ซีรีส์เดินตามรอยเท้าพ่อ
ตอน บ้านของพ่อ (ต่อ)
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต
โพสต์นี้เป็นโพสต์ที่ 3 ในซีรีส์ เดินตามรอยเท้าพ่อนะคะ ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว ถ้ายังไม่ได้อ่าน แล้วอยากย้อนไปอ่าน ก็ตามลิ้งค์นี้เลยค่ะ
ไม่พูดพร่ำทำเพลง เราไปเยี่ยมบ้านของพ่อกันต่อ
ตามมาค่ะ 👧
ด้วยความที่องค์พ่อหลวงของเราท่านมีพระราชประสงค์แน่วแน่ที่จะออกเยี่ยมเยียนราษฎรเพื่อให้ทรงทราบถึงปัญหาของแต่ละพื้นที่อย่างแท้จริง มากกว่าข้อมูลจากรายงานที่ทำถวาย โดยปกติแล้วท่านทรงแปรพระราชฐานไปตามที่ต่าง ๆ รวมเวลาประมาณ 8 เดือนในแต่ละปี ทำให้ต้องมีที่ประทับและที่สำคัญคือที่ทรงงาน พระองค์โปรดให้สร้างพระตำหนักขึ้นตามภูมิภาคต่าง ๆ เราลองไปดูกันค่ะ ว่ามีที่ไหนบ้าง 🏡
🔹️🔹️🔹️🔹️🔹️
เริ่มจากภาคเหนือก่อนนะคะ 🛤
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่
ขอบคุณภาพจาก เวปไซด์ www.royaloffice.th
🏡 องค์พ่อหลวงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระตำหนัก
ภูพิงคราชนิเวศน์ นี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2504 แล้วเสร็จภายในเวลาเพียง 5 เดือน โดยมีพระราชประสงค์ให้เป็น
ที่ประทับและทรงงานในช่วงที่ทรงเยี่ยมเยี่ยนราษฎร
ในพื้นที่ภาคเหนือ
พระตำหนักองค์นี้ปลูกบนพื้นที่ประมาณ 400 ไร่
ของดอยบวกห้า ซึ่งมีความสูงถึง 1,373 เมตร
จากระดับน้ำทะเล ตามข้อมูลกล่าวว่าชื่อดอยบวกห้านี้
มีความหมายถึง ภูเขาที่มีหนองน้ำและต้นหว้า
และอยู่ในเขตตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ขอบคุณภาพจาก เวปไซด์ www.royaloffice.th
รูปที่นำมาประกอบนี้ แม้จะไม่ได้เป็นรูปที่เป็นปัจจุบัน
เสียทีเดียว แต่เราสามารถเห็นได้ถึงความสวยงาม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาวที่จะมีสายหมอกจาง ๆ
ฉันเชื่อว่าถ้าใครได้เคยไปเที่ยวเชียงใหม่ก็คงไม่พลาด
ที่จะไปชมพระตำหนักองค์นี้อย่างแน่นอน
ขอบคุณภาพจาก เวปไซด์ www.royaloffice.th
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์มีลักษณะเป็นเรือนไทยประยุกต์ คงรูปแบบของเรือนหมู่ภาคกลาง ตัวอาคารก่ออิฐถือปูน หลังคาทรงไทย และยกพื้นสูง ภายในประกอบด้วยห้องท้องพระโรง ห้องรับรองพระราชอาคันตุกะ
ส่วนห้องประทับของพระองค์จะอยู่ชั้นบน และชั้นล่าง
จะเป็นที่พักของคุณข้าหลวงและเหล่ามหาดเล็ก
ในกลุ่มเรือนหมู่นั้น จะประกอบด้วยตำหนักและอาคารอื่นอีกเช่น
💠 พระตำหนักพยัคฆ์สถิต
💠 พระตำหนัก พฤกษาวิสุทธิคุณ
💠 พระตำหนักสิริส่องภูพิงค์ หรืออีกชื่อเรียกว่า
พระตำหนักยูคาลิปตัส สร้างจากไม้ยูคาลิปตัส
💠 เรือนปีกไม้
💠 หอนก
💠 พลับพลาผาหมอน
💠 เรือนรับรองพระราชอาคันตุกะ และหอพระ
ขอบคุณภาพจาก เวปไซด์ www.royaloffice.th
นอกจากนี้ในบริเวณพื้นที่พระตำหนักยังมีอ่างเก็บน้ำและสวนดอกไม้ คุณอาจจะเคยได้ยินกิตติศัพท์ของสายพันธุ์กุหลาบภูพิงค์ที่มีทั้งความหอมและความงดงามในสวนกุหลาบที่พระตำหนักแห่งนี้ ผู้ใดที่ชื่นชอบดอกกุหลาบคงจะเดินชมสวนอย่างเคลิ้มฝันเลยทีเดียวค่ะ
ขอบคุณภาพจาก เวปไซด์ www.royaloffice.th
ถ้ายังไม่เมื่อย เราไปเที่ยวกันต่อนะคะ 🙂🙂
🔹️🔹️🔹️🔹️🔹️
พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์
ขอบคุณภาพจาก เวปไซด์ www.royaloffice.th
ในช่วงปี พ.ศ. 2518 เป็นช่วงเวลาที่มีความขัดแย้งทางการเมืองรุนแรงถึงขั้นมีการต่อสู้ระหว่างกองกำลังบางฝ่ายกับทางราชการ เจ้าหน้าที่ทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือนเสียชีวิต ในพื้นที่บริเวณเทือกเขาภูพาน เขตอำเภอนาแก จังหวัด นครพนม และอำเภอกุดบาก จังหวัดสกลนคร ที่เราเรียกพื้นที่บริเวณดังกล่าวว่าเป็นพื้นที่สีแดง
องค์พ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงโปรดให้สำรวจพื้นที่เพื่อสร้างพระตำหนักในเขตเทือกเขาภูพานนั้นเอง ด้วยพระองค์มีพระราขประสงค์ที่จะทรงใช้เป็นที่ประทับทรงงาน เป็นขวัญกำลังใจให้กับราษฎร โดยมิได้คำนึงถึงความปลอดภัยต่อพระองค์เอง
คุณอาจเคยได้ยินบทพระราชทานสัมภาษณ์ต่อสื่อต่างประเทศว่า ท่านทำสงครามกับความยากจน 🙏
พระตำหนักภูพานเมื่อเริ่มการก่อสร้างได้มีการสร้างพระตำหนักปีกไม้ เป็นสไตล์ร๊อกเคบินขึ้นเป็นที่พักแรมก่อนที่จะมีการก่อสร้างพระตำหนักองค์ใหญ่ ซึ่งเป็นพระตำหนักสองชั้นรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ บนพื้นที่ 1,294 ไร่ องค์ตำหนักตั้งอยู่บนเนินผา โดยมีจุดเด่นด้านงานภูมิทัศน์ ที่จัดเป็นสวนหลากรูปแบบเช่น สวนรวมพันธุ์ไม้ สวนแบบประดิษฐ์ สวนแบบธรรมชาติ หรือสวนหิน และอ่างเก็บน้ำตาดโตนที่อยู่ในพื้นที่พระตำหนัก เป็นต้น
ขอบคุณภาพจาก Fan Page สกลนคร ซิตี้
ขอบคุณภาพ อ่างเก็บน้ำตาดโดน จาก Fan Page สกลนคร ซิตี้
สภาพดั้งเดิมโดยรอบบริเวณพระตำหนักนั้นเป็นป่า
ซึ่งชาวบ้านได้อาศัยยังชีพด้วยการเผาป่า เพื่อทำการเกษตร และหาของป่า มาเป็นเวลานานตามวิถีชาวบ้าน จนทำให้สภาพป่าเสื่อมโทรม พระองค์ท่านทรงเล็งเห็นปัญหาและเริ่มโครงการเพื่อฟื้นฟูสภาพป่าโดยให้ความรู้กับประชาชนให้เข้าใจและช่วยกันรักษาป่าจนป่า
กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง ซึ่งต้องใช้เวลาเป็นอย่างมาก
นอกเหนือจากการฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรม องค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ ในรัชกาลที่ 9 ซึ่งทรงแปรพระราชฐาน
เพื่อไปดูแลทุกข์สุขของพสกนิกรเช่นเดียวกัน
ได้โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน
ขึ้นที่บ้านนานกเค้า ตำบลห้วยยาง อำเภอเมือง
จังหวัดสกลนคร ไม่ห่างจากพระตำหนักมากนัก
เพื่อทรงใช้เป็นศึกษาทดลอง และพัฒนาทุกรูปแบบ
ก่อนถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ชุมชน ทั้งนี้ไม่รวมถึง
การคัดเลือกชาวบ้านเข้าฝึกงานในศูนย์ศิลปาชีพฯ และโปรดให้แพทย์หลวงที่โดยเสด็จเปิดหน่วยแพทย์พระราชทานทำการรักษาพยาบาลให้ประชาชนที่ยากไร้และส่งต่อผู้ป่วยบางรายไปยังโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาต่อไป
ขอบคุณภาพจากเวปไซด์ สำนักงาน กปร
ขอบคุณภาพจากเวปไซด์ สำนักงาน กปร
ไปเที่ยวกันมาแล้ว 2 ที่แล้ว ทั้งภาคเหนือ และภาคอิสาน เราไปภาคใต้กันบ้างดีมั๊ยคะ ....... ไปกันเลยค่ะ
🔹️🔹️🔹️🔹️🔹️
พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์
ขอบคุณภาพจาก เวปไซด์ www.royaloffice.th
พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ตั้งอยู่ที่ ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นจังหวัดใต้สุดของประเทศไทย พระตำหนักองค์นี้ก่อสร้างในปี พ.ศ. 2516
องค์พระตำหนักปลูกบนเนินด้านตะวันออกของเขาตันหยง ที่มีความสูงประมาณ 300 เมตรจากระดับ
น้ำทะเล ลักษณะพระตำหนักจะเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน หลังคาทรงปั้นหยาสมัยใหม่ มีการประดับตัวอาคารด้วยไม้ฉลุ ประดับที่ยอดจั่ว ข่องลม และเชิงชาย
ซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์ ของพื้นถิ่นและกลมกลืน
กับบ้านเรือนของประชาชนในชุมชนดั้งเดิมที่เป็น
ชาวไทยที่นับถือศาสนาอิลามเป็นส่วนใหญ่ค่ะ
ขอบคุณภาพจาก เวปไซด์ www.royaloffice.th
พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์น่าจะเป็นเขตพระราชฐานที่เดียวในโลกก็ว่าได้ ที่มีสุสานฝังศพชาวมุสลิมอยู่
ในพื้นที่ และพระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้ประชาชนสามารถผ่านเข้าออกพื้นที่เขตพระราชฐาน เพื่อประกอบศาสนกิจให้กับผู้วายชนม์ได้ทุกเมื่อ
เหมือนแต่เดิมที่ได้ปฏิบัติมา พระองค์ทรงเป็นองค์ศาสนูปถัมภกของทุกศาสนาโดยไม่มีการแบ่งแยก
เขาตันหยงมีพื้นที่โดยประมาณ 2,687 ไร่ โดยเป็นส่วนพระตำหนักประมาณ 232 ไร่ ภูมิประเทศส่วนใหญ่
ยังเป็นเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ และเต็มไปด้วยต้นไม้
ขนาดใหญ่และสัตว์ป่านานาชนิด
ขอบคุณภาพจาก เวปไซด์ www.royaloffice.th
บ้านของพ่อ ที่ฉันอยากพาคุณไปต่อจากนี้ มีความทรงจำมากมายในหัวใจของพสกนิกรชาวไทยค่ะ
🔹️🔹️🔹️🔹️🔹️
พระตำหนักไกลกังวล จังหวัดประจวบคีรีขันธุ์
ขอบคุณภาพจาก wikipedia.org
พระตำหนักไกลกังวล หรือที่เราเรียกติดปากว่า “วังไกลกังวล” สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2469 ซึ่งตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เพื่อพระราชทานแด่สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี
พระตำหนักองค์นี้เป็นพระตำหนักริมทะเล ที่มีส่วนของพระตำหนักและอาคารประกอบคือ
พระตำหนักเปี่ยมสุข เป็นพระตำหนักทรงสเปนสองชั้นพร้อมหอสูง และเป็นพระตำหนักองค์หลักที่องค์ล้นเกล้ารัชกาลที่ 7 และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีประทับ
ความสำคัญอีกประการหนึ่งคือพระตำหนักแห่งนี้เป็นที่ซึ่งองค์พ่อหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าในรัชกาลที่ 9 ทรงประทับระหว่างฮันนีมูนเป็นเวลา 3 วัน และทั้งสองพระองค์ได้ประทับที่พระตำหนักนี้อีกเป็นระยะเวลาหนึ่งก่อนที่องค์พ่อหลวงจะพระราชทานพระบรมราชานุญาตและโปรดให้ทีมแพทย์ทำการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราชจนกระทั่งสวรรคต
ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต
นอกจากพระตำหนักเปี่ยมสุข ยังมีพระตำหนักน้อย พระตำหนักปลุกเกษม พระตำหนักเอิบเปรมเอมปรีย์ ศาลาเริง ศาลาราชประชาสมาคม ที่ปลูกอยู่ในบริเวณเดียวกัน
🔸️🔸️🔸️🔸️🔸️
พระตำหนักทั้ง 4 แห่งที่กล่าวมา เป็นที่คุ้นเคยของพสกนิกรเป็นส่วนมากนะคะ แต่ยังมีพระตำหนักและที่ประทับทรงงานในจังหวัดต่าง ๆ อีกหลายแห่งที่สร้างไว้เป็นที่ประทับในช่วงเวลาเสด็จเยี่ยมเยียนราษฎร พร้อมกับทรงติดตามความคืบหน้าของโครงการตามพระราชดำริต่าง ๆ
ฉันอยากขอยกตัวอย่างที่ประทับทรงงานอีกหนึ่งที่ซึ่งฉันมีความประทับใจมาก นั่นคือ ที่ประทับทรงงานของโครงการชั่งหัวมัน ซึ่งเป็นโครงการตามแนวพระราชดำริโครงการสุดท้ายค่ะ
💠💠💠
โครงการชั่งหัวมัน
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต
โครงการนี้มีขนาดกว่า 250 ไร่ ตั้งอยู่ที่บ้านหนองคอไก่ ตำบลเขากระปุก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ที่ดำเนินการศึกษาการพัฒนาพื้นที่แห้งแล้งและเป็นศูนย์รวบรวมพืชเศรษฐกิจของจังหวัด
ขอขอบคุณภาพจาก kapook.com
ที่ประทับทรงงานขององค์พ่อหลวงของเราค่ะ
ขอบคุณภาพจากเวปไซด์ บ้านและสวน
ขอบคุณภาพจากหลวงลุงทัฟฟี่ค่ะ
ภาพความประทับใจ ที่จะตราตรึงตราบนานเท่านานค่ะ
ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต
ถ้าคุณมีเวลาที่จะไปท่องเที่ยวหลังจากสถานการณ์
การแพร่ระบาด ของ COVID 19 ฉันรับรองว่า
คุณจะไม่ผิดหวังที่ไปเยี่ยมชมโครงการชั่งหัวมัน
ขององค์พ่อหลวงของเราค่ะ
ไม่ลงรายละเอียดของโครงการนี้เลย เพราะฉันอยากให้คุณไปเห็นด้วยตาของคุณเองนะคะ
ข้อมูลส่วนมากที่นำมาเรียบเรียง นำมาจากเวปไซด์ของสำนักพระราชวัง และ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.)
บทกลอนนี้ ฉันเขียนไว้ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว
ขอนำมาระลึกถึงอีกครั้งค่ะ
🇹🇭🇹🇭🇹🇭🇹🇭🇹🇭🇹🇭🇹🇭🇹🇭🇹🇭
ปวงชนไทยทั่วแคว้น รำลึก
สรรพสิ่งพ่อสอนฝึก ดั่งให้
อาวุธต่อกรศึก ต้องหมั่น พากเพียร
ชนรุ่นใหม่เรียนไว้ พรั่งพร้อม วิชา
🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏
ฉันจะขอนำเสนอ บทความ การเดินตามรอยเท้าพ่อ
ในด้านอื่น ๆ ในโอกาสต่อไปค่ะ
ฉันหวังให้คุณทุกคนที่ระลึกถึงพระองค์ท่าน
ได้ดำเนินชีวิตโดยไม่ประมาท มีกำลังใจที่เข้มแข็ง
และมีความสุขในความพอเพียงค่ะ
💕💕💕💕💕💕
สวัสดีนะคะ
คนไทยตัวเล็กเล็ก
08/04/2020
- 8
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
