v6U
1 บันทึก
14
17
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ข้อคิด COVID-19
1
14
17
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย